กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อฟื้นฟู SME หลังภัยพิบัติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 ว่า จากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่หลายจังหวัดในแถบภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางรวม 41 จังหวัด ได้ประสบอยู่ในขณะนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ SME BANK สถาบันการเงินของรัฐดำเนินการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ธนาคารจัดเตรียมวงเงินสินเชื่อ จำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME สำหรับใช้ฟื้นฟู ปรับปรุง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกิจการ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ ในพื้นที่ตามประกาศของทางราชการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
โดยให้กู้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือตามความเป็นจริง
อัตราดอกเบี้ยคงที่ 8 % ต่อปี ตลอดสัญญา โดยรัฐบาลช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ 2 % ทุกปี
ส่วนผู้ประกอบการจะจ่ายเพียง 6 % ต่อปี
ระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 6 ปี และ 2 ปีแรกชำระแต่เพียงดอกเบี้ย ยังไม่ต้องชำระคืนเงินต้นเพื่อให้กิจการมีความเข้มแข็ง
ไม่ต้องใช้หลักประกัน หรือการค้ำประกัน
การตรวจสอบประวัติทางการเงิน (Credit Bureau) จะไม่นำมาใช้เป็นเงื่อนไขในการปฏิเสธการให้สินเชื่อ
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ และเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้เงินกู้เพื่อนำไปปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ รวมถึงจำเป็นต้องมีเงินทุนส่วนหนึ่งเป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการที่ยื่นขอกู้จะต้องมีสถานประกอบการอยู่ในพื้นที่ประสบเหตุภัยพิบัติ และกิจการได้รับผลกระทบ โดยจะต้องมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ว่าเป็นผู้ประกอบการอยู่ในพื้นที่ที่ประสบเหตุภัยพิบัติ และได้รับผลกระทบ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังย้ำว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ตั้งใจช่วยเหลือ เยียวยาให้ผู้ประกอบการฟื้นตัวจากภัยพิบัติในครั้งนี้ เพื่อให้กิจการ SME ในพื้นที่สามารถกลับมาดำเนินการ ได้ตามปกติ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในชุมชนเข้มแข็งดังเดิม
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย Call Center โทร.1357