กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--เอสซีจี
เอสซีจี เดินหน้าเวทีระดับชาติ Thailand Sustainable Development Symposiumพร้อมเป็นต้นแบบและสร้างเครือข่ายขยายผลการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ
เอสซีจี รวมพลังความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งซีอีโอธุรกิจชั้นนำ ภาครัฐ นักวิชาการ และภาคประชาสังคม ถ่ายทอดแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในการประชุมระดับชาติ Thailand Sustainable Development Symposium 2011 เดินหน้าผลักดันองค์กรธุรกิจไทยทุกระดับพร้อมเป็นต้นแบบ และสร้างเครือข่ายขยายผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยในการสัมมนาระดับชาติ “Thailand Sustainable Development Symposium 2011” ซึ่งเอสซีจีได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ว่าปัจจุบันโลกยังคงเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นับเป็นความท้าทายของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคองค์กรธุรกิจ ที่ต้องร่วมกันหาแนวทางลดผลกระทบต่างๆ ด้วยการนำแนวคิดเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้า พร้อมสร้างสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เอสซีจี ตระหนักว่าการขับเคลื่อนให้เกิดการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
“เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือองค์กรหรือหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กให้นำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์การบริหารจัดการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และเผยแพร่ความรู้ความเชี่ยวชาญ
เฉพาะเรื่อง อาทิ การจัดทำรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น “สมาคมเพื่อนชุมชน” ในพื้นที่มาบตาพุด และล่าสุดได้ขยายผลสู่ “โรงปูนรักษ์ชุมชน” ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งจะมีการขยายผลโครงการลักษณะนี้ไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดูแลเกื้อกูลชุมชน ซึ่งจะช่วยเสริมแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น” นายกานต์ กล่าว
นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ซิเมนต์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่การสัมมนาในวันนี้ได้รับความสนใจจากผู้บริหารทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา องค์กรอิสระ ตลอดจนสื่อมวลชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งการประชุมนี้ ยังเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด Carbon Neutral Symposium หรือการจัดงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน โดยเชิญชวนผู้ร่วมงานทุกท่านมีส่วนร่วมลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ แต่งกายโดยไม่ใส่สูท ปรับอุณหภูมิที่ 25 องศา รวมถึงการทำคาร์บอนออฟเซ็ท (Carbon Offset) หรือชดเชยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น โดยนำ Carbon Credit ที่ได้จากการใช้เชื้อเพลิงทดแทนในการผลิตปูนซีเมนต์ มาชดเชยกับปริมาณ Carbon Footprint ที่เกิดขึ้นจากการจัดงานในวันนี้ นอกจากนี้ เอสซีจีจะได้มอบเงินบริจาคร่วมสมทบทุนให้กับกองทุนพลังงาน “อาศรมพลังงาน” จากปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง อันเกิดจากความร่วมมือของผู้ร่วมงานทุกท่าน
“จากการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง SD อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้ SCG ได้รับการประเมินและจัดอันดับในดัชนีวัดประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนดาวน์โจนส์ หรือ DJSI ให้เป็นองค์กรชั้นนำระดับ Gold Class ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2554 และในปีนี้ เอสซีจี ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น World Sector Leader โดยมีคะแนนเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจวัสดุก่อสร้างด้วย ซึ่ง DJSI เป็นเกณฑ์ที่กองทุนต่างๆ ทั่วโลกใช้ในการพิจารณาลงทุน ด้วยเชื่อมั่นว่าบริษัทที่อยู่ใน DJSIจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้ลงทุน” นายปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติม
เอสซีจี ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นสร้างประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 97 ปี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดงาน Thailand Sustainable Development Symposium 2011 นี้ จะช่วยให้เครือข่ายความร่วมมือมีความเข้มแข็ง มั่นคง และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวต่อไปของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่จะขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ