รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแถลงข่าวผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตเก็บเงินค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์

ข่าวทั่วไป Tuesday March 4, 2003 14:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--ศูนย์ ปชส.กระทรวงคมนาคม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวความคืบหน้าการสอบข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ โดยมี นางสินีนาฏ โสดสถิตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ร่วมแถลง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2546
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงว่า นับตั้งแต่ที่ได้พบการกระทำซึ่งเป็นการทุจริตในการเก็บเงินค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ 2 สายทาง และได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ใช้เวลาสอบสวน 60 วัน (ได้แถลงผลการสอบสวนฯ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2546) และขยายเวลาสอบสวนเพิ่มเติมอีก 30 วัน ในระหว่างนั้น ได้มีการดำเนินการลงโทษผู้ที่พบว่ากระทำการทุจริตไปแล้ว ดังข้อมูลในตารางต่อไปนี้
ด่าน ตำแหน่ง จำนวนเต็ม เลิกจ้าง ย้ายออกจาก ดำเนินคดี คงเหลือ
พื้นที่ อาญาธัญบุรี ผู้ช่วยผู้จัดการ 8 - - - 8
ขายบัตรชั่วคราว 42 20 - 20 22
ขายบัตรประจำ 14 - 11 11 3ทับช้าง ผู้ช่วยผู้จัดการ 8 - 2 2 6
ขายบัตรชั่วคราว 54 46 - 46 8
ขายบัตรประจำ 14 - 14 14 -ลาดกระบัง ผู้ช่วยผู้จัดการ 8 - 6 6 2
ขายบัตรชั่วคราว 23 19 - 19 4
ขายบัตรประจำ 19 - 13 13 6พานทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ 8 - 1 1 7
ขายบัตรชั่วคราว 27 24 - 24 3
ชายบัตรประจำ 10 - 7 7 3
235 109 54 163 72
บัดนี้ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้รายงานผลการสอบสวน จากที่ได้ขอขยายเวลาสอบสวนฯ เพิ่มเติมอีก 30 วันนั้นมีประเด็นสรุปได้แล้ว โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ใช้ข้อมูลจากแผ่น VCD ที่บันทึกภาพการกระทำความผิดของพนักงาน พยานบุคคล เอกสารของตำรวจจากสถานี ตำรวจนครบาลประเวศที่ทำการจับกุมพนักงานขายบัตรมีเงินเกินต้นขั้ว ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท และรายงานการตรวจนับรถของเจ้าหน้าที่ทหารที่ด่านเก็บเงิน ทำให้พบว่ามีมูลความผิด ดังนี้
1. พนักงานขายบัตร
ด่านธัญบุรี - ลูกจ้างชั่วคราว ที่เหลือ 22 คน (เลิกจ้างไปแล้ว 20 คน)
พบว่ามีมูลผิดวินัยอย่างร้ายแรง
- ลูกจ้างประจำ 14 คน พบว่ามีมูลผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ด่านทับช้าง - ลูกจ้างชั่วคราว ที่เหลือ 8 คน (เลิกจ้างไปแล้ว 46 คน)
พบว่ามีมูลผิดวินัยอย่างร้ายแรง
- ลูกจ้างประจำ 14 คน พบว่ามีมูลผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ด่านลาดกระบัง - ลูกจ้างชั่วคราว ที่เหลือ 4 คน (เลิกจ้างไปแล้ว 19 คน)
พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
- ลูกจ้างประจำ 19 คน พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ด่านพานทอง - ลูกจ้างชั่วคราว ที่เหลือ 3 คน (เลิกจ้างไปแล้ว 24 คน)
พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
- ลูกจ้างประจำ 10 คน พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
สรุปได้ว่า พนักงานขายบัตรที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว ที่เหลือ 37 คน ให้เลิกจ้างทั้งหมด (เลิกจ้างไปแล้ว 109 คน) และพนักงานขายบัตรที่เป็นลูกจ้างประจำ ทั้งหมด 57 คน มีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย
2. ผู้ช่วยผู้จัดการด่าน ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำ เป็นผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ขายบัตรมากที่สุด น่าจะมีส่วนรู้เห็น และจะได้ประโยชน์จากการทุจริตของพนักงานขายบัตร จงใจฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ อันมีมูลมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฉะนั้นผู้ช่วยผู้จัดการทั้ง 4 ด่านๆ ละ 8 คน รวมทั้งสิ้น 32 คน จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
3. ผู้จัดการด่าน ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำ พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง
4. ผู้จัดการโครงการ ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ จำนวน 2 คน (ผู้จัดการ 1 คน ดูแลรับผิดชอบ 2 ด่าน) พบว่ามีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งก็คือ
-นายช่างโยธา 7 รับผิดชอบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่)
-วิศวกรโยธา 6 รับผิดชอบทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนรอบนอกฯด้านตะวันออก)
5. ผู้ประสานงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำ ไม่มีผู้พาดพิงว่ามีส่วนร่วมทุจริตแต่อย่างใด จึงยุติเรื่อง
6. เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมทางยกระดับอุตราภิมุข ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 7 ไม่มีผู้พาดพิงว่ามีส่วนร่วมทุจริตแต่อย่างใด จึงยุติเรื่อง
7. ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 8 ทางคณะกรรมการสอบสวนฯ ตรวจสอบแล้วไม่มีการพาดพิงว่ามีส่วนร่วมทุจริต รวมทั้งได้ดำเนินการลงโทษให้เลิกจ้างพนักงานที่ทุจริตไปบ้างแล้วด้วยจึงถือว่ามีส่วนช่วยในการปราบทุจริต จึงให้ยุติเรื่อง
8. สำหรับอธิบดี และ รองอธิบดีฝ่ายดำเนินการ ของกรมทางหลวง ไม่มีการพาดพิงว่ามีส่วนร่วม หรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตของพนักงาน จึงไม่มีมูล จึงให้ยุติเรื่อง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง แก่บุคคลที่กล่าวมาแล้วนั้น จะสั่งการโดยด่วนที่สุด เพื่อให้ทำการสอบสวนได้ครอบคลุมกว้างขวาง เพราะจะมีเวลามากกว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีเงื่อนไขเรื่องเวลา เพราะต้องทั้งสอบสวนเรื่องบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต และต้องสอบสวนเรื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
กระทรวงคมนาคม
28 กุมภาพันธ์ 2546

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ