ผลวิจัยแสนสิริ ชี้แนวโน้มตลาดบ้านและอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2002

ข่าวทั่วไป Tuesday October 29, 2002 13:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
ฝ่ายวิจัยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2545 เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้น
ผลวิจัยระบุว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวมาตั้งแต่ปี 2544 อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดที่ดีขึ้นนี้ส่งผลดีเป็นอย่างมากให้เฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งทำให้ภาวะการแข่งขันยังคงกระจุกตัวอยู่กับผู้ประกอบการเพียงไม่กี่ราย
ทั้งนี้ มีจำนวนบ้านใหม่ที่จดทะเบียนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2545 เพิ่มขึ้นจาก 18,400 ยูนิต หรือร้อยละ 2.63 ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าสถิติการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ประเภท ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 91.07 จากปีที่แล้วมาเป็น 4,213 ยูนิตในปีนี้
ส่วนอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยวที่จดทะเบียนในปีนี้ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.93 เป็นจำนวน 11,905 ยูนิต โดยจำนวนบ้านที่เจ้าของจ้างให้ผู้รับเหมาสร้างมีจำนวนประมาณ 8,519 ยูนิต หรือลดลงร้อยละ 1.56 ในขณะที่จำนวนบ้านในโครงการจัดสรร มีจำนวน 3,386 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.28 ทั้งนี้ทำเลที่เป็นที่นิยม คือบริเวณกรุงเทพฯ ตอนเหนือ และบริเวณใกล้เคียง
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2545 มีผู้ประกอบการประมาณ 90 รายที่ขออนุญาตจดทะเบียน คิดเป็นอัตราร้อยละ 50 ของจำนวนผู้ขอจดทะเบียนทั้งหมดจากกรมที่ดิน จำนวนผู้ประกอบการที่ขออนุญาตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว โดยพิจารณาจากความเคลื่อนไหวของตลาดในปัจจุบันจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีโครงการทยอยเข้าสู่ตลาดในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 20 ราย โดยบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ก็ยังคงเป็นผู้นำในตลาดอยู่โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ประมาณร้อยละ 25
ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทโครงการอาคารเพื่อการเช่าพักอาศัยหรืออพาร์ทเม้นท์ในคุณภาพระดับสูงนั้น มีอุปทานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ทั้งนี้คาดว่าจะมีจำนวนอุปทานใหม่ไม่เกิน 1,000 ยูนิต ที่จะทยอยเข้าสู่ตลาดในอีก 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่า อุปสงค์ยังอยู่ในระดับคงที่ ในขณะที่อัตราค่าเช่าแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ทางด้านตลาดอาคารสูงเพื่อการพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียมนั้น ความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2545 นี้ยังไม่คึกคักมากนัก เนื่องจากปริมาณอุปทานของคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ยังมีค่อนข้างจำกัด จำนวนยูนิตที่ยังว่างอยู่โดยเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2545 ลดลงมาที่ร้อยละ 31 เทียบกับช่วงวิกฤติในปี 2540 ซึ่งมีอัตราการว่างถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นก็มาจากทั้ง 2 ส่วนคือเพื่อการพักอาศัยและเพื่อการลงทุน
ในขณะที่แนวโน้มภาวะตลาดด้านอาคารสำนักงาน ยังคงปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2545 โดยอัตราการว่างของตลาดอาคารสำนักงานอยู่ที่ระดับร้อยละ 28 ส่วนอัตราค่าเช่าโดยเฉลี่ยมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ศุภอัชฌ์ ชาตรูปะวณิช หรือ วิภาวริศ เกตุปมา
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและการตลาด ยุลาวัลย์ เหลืองประเสริฐ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
02-201-3535 02-951-9119 หรือ 02-951-9431--จบ--
-ศน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ