กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--เฮอร์เมส คอมมูนิเคชั่น
- เล็งหาพันธมิตรรองรับแผนขยายงานด้าน โรงแรม และ เซอร์วิส เรสซิเดนท์
- ย้ำ ฐานการเงินพร้อมรองรับการลงทุนทุกรูปแบบ
กลุ่มสุวรรณอุตสาหกรรมปั่นทอและบริษัทในเครือ เดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อรองรับแผนการขยายงานด้านเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ และอสังหาฯ ภายหลังประสบความสำเร็จจาก สนามกอล์ฟ Suwan Golf & Country Club, Bliston Suwan Park View, Hotel and Serviced Residence และ Life Style Mall the Circle ราชพฤกษ์ จนสร้างความเชื่อมั่นต่อคณะผู้บริหารในการลงทุนในอนาคต
นายพงศกร พงษ์ศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สุวรรณนครชัยศรีการเกษตร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มสุวรรณอุตสาหกรรมปั่นทอ และเป็นผู้บริหาร สนามกอล์ฟสุวรรณกอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่กลุ่มได้ลงทุนดำเนินธุรกิจด้านสนามกอล์ฟ และ โรงแรม และ เซอร์วิส เรสซิเดนท์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ทางคณะผู้บริหารของกลุ่มจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจอสังหาฯเพื่อรองรับแผนการขยายตัวของกลุ่มในอนาคต
ปัจจุบัน กลุ่มสุวรรณฯ ได้จัดตั้งบริษัท บลิสตัน พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นท์ จำกัด เพื่อรับผิดชอบธุรกิจในส่วนของการบริการ โดยผลักดันโรงแรม และเซอร์วิส เรสซิเดนท์ ภายใต้แบรนด์บลิสตัน ธุรกิจหลักคือรับปรึกษาและบริหาร โรงแรม และเซอร์วิส เรสซิเดนท์ โดยปัจจุบัน อาคารที่ทาง บลิสตันได้เข้าไปบริหาร คือ บลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิลล์ ซึ่งเป็นอาคารของกลุ่มสุวรรณเอง โดยตั้งอยู่บริเวณซอยต้นสน เป็นโรงแรม และ เซอร์วิส เรสซิเดนท์ ขนาด 19 ชั้น จำนวน 152 ยูนิต เพื่อรองรับนักธุรกิจที่เน้นอยู่อาศัยและดำเนินธุรกิจในทำเลใจกลางเมือง โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 85% ตลอดทั้งปี
ทางด้าน นายกิจจา เหล่าสุวรรณ์ Residence Manager ของ บลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิลล์ และเป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารของบริษัท บลิสตัน พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเมนท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงบลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิลล์ ซึ่งจะปรับปรุงเป็นโซน โดยขณะนี้ ปรับปรุงเสร็จแล้วประมาณ 20 เปอร์เซนต์ คาดว่าจะใช้งบปรับปรุงทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท โดยจะทำการทยอยปรับปรุงให้ครบทุกห้อง
“สาเหตุที่เราต้องลงทุนปรับปรุงเพราะการบริหารเซอร์วิสนี้จะต้องรักษาคุณภาพการให้บริการควบคู่ไปกับการสร้างความประทับใจในห้องพักและโครงการให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจนี้จึงจะมีความยั่งยืน” นายกิจจา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังบริหารเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ให้แก่อาคารบ้านเค ถนนสาทร ในซอยสาทร 2 ขนาด 28 ยูนิต และโครงการ Viva Garden ย่านสุขุมวิท ขนาด 111 ยูนิต โดยโครงการบ้านเคนั้นได้เปิดให้บริการไปแล้ว และมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยม ส่วนของ Viva Garden นั้นเพิ่งเปิดบริการไปในวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมานี้
“ความสำเร็จของธุรกิจนี้ ตัววัดความสำเร็จคือเราได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของอาคารให้เข้าไปบริหารโครงการ ซึ่งเราได้เห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจนี้ต่อไป” นายกิจจากล่าว
นายกิจจากล่าวว่าทางบริษัทฯ มีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการ โรงแรม และ เซอร์วิส เรสซิเดนท์ ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างใหม่ เช่าระยะยาวหรือรับบริหารอาคาร โดยทางบริษัทมีทีมงานที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพพร้อมในทุก ๆ ด้าน
“แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำเล ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำธุรกิจอสังหาฯ หากทำเลเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ เราพร้อมที่จะเจรจาในทุกรูปแบบในราคาที่เหมาะสม” นายพงศกรกล่าว
สำหรับธุรกิจด้านคอมมูนิตี้ มอลล์ นายพงศกรกล่าวว่าปัจจุบันทางกลุ่มสุวรรณฯ เป็นเจ้าของโครงการเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดี จนทำให้ที่จอดรถไม่เพียงพอ ซึ่งกำลังขยายเพิ่มประมาณ 200 คัน ซึ่งคงจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้