กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--ฐิติกร
? ถือเป็นตัวเร่งให้ยอดปล่อยสินเชื่อต่างจังหวัดเติบโตเร็วกว่ากรุงเทพฯ
? ส่วนนโยบายคืนภาษีรถคันแรก จะกระตุ้นยอดขายรถยนต์ขนาดเล็ก และตลาดรถยนต์ในประเทศโดยรวม
? เร่งสำรวจความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ ชี้นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะกระตุ้นกำลังซื้อรถจักรยานยนต์ในภาคกลางและภาคอีสานให้เติบโตเร็วขึ้น ซึ่ง TK ได้เร่งเพิ่มพนักงานประจำสาขาต่างจังหวัดเพื่อรองรับกับการเติบโตครั้งนี้
นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่าปัจจุบันยอดปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดของ TK คิดเป็นประมาณ 65% ของยอดสินเชื่อทั้งหมด ในขณะที่ภาพรวมของยอดขายรถจักรยานยนต์ในเขตต่างจังหวัดมีสูงถึง 80% ของตลาดรวม
“การเปิดรับจำนำข้าวครั้งใหม่นี้ จะกระตุ้นกำลังซื้อของคนภาคกลางและภาคอีสานโดยตรง ซึ่งจะทำให้ตลาดต่างจังหวัดของเราสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น เราจึงเชื่อว่าเป้าหมายของการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อต่างจังหวัดให้เป็น 80% นั้น สามารถบรรลุผลได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า” นายประพลกล่าว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/2555 ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ระยะเวลาเริ่มต้นโครงการตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2554 -วันที่ 29 ก.พ. 2555 มีระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือนนับจากวันรับจำนำ วงเงินที่ใช้ดำเนินโครงการรวม 4 แสนล้านบาท
สำหรับรายละเอียดราคารับจำนำข้าวได้กำหนดชนิดข้าวเปลือกนาปีความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้ 1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 20,000 บาท 2.ข้าวเปลือกหอมจังหวัด ตันละ 18,000 บาท 3.ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 16,000 บาท 4.ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว 10% ตันละ 16,000 บาท 5.ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดสั้น 10% ตันละ 15,000 บาท 6.ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 15,000 บาท 7.ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 14,800 บาท 8.ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 14,600 บาท 9.ข้าวเปลือกเจ้า 15% ตันละ 14,200 บาท และ10.ข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 13,800 บาท
นายประพลเชื่อมั่นว่าราคาข้าวที่รับจำนำครั้งนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันตลาดข้าวในต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะคู่แข่งสำคัญของไทยคือเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับสองรองจากประเทศไทย เริ่มประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง ส่งผลให้ปริมาณข้าวที่จะออกสู่ตลาดโลก มีโอกาสลดลง จึงเชื่อว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทย น่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
นายประพลกล่าวย้ำว่ากำลังซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นครั้งนี้ ย่อมเป็นผลดีต่อตลาดรถจักรยานยนต์โดยตรง โดยในปีนี้คาดว่าตลาดรถจักรยานยนต์จะสร้างสถิติการขายใหม่ที่น่าจะทะลุระดับ 2 ล้านคัน อีกทั้งระยะเวลาของโครงการรับจำนำข้าวในช่วงปลายไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 1 ปีหน้า เป็นช่วงที่มีการจำหน่ายรถจักรยานยนต์สูงสุดของแต่ละปี ซึ่ง TK น่าจะได้รับผลดีจากนโยบายนี้โดยตรง คาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อรวมปีนี้ของ TK จะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
“ในภาวะอย่างนี้ เราได้เตรียมความพร้อมที่จะรองรับกับการเติบโตครั้งนี้โดยการเพิ่มพนักงานอีก 400 อัตราโดยเน้นเพิ่มในเขตต่างจังหวัด ในปีนี้เราได้ขยายสาขาต่างจังหวัดไปแล้ว 1 สาขา และภายในปีนี้ เราจะเปิดสาขาต่างจังหวัดเพิ่มอีก 2 แห่ง จากขณะนี้ที่เรามีอยู่ 78 สาขาใน 45 จังหวัด” นายประพลกล่าว
สำหรับนโยบายคืนภาษีสรรพสามิตรถยนต์คันแรกไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคันนั้น นายประพลกล่าวว่านโยบายนี้ จะมีส่วนกระตุ้นให้ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่ง TK น่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้เช่นกัน แต่อาจจะไม่มากเท่ากับนโยบายรับจำนำข้าว เนื่องจากธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของ TK มีสัดส่วนเพียง 20% ของยอดสินเชื่อทั้งหมด
สำหรับวิกฤติการน้ำท่วมในปัจจุบัน นายประพลกล่าวว่า TK อยู่ระหว่างการสำรวจผลกระทบว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด แต่บริษัทมีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเช่นเดียวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ วิรัตน์ ตรีรานุรัตน์
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
Email: virathr@gmail.com