กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ธ.กสิกรไทย
กสิกรไทย หนุนเอสเอ็มอีปรับตัวรับน้ำมันแพง มั่นใจสินเชื่อเอสเอ็มอียังโตเกิน 3 เท่าของการเติบโตทางเศรษฐกิจ เล็งเป้ารุกกลุ่มลูกค้าส่งออกหนุนนโยบายรัฐที่เร่งส่งออกลดการขาดดุลการค้า
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์สินเชื่อพาณิชยธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาราคาน้ำมันที่มีการปรับราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าคงจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีบ้าง ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัว ทั้งในเรื่องกลยุทธ์การดำนินธุรกิจและการบริหารต้นทุน ซึ่งธนาคารก็ได้แนะนำให้ลูกค้าใช้บริการจัดการด้านการเงิน (Cash Management) เพื่อลดภาระและช่วยให้การจัดการทางการเงินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบน้อย เน องจากโดยปกติปริมาณสินเชื่อเอสเอ็มอีจะขยายตัวมากกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจประมาณ 3 เท่า ดังนั้นในปีนี้ คาดว่า ธนาคารกสิกรไทยจะยังสามารถปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 18% ทั้งนี้ใน 5 เดือนแรก ธนาคารมียอดสินเชื่อเอสเอ็มอีรวม 288,663 ล้านบาท เพิ่มจากสิ้นปีที่แล้ว 14,800 ล้านบาท หรือประมาณ 6% และมีเป้าหมายยอดสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2548 ที่ 326,550 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเอสเอ็มอี คือ เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan) ซึ่งเป็นสินเชื่อระยะยาวถึง 5-7 ปี ทำให้เอสเอ็มอีมีความมั่นใจในแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจระยะยาว โดยหลังเปิดให้บริการมาประมาณ 3 เดือนมียอดสินเชื่อแล้วประมาณ 740 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (KBANK Klean Credit) สำหรับ เอสเอ็มอีที่ยังไม่มีความพร้อมในการหาหลักประกันมาค้ำประกันการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งเปิดให้บริการมา 2 เดือน มีวงเงินสินเชื่อแล้วประมาณ 210 ล้านบาท
สำหรับอุตสาหกรรมเอสเอ็มที่มียอดสินเชื่อสูงได้แก่ อุตสาหกรรมข้าว ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การเกษตร โรงแรมและการก่อสร้าง ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารมีเป้าหมายที่จะรุกตลาดมากขึ้นได้แก่ ธุรกิจนำเข้าส่งออก(Trade Finance) ที่รัฐบาลกำลังเร่งส่งเสริมการส่งออก เพื่อลดการขาดดุลการค้า โดยเฉพาะการมีข้อตกลง FTA กับหลายประเทศที่จะช่วยสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของไทยให้มากขึ้น จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของเอสเอ็มอีในการพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ส่งออก รวมทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่น นอกจากนั้นโครงการเมกะโปรเจกของรัฐบาล ที่จะเริ่มดำเนินการน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อเอสเอ็มอีบางกลุ่มได้
รังษี บูรณประภาพงศ์
ฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมงานบริหารองค์การ ธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ 0 2470 2655 โทรสาร 0 2470 2746
e-mail: rungsee.b@kasikornbank.com
www.KASIKORNBANK.com--จบ--