กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--กทม.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ ( 7 พ.ย.45 ) เวลา 08.30 น. ดร.สหัส บัณฑิตกุล รองผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ กลั่นพจน์ นายธีรเดช ตังประพฤทธิ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และคณะ เดินทางไปตรวจดูสภาพน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานพุทธ เขตพระนคร โดยดร.สหัส เปิดเผยภายหลังการตรวจดูสภาพน้ำว่า กทม.ได้รับข้อมูลจากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ซึ่งได้คำนวณฐานน้ำทะเลที่จะหนุนไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า วันนี้เป็นวันที่น้ำทะเลหนุนสูงที่สุดในรอบปี คือ เวลาประมาณ 08.48 น. ฐานน้ำทะเลอยู่ที่ระดับ 1.36 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวัดได้ที่ใต้สะพานพุทธ วันนี้ ณ เวลาประมาณ 08.50 น. มีความสูง 1.92 เมตร จากรทก.อยู่ในเกณฑ์ที่กรุงเทพมหานครรับมือได้ไม่มีปัญหา เพราะกำแพงกั้นน้ำริมแม่เจ้าพระยามีความสูง 2.80 - 3.00 เมตร จากรทก.และยังมีกระสอบทรายที่วางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวสูง 2.50 เมตร อย่างไรก็ดีน้ำที่ไหลมาท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนภูมิพลรวมกันประมาณ 2,467 ลบ.ม./วินาที และขณะนี้น้ำในเขื่อนภูมิพลใกล้จะเต็มเขื่อน และกำลังปล่อยน้ำออกจากเขื่อนบ้างแล้ว ในส่วนของกทม.อาจจะไม่ได้รับผลกระทบ และน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ผ่านพ้นวิกฤต แต่กทม.ก็ไม่ประมาทยังคงเตรียมความพร้อมรับมือเต็มที่จนถึงวันลอยกระทง
ดร.สหัส กล่าวอีกว่า ประมาณวันที่ 12 พ.ย.2545 กทม.จะเริ่มปล่อยน้ำเข้ามาในคลองเพื่อให้คลองมีสภาพน้ำที่ดีกว่าเดิม จากนั้นประมาณปลายเดือนพ.ย.นี้ กทม.จะร่วมประชุมกับกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับการขุดลอกท่อระบายน้ำและคลองในพื้นที่กทม.โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2545 จนถึงเดือนสิงหาคม 2546
สำหรับสรุปข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำที่ผ่านมามี ดังนี้ วันที่ 3 ต.ค.45 น้ำเหนือที่ไหลมาจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ .พระนครศรีอยุธยา และเขื่อนภูมิพล จ.ชัยนาท รวมกัน 4,326 ลบ.ม./วินาที วันที่ 7 ต.ค. เป็นวันที่ 3 น้ำ มาพร้อมกัน คือ น้ำทะเลหนุน น้ำเหนือไหลผ่าน และน้ำฝน โดยฝนตกตั้งแต่ประมาณเวลา 03.00 - 10.00 น.และน้ำทะเลหนุนตั้งแต่ เวลา 06.30 - 07.30 น. วันที่ 10 ต.ค.45 น้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน วัดที่ใต้สะพานพุทธมีความสูงรวมกัน 2.12 เมตร จาก รทก.--จบ--
-นห-