ประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ในไตรมาสที่ 3

ข่าวอสังหา Monday September 26, 2011 14:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--เซ็นจูรี 21 หลังจากผ่านการเลือกตั้งใหญ่ ประเทศไทยดูเหมือนว่าจะได้รับการตอบรับที่เป็นบวก ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมทั้งดีเวล ลอปเปอร์ และนักลงทุน อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ ผลจาก ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภาพรวมยังดูมีศักยภาพที่ดี แม้ว่า สัญญาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนค่าก่อสร้าง อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลมาจาก ค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายด้านราคาน้ำมัน ในช่วงเปลี่ยนถ่ายของกระบวนการทางการเมือง ตลาดอสังหา ฯ ยังคงทรงตัว โดยเฉพาะ ประเภทที่อยู่อาศัย ดีเวลลอปเปอร์หลายราย ได้รายงานว่า ลูกค้าโครงการอาจยังชะลอการตัดสินใจโอนบ้านหรืออาคารชุด เนื่องจากอยากรอดูมาตรการของภาครัฐที่จะเข้ามาสนับสนุนหรือช่วยลดภาระในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย อาทิ มาตรการดอกเบี้ย 0 % 5 ปีแรก หรือ การลดหย่อนภาษีจากการจ่ายดอกเบี้ย ดีเวลลอปเปอร์หลายรายได้เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสที่ 3 ได้ปรับตัวลดลง ที่อาจเกิดจากความไม่ชัดเจนในมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ ได้กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ต้องเร่งสรุปมาตรการกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งถ้าสามารถสรุปได้เร็วก็จะส่งผลให้ตลาดโดยรวมเป็นไปในทิศทางที่ดี ในอีกด้านหนึ่ง ถ้ามองถึงความสำเร็จในการเลือกตั้งและความมีเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศไทย สามารถช่วยให้นักลงทุนและผู้ซื้อชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นและเริ่มกลับเข้ามาซื้อหรือลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยประเภท Leasehold ที่มียอดขายที่สูงขึ้น แม้ว่าราคาของที่อยู่อาศัยดังกล่าวจะมีราคาที่สูง แต่ ชาวต่างชาติที่สนใจ กลับยอมที่จะซื้อ เพื่อแลกกับ ทำเล คุณภาพของโครงการ รวมทั้งการบริหารจัดการอาคารในระดับเวิลด์คลาส จะเห็นได้ว่า โครงการ ท็อปเอนด์ ประเภท Leasehold ได้รับการตอบรับจากความต้องการในตลาดที่สูงขึ้น และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินต่อไปในไตรมาสต่อๆ ไป ในเวลาเดียวกัน ความต้องการซื้อหาที่ดินในเขตกรุงเทพชั้นใน ก็ยังคงสูงอยู่ และที่สำคัญที่ดินนั้นก็หายากขึ้นมาก ดีเวลลอปเปอร์ก็ยังมีความต้องการที่จะหาที่ดินที่เป็น คีย์แลนด์ (Key Land) เข้ามาเพื่อพัฒนาโครงการต่อไปแม้ว่าที่ดินจะมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกวัน ในด้านตลาดด้านพื้นที่เชิงพาณิชย์และค้าปลีก (Retail Sector) ดูมีความคึกคักมาก อีกทั้งยังมีการแข่งขันที่สูงด้วย หลาย โครงการมีกำหนดการเปิดตัว ในช่วงไตรมาสสุดท้ายในปีนี้ และไตรมาสแรกของปีหน้า อาทิ โครงการ Terminal 21 ที่สี่แยกอโศก ซึ่งมีพื้นที่ขนาด 40,000 ตารางเมตร โครงการ Palladium ประตูน้ำ ที่กำลังปรับปรุงและคาดว่าจะเสร็จให้บริการในปลายปีนี้เช่นเดียวกัน โครงการพาลาเดียมจะเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกในย่านประตูร้ำอีกประมาณ 20,000 ตารางเมตรและน่าจะเป็นจุดหนึ่งที่ดึงดูดนักช็อปและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ ได้ทำการเปิดตัว เฟสแรกของโครงการค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า Asiatique โครงการนี้จะมีขนาด 30,000ตารางเมตร ในส่วนสำนักงานออฟฟิตใน CBD น่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเช่นเดียวกันในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Park Venture โครงการ Sathorn Square และ Palladium ประตูน้ำ Bangkok's Office Market Indicators Total supply (sq.m) 8.0 million Grade A office supply (sq.m) 1.1 million Expected additional supply (sq.m) 0.35 million Average occupancy (%) 87% Average rent (THB / sq.m) 400 สำหรับตลาดสำนักงานให้เช่าในเขต CBD โดยพื้นที่ทั้งหมดมีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ในด้านความต้องการก็มีอัตราที่สูงขึ้น เช่นเดียวกัน คาดว่า ตลาดสำนักงานให้เช่าจะมีอัตราการเช่าที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยจากสถานการณ์ที่มั่นคงขึ้นด้านการเมืองทำให้บริษัทข้ามชาติมีความเชื่อมั่นขึ้นและผลประกอบการด้านการส่งออกที่ดีขึ้น กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นจูรี 21 ไทยแลนด์ กล่าว่า “จากการคาดการณ์โดยอิงถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ของตลาดอสังหาฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ดูเหมือนว่ายังไม่ดีดกลับเหมือนช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ยกเว้นว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันมาตรการที่เป็นบวกเพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ เราเชื่อว่าเสถียรภาพทางการเมืองน่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อตลาดไม่น้อยไปกว่าสภาพเศรษฐกิจในภาพรวม “ (วิเคราะห์ข้อมูลโดยทีมวิจัย C21 Thailand)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ