กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายไกล่เกลี่ย การท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน นำโดยนายจู้ซ้านจง รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน
นายถังปิง รองอธิบดีฝ่ายไกล่เกลี่ย นายเจิ๋นเฉิน เลขาสำนักงาน นายมียอช ฝ่ายแปลระหว่างประเทศ นางสาวโก่งเสี่ยวหัว รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยฝ่ายธุรการ และนายหยางหงโหว่ย เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยวันหยุดฝ่ายธุรการ เข้าร่วมหารือเกี่ยวกับมาตรการการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งไทยและจีนที่ได้มีการท่องเที่ยวในแต่และประเทศ ในวันที่ 14 กันยายน 2554 ณ ห้องรับรอง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ถนนราขดำเนินนอก)
นายสมบัติ กล่าวว่า ประเทศจีนและประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์กันยาวนาน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจวัฒนธรรมซึ่งมีความคล้ายคลึงกันในหลายๆอย่าง ประเทศไทยและจีนจึงมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากจีนได้หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งในขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศจีนกำลังพัฒนาและเติบโต ประชากรในประเทศมีรายได้ที่สูงขึ้น ทำให้คนจีนมีกำลังมากพอที่จะท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้เส้นทางการคมนาคมการท่องเที่ยวของไทยและจีนได้ถูกพัฒนาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เส้นทางทางภาคเหนือของไทยที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน ทำให้มีความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวมาก จึงทำให้คนจีนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวประเทศไทยจึงสามารถขับพาหนะส่วนตัวเข้ามาเที่ยว
ในประเทศไทยมากขึ้น จึงต้องการให้ทางรัฐบาลไทยช่วยส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ระหว่างสองประเทศ ไม่เพียงประเทศจีนที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเท่านั้น คนไทยเองได้ให้ความสนใจท่องเที่ยวในประเทศจีนเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้รัฐบาลจีนต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศจีน โดยทางประเทศไทยเองตระหนักถึงปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
จึงได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ Crisis Management Plan เพื่อให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวยามเกิดเหตุวิกฤติ ซึ่งได้รับความสนใจจากหลายประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีวิกฤตเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ทั้งภัยธรรมชาติ การเมือง โรคระบาด ในแต่ละช่วงที่เกิดวิกฤตดังกล่าว ประเทศไทยมีการแก้ปัญหาได้ทันท่วงที ไม่มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อีกทั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุสุดวิสัย ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทางประเทศไทย ได้มีการจัดตั้งงบประมาณ จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยตรง สำหรับในส่วนของการประกันอุบัติเหตุ ให้กับนักท่องเที่ยวนั้น พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้บริษัททัวร์ทุกบริษัท ทำประกันให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต้องมากับบริษัททัวร์ที่ถูกกฎหมายเท่านั้น จึงจะได้รับการประกันภัยคุ้มครองดังกล่าว สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเองโดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ ทางประเทศไทยจะประชาสัมพันธ์และสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวทำประกันอุบัติเหตุ (Travel Insurance) ในประเทศของตนก่อนเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยทั้งร่างกายและสร้างความเชื่อมั่นก่อนเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศไทย เพราะอุบัติเหตุเราไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ ทั้งนี้
การจัดการด้านการปลอดภัยของประเทศไทยนั้นเป็นการทำงานแบบบูรณาการ โดยมีความร่วมมือกับหลายๆฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นต้น
นายสมบัติ กล่าวปิดท้ายว่า การที่จีนมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ทางประเทศจีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมาเยือนไทยในครั้งนี้ จะเป็นการสานสัมพันธ์ไทยและจีนให้แน่นแฟ้นมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งระบบดูแลรักษาความปลอดภัยของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีนรู้สึกยินดีและคาดการว่าในปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นแน่นอน และทาง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารู้สึกยินดีกับการมาเยือนของคณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีนเช่นเดียวกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยและประเทศจีนจะร่วมกันพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศโดยสร้างความเชื่อมั่น และความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้กับแต่ละประเทศต่อไป