ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ วิเคราะห์แนวโน้มอสังหาฯปี 46 สดใส เผยยอดขายปี 45 โตขึ้นกว่า 47% พร้อมใช้กลยุทธ์เชิงรุก เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 3 แห่ง ในไตรมาส 1

ข่าวทั่วไป Monday January 20, 2003 17:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจ แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2546 สดใส โดยพิจารณาจากยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยและปริมาณสินเชื่ออยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมแจงผลการดำเนินงานปี 2545 มียอดขายสูงสุดถึง 2,203 ล้านบาท เติบโตถึง 47% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนยอดรับรู้รายได้สูงถึง 1,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% ตั้งเป้าเปิดโครงใหม่อีก 3 โครงการ ในไตรมาสแรก เน้นกลยุทธ์ การตลาด โดยชูจุดขายเรื่องการประกันบริการหลังการขายโดยระบบบริหารกองทุนสาธารณูปโภคเป็นแห่งแรก สร้างบ้านคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล และมุ่งขยายโครงการในพื้นที่ 4 มุมเมืองให้แข็งแกร่ง
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2545 และแนวโน้มในปี 2546 ว่า ยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพและปริมณฑลของปี 2545 จำนวน 36,200 ยูนิต ส่วนปี 2546 คาดว่าจะมีจำนวน 39,100 ยูนิต คิดเป็นอัตราการเติบโต 8% ส่วนยอดจดทะเบียนของที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพและปริมณฑลประเภทจัดสรรของปี 2545 มีจำนวน 17,500 ยูนิต ในปี 2546 คาดว่าจะมีจำนวน 21,400 ยูนิต คิดเป็นอัตราการเติบโต 22.29% สำหรับยอดจดทะเบียนของที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพและปริมณฑลประเภทบ้านสร้างเองของปี 2545 มีจำนวน 18,700 ยูนิต ในปี 2546 คาดว่าจะมีจำนวย 17,700 ยูนิต คิดเป็นอัตราการเติบโต -5.34% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในผู้ประกอบการบ้านจัดสรรเพิ่มมากขึ้น และจากสถานการณ์ดังกล่าว กล่าวได้ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มที่ดี และน่าลงทุน
เมื่อพิจารณาทางด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ ในปี 2545 (นับถึงไตรมาส 3) พบว่า มีมูลค่า 731,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ถึง 8.23%
สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2546 ได้แก่ โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยจากภาครัฐ ภาวะสงครามที่อาจเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มุ่งเน้นตลาดบน ประการสุดท้ายคือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากที่มีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนนำเงินมาซื้อบ้านมากขึ้น
นายไชยยันต์ กล่าวถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2545 ว่ามียอดขายสูงถึง 2,203 ล้านบาท เติบโตถึง 47% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมียอดรับรู้รายได้ 1,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ที่มียอดรับรู้รายได้ 47% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมียอดรับรู้รายได้ 1,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ที่มียอดรับรู้รายได้ 1,418 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 36%
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2546 บริษัทฯ จะมียอดขาย 2,754 ล้านบาท และจะมียอดรับรู้รายได้ 2,413 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 25% นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการจะเปิดในไตรมาสที่ 1 ทั้งหมด
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาด 6.2% แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาด 18.4% สำหรับนโยบายการตลาดในปี 2546 นี้ บริษัทฯ จะมุ้งเน้นการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดบ้านระดับกลาง โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาด คือ การให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย โดยรับประกันบริการหลังการขายด้วยระบบบริหารกองทุนสาธารณูปโภค ซึ่งลลิล พร็อพเพอร์ตี้ นับเป็น บริษัทฯ แรกที่จัดตั้งกองทุนในลักษณะนี้ โดยปัจจุบันมีมูลค่ากองทุนสูงถึง 72 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมุ่งขยายโครงการในพื้นที่ 4 มุมเมืองให้แข็งแกร่ง รวมทั้ง จะชูจุดขายในเรื่องการสร้างบ้านคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล พร้อมกันนี้ จะเร่งประชาสัมพันธ์การซื้อบ้านผ่านเว็บไซต์โดยใชสโลแกน คิดถึงบ้านทุกทำเลรอบกรุงเทพฯ คลิก www.lalinproperty.com และยังคงนโยบายคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กลยุทธ์ค้ำประกันเงินดาวน์ โดยธนาคาร
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อุษณีย์ ถาวรกาญจน์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทร. 0 2247 4228 โทรสาร 0 2246 1481
E-mail : usanee@incom.co.th-- จบ--
-นท/สท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ