กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--มาสด้า เซลส์
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาขานรับโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 13 กันยายนนี้ ในโครงการรถยนต์คันแรก นับเป็นหนึ่งในมาตรการภาษีภายใต้ 16 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก เพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากผู้บริโภค รวมถึงลูกค้าที่กำลังรอคอยเป็นเจ้าของรถยนต์คันแรกในชีวิต โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์นั่งมาสด้า2 ใหม่ ทั้งรุ่นสปอร์ต 5 ประตู และเอลิแกนซ์ 4 ประตู ซึ่งมีเครื่องยนต์ขนาด 1500 ซีซี และเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 25% ซึ่งลูกค้าจะได้รับการสิทธิประโยชน์มากที่สุด และรถปิกอัพช่วงล่างดี มาสด้า บีที-50 ซึ่งเข้าข่ายได้รับสิทธิ์ในโครงการนี้เช่นกัน และคาดว่าจะส่งผลทำให้ยอดขายรถยนต์ทั้งตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้มาสด้ายังเตรียมกระตุ้นตลาดระลอกใหญ่ เพื่อให้สามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าได้ง่ายขึ้น ด้วยการอัดแคมเปญพิเศษโหมตลาดในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ทางรัฐบาลได้อนุมัติโครงการรถยนต์คันแรก ซึ่งเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมตลาดรถยนต์ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทยที่กำลังลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ รวมทั้งจะทำให้ตลาดรถยนต์มีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์บีคาร์ที่มีเครื่องยนต์ไม่เกิน 1500 ซีซี และรถปิกอัพที่ได้รับอานิสงค์ไปแบบเต็มๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ที่สามารถเติมน้ำมัน E20 และเสียภาษีสรรพาสามิตในอัตรา 25% และสามารถได้คืนภาษีสูงสุด 100,000 บาท นอกจากนี้แล้วมาสด้ายังอัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ด้วยการมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเข้าไปอีก โดยรถยนต์นั่งมาสด้า2 ทั้งรุ่นสปอร์ต แฮชต์แบค 5 ประตู และรุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู จัดเต็มด้วยฟรีค่าบำรุงรักษานาน 2 ปี ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.4% เท่านั้น สำหรับปิกอัพช่วงล่างดี มาสด้า บีที-50 ก็จัดหนักเช่นเดียวกันด้วยการแถมประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี ดอกเบี้ยเพียง 1.99% และหากนำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่เพิ่มมูลค่าให้สูงสุดถึง 15,000 บาท
สำหรับโครงการรถยนต์คันแรก กระทรวงการคลังกำลังนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในวันที่ 13 กันยายนนี้ โดยได้กำหนดเงื่อนไขว่า หากเป็นรถยนต์นั่ง ต้องมีความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ไม่เกิน 1500 ซีซี ในราคาไม่เกินคันละ 1 ล้านบาท ส่วนรถกระบะนั้น ไม่ได้มีการกำหนดเครื่องยนต์ และผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมถึงผู้ที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ซึ่งตรงตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 54 — 31 ธันวาคม 55 นี้เท่านั้น สำหรับรูปแบบในการคืนเงินนั้น หลังจากที่ซื้อรถแล้ว ผู้ซื้อต้องนำเอกสารการซื้อไปยื่นขอรับเงินภาษีสรรพสามิตรถยนต์คืนได้ที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะคืนเป็นเช็คให้หลังจากวันที่ซื้อรถแล้ว 1 ปี และมีเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อต้องถือครองรถนาน 5 ปี ไม่สามารถโอนได้
ดังนั้นลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการเป็นเจ้ายานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจสมรรถนะเป็นเยี่ยมให้ความมั่นใจในความปลอดภัยอบอุ่นใจตลอดการเดินทางพร้อมทดลองขับก่อน ตัดสินใจเป็นเจ้าของและรับข้อเสนอสุดพิเศษที่โชว์รูมมาสด้าทั้ง 129 แห่งทั่วประเทศ