กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--ทริปเปิล เจ คอมมิวนิเคชั่น
เนื่องในวโรกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ของในวันที่ 5ธันวาคม 2554 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันถวายความจงรักภักดีเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงอุทิศพระวรกายบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจ เพื่อทำนุบำรุงสุขประเทศชาติมาตลอดระยะเวลาของการครองราชย์
กองทัพบกมีบทบาทสำคัญในการประสานงานและร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ ในการดำเนินโครงการพระราชดำริทั่วประเทศกว่าปีละ 100 โครงการ แบ่งได้เป็น 5 กลุ่มงาน ได้แก่
กลุ่มงานด้านความมั่นคง เป็นการเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่และโอกาสของราษฎรให้มีความพร้อมในการพัฒนาและสามารถดำรงชีพได้อย่างยั่งยืน อาทิ โครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อพัฒนาราษฎรในพื้นที่ให้เข้มแข็ง มีส่วนร่วมรักษาอธิปไตยของชาติอย่างมีระบบ โดยน้อมนำเอา “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญานำทาง
กลุ่มงานด้านฟาร์มตัวอย่าง เป็นการส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่โครงการฯ ให้มีรายได้เสริม มีทักษะในการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ ประมง เช่น โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ บ้านแม่ตุงติง ตำบลแม่สาบ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจัดหาพื้นที่เสื่อมโทรมให้ราษฎรฝึกอบรมอาชีพการเกษตร ทอผ้า ปศุสัตว์ เช่น เลี้ยงนกระทา ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ปลูกกล้วยหอม ฯลฯ
กลุ่มงานด้านส่งเสริมอาชีพ เพื่อส่งเสริมอาชีพและพัฒนาอาชีพให้แก่ราษฎร เช่น การเลี้ยงสัตว์ การทำไร่นาสวนผสมตามหลักทฤษฎีใหม่ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การเพาะขยายพันธุ์สัตว์ ในท้องถิ่นต่างๆ อาทิ โครงการศิลปาชีพในตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
กลุ่มงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นปฎิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า การปลูกป่า การฟื้นฟูสภาพป่าไม้ การอนุรักษ์สัตว์ป่า เช่น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก ตำบลแม่ลาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
กลุ่มงานอื่นๆ ได้แก่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญอื่นๆ ที่ครอบคลุมหลายกลุ่มงาน นอกเหนือจากที่ระบุข้างต้น เช่น โครงการพัฒนาบ้านกอก- บ้านจูน ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ที่ทรงเน้นให้พัฒนา โดยให้เจริญจากข้างในก่อน และค่อยระเบิดออกไปข้างนอก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดน้ำปัว ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำน่าน พร้อมทั้งอนุรักษ์และจัดการดินน้ำในพื้นที่ลาดชัน ป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดินและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพของราษฎรที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง
ตลอดระยะเวลายาวนานถึง 60 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ ได้ทุ่มเทพระสติปัญญา ตรากตรำพระวรกายเพื่อค้นคว้าหาแนวทางการพัฒนาประเทศ ผ่านโครงการพระราชดำริ มากกว่า 4,000 โครงการ ช่วยให้แผ่นดินไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง สมควรอย่างยิ่งที่ปวงชนชาวไทยทุกคนควรจะได้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท เริ่มจากปรับวิถีชีวิต ให้ยึดมั่นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยสติที่มั่นคง ปัญญาที่เฉียบแหลม ก็จะช่วยนำพาตัวเราและชาติบ้านเมือง ผ่านพ้นวิกฤตการณ์นานัปการที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และทำให้เกิดสังคมแห่งการอยู่ดีมีสุขโดยถ้วนทั่วกัน