กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ศกนี้ เป็นต้นมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง โดยน้ำมันเบนซินได้ปรับตัวสูงขึ้นประมาณเกือบ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ล่าสุดวันนี้ (14 ธ.ค.48) น้ำมันเบนซิน95 อยู่ที่ระดับ 63.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ 63.38 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 54.88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับเหตุผลที่ในช่วงนี้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐฯ ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้ Heating Oil เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสัปดาห์นี้จะมีความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้นถึง 7% ประกอบกับเกิดเหตุไฟไหม้คลังน้ำมัน Buncefield ใกล้เมือง Helmet Hempstead ของประเทศอังกฤษ ซึ่งแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้วแต่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ เพราะไฟได้ไหม้ลุกลามไปท่อขนส่งน้ำมันที่ไปยังสนามบิน (คลังฯ แห่งนี้ สำรองน้ำมันประมาณ 5% ของประเทศอังกฤษ) ทำให้ปริมาณน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเซียลดน้อยลง เนื่องจากมีโอกาสส่งออกไปขายยังภาคตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปมากขึ้น นอกจากนี้โรงกลั่นในประเทศไต้หวันซึ่งมีกำลังการผลิต 450,000 บาร์เรล/วัน ได้ปิดซ่อมบำรุง จึงทำให้ปริมาณน้ำมันเบนซินในตลาดลดน้อยลง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ปตท. ชี้แจงว่า จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นปตท. จึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาปรับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร ทั้งนี้มีผลตั้งแต่พรุ่งนี้ (15 ธ.ค. 48) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 25.64
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.14
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.84
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 23.09
น้ำมันดีเซล-ปาล์ม (บริสุทธิ์) 22.59
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาน้ำมันยังคงผันผวนเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอชียเหนือ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะมีการเข้ามาซื้อน้ำมันเพื่อเก็งกำไรจากข่าว International Energy Agency (IEA) ที่คาดการณ์ความเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2006 เพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ระดับ 1.79 ล้านบาร์เรล/วัน และในปี 2007-2010 คาดว่าความต้องการใช้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ระดับประมาณ 1.8-2 ล้านบาร์เรล/วัน ในระยะนี้คงต้องดูท่าทีในการประชุมของกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในปีหน้า (31 ม.ค.49) ว่าจะคงแผนการผลิตที่ระดับ 28 ล้านบาร์เรล/วัน หรือไม่ ดังนั้นมาตรการประหยัดจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งต่อทุกคนเพื่อประหยัดเงินตนเองและช่วยลดการนำเข้าพลังงานอีกทางด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538
โทรสาร 0 2537 2571--จบ--