กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
แอร์บัสได้เล็งเห็นถึงความต้องการของเครื่องบินเชิงพาณิชย์ โดยแอร์บัส โกลบอล มาร์เก็ต ฟอร์คาสต์ (GMF) รายงานว่าจากนี้จนถึงช่วงพ.ศ. 2573 จะมีความต้องการเครื่องบินใหม่ถึง 27,800 ลำ โดยแบ่งออกเป็นเครื่องบินโดยสารจำนวน 26,900 ลำ (มากกว่า 100 ที่นั่ง) และเครื่องบินขนส่งอีกมากกว่า 900 ลำ ซึ่งมีมูลค่าถึง 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากการคาดการณ์ ภายในพ.ศ. 2573 จะมีการโดยสารทางอากาศทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าจากปัจจุบัน 15,000 ลำเป็น 31,500 ลำ และนี่จะรวมไปถึงเครื่องบินใหม่จำนวน 27,800 ลำที่จะทำการส่งมอบ ซึ่งจำนวน 10,500 ลำจะเข้ามาแทนที่เครื่องบินเก่าที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดเชื้อเพลิงน้อยกว่า ในส่วนของเครื่องบินขนาดใหญ่ก็ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ประชาชนจะใช้บริการโดยสารทางอากาศเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในอีก 20 ปีข้างหน้ามีความคาดหวังในส่วนของเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมการบินจะมีการฟื้นตัวเฉกเช่นในอดีตที่ผ่านมา แอร์บัสได้คาดการณ์ สำหรับการเดินทางภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำของโลกจากผลรวมรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อกิโลเมตร (Revenue Passenger Kilometres — RPKs) จะโตขึ้นประมาณร้อยละ 4.8 ต่อปี ซึ่งเท่ากับจะเติบโตเป็นสองเท่าในอีก 20 ปีข้างหน้า
ปัจจัยของความต้องการเครื่องบินใหม่นั้น ประกอบด้วย การเพิ่มขึ้นของประชากรบวกกับการเพิ่มขึ้นทรัพย์สิน, การเติบโตของเศรษฐกิจ, การเติบโตที่เข็มแข็งของตลาดในอเมริกาเหนือและยุโรป, การเพิ่มขึ้นของชุมชนเมืองและจำนวนเมืองใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีพ.ศ. 2573 ซึ่งยังจะรวมไปถึงการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ และความต้องการที่จะนำเอาเครื่องบินที่มีความสามารถในการประหยัดพลังงานมาแทนที่เครื่องบินเก่า
ภาพรวมในอีก 20 ปีข้างหน้าของอุตสาหกรรมการบิน สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคมีความต้องการประมาณร้อยละ 34 ตามมาด้วยยุโรป (ร้อยละ 22) และอเมริกาเหนือ (ร้อยละ 22) ในส่วนของอัตราผู้โดยสาร ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดคิดเป็นร้อยละ 33 ตามมาด้วยยุโรป (ร้อยละ 23) และอเมริกาเหนือ(ร้อยละ 20)
ในส่วนของอัตราผู้โดยสารสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ในอีก 20 ปีข้างหน้าอินเดีย (ร้อยละ 9.8) และจีน (ร้อยละ 7.2) จะเป็นตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด การเติบโตในระยะยาวของตลาดอุตสาหกรรมการบินยังจะรวมไปถึงการเติบโตของการเดินทางภายในประเทศของสหรัฐอเมริกาคิดเป็นร้อยละ 11.1 และยุโรปตะวันออกคิดเป็นร้อยละ 7.5 ซึ่งมีส่วนแบ่งเป็นอันดับหนึ่งและสามจากอัตราผู้โดยสารทั้งหมดในปีพ.ศ. 2573
“อุตสาหกรรมการบินถือเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของโลก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำมัยผู้คนต่างต้องการเดินทางทางอากาศ” กล่าวโดย มร. จอห์น เลฮีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ “ แอร์บัสได้นำเอานวัตกรรมใหม่ล่าสุด และผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของสายการบินและความคาดหวังของบรรดาผู้โดยสารในปัจจุบันและอนาคต”
ภายในปีพ.ศ. 2573 ร้อยละ 60 ของประชากรโลกหรือประมาณห้าพันล้านคนจะอาศัยอยู่ในเขตเมือง และเมืองใหญ่ๆจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปัจจุบัน 39 เมืองเป็น 87 เมือง ยังมีการคาดการณ์อีกว่ามากกว่าร้อยละ 90 ของผู้โดยสารในเที่ยวบินระยะไกลจะทำการบินระหว่างเมืองใหญ่ๆเหล่านี้
ความต้องเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่มาก (VLA: Very Large Aircraft) ที่มีที่นั่งมากกว่า 400 ที่นั่ง เช่น เครื่องบิน เอ380 นั้นเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในปีที่ผ่านมาจาก (1,738 ลำ) เป็น 1,781 ลำ คิดเป็นมูลค่ากว่า 600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 17 ของมูลค่าหรือร้อยละ 6 ของจำนวนเครื่องบิน และเครื่องบินประมาณ 1,330 ลำ จะทำการเชื่อมต่อกับบรรดาเมืองใหญ่ๆของโลก สำหรับระดับภูมิภาคประมาณร้อยละ 45 ของความต้องเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่มาก (VLA: Very Large Aircraft) จะทำการส่งมอบเครื่องบินไปยังภูมิภาคเอเชีย ตามมาด้วยตะวันออกกลางร้อยละ 23 และยุโรปคิดเป็นร้อยละ 19
ในส่วนของเครื่องบินทางเดินคู่ (รองรับผู้โดยสารได้ 250 ถึง 400 ที่นั่ง) ทั้งแบบโดยสารและแบบขนส่งสินค้า กว่า 6,900 ลำ จะถูกทำการจัดส่งในอีก 20 ปีข้างหน้า รวมมูลค่ากว่า 1,500 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 43 ของมูลค่าหรือร้อยละ 25 ของจำนวนเครื่อง โดยแบ่งเป็นเครื่องบินทางเดินคู่ขนาดเล็ก (บรรจุที่นั่งผู้โดยสาร 250 ถึง 300 ที่นั่ง) ประมาณ 4,800 ลำ และเครื่องบินทางเดินคู่ขนาดกลาง (บรรจุที่นั่งผู้โดยสาร 350 ถึง 400 ที่นั่ง) ประมาณ 2,100 ลำ ซึ่งรวมไปถึงเครื่องตระกูล เอ330และเครื่องบินตระกูลเอ 350 เอ็กซ์ดับบี
ในกลุ่มของเครื่องบินทางเดินเดี่ยวเกือบ 19,200 ลำ มีมูลค่า 1,400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือร้อยละ 40 ของมูลค่าประมาณร้อยละ 69 ของจำนวนเครื่องบิน จะถูกส่งมอบในอีก 20 ปีข้างหน้ามากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ครั้งก่อนเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเครื่องบินใหม่ที่นำมาทดแทนเครื่องบินเก่าที่หมดประสิทธิภาพคิดเป็นร้อยละ 40 ของเครื่องบินใหม่ที่จะทำการส่งมอบ ยิ่งไปกว่านั้นกว่าร้อยละ 50 ของเครื่องบินทางเดินเดี่ยวจะทำการส่งมอบและให้บริการในอเมริกาเหนือและยุโรป
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์ + 66 2 260 5820 ต่อ 115
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักกระจายเสียงทางวิทยุและโทรทัศน์
วีดีโอเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมเว็ปไซต์ www.airbus.com/broadcastroom
บทสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษของมร. จอห์น เลฮีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์
บทสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษของมร. คริส อีเมอร์สัน หัวหน้าวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และการพยากรณ์การตลาด