ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เผยการก่อสร้างอาคารสำนักงานกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง

ข่าวทั่วไป Thursday April 24, 2003 13:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--ซีบี ริชาร์ด เอลลิส
บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดอาคารสำนักงานว่า แนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดได้ผลักดันให้เกิดกระแสความเคลื่อนไหวในโครงการที่หยุดพักการก่อสร้างหลังจากปี 2540 ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ อาคารเซ็นทรัล เวิร์ล ทาวเวอร์ (ซึ่งเคยเรียกว่า อาคารเวิร์ลเทรด ทาวเวอร์) ซึ่งเซ็นทรัลกรุ๊ป บริษัทผู้พัฒนาโครงการนี้ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2547
อาคารสำนักงานอีกแห่งที่น่าสนใจ คือ อาคารพรพัฒน์ ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกอโศก-รัชดาภิเษก ได้เริ่มการก่อสร้างขึ้นอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ โครงการนี้หยุดการก่อสร้างไปในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2540 ซึ่งได้ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 90% บริษัทผู้พัฒนาโครงการนี้คาดการณ์ไว้ว่า อาคารสำนักงานแห่งนี้ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่สำนักงาน 33,000 ตารางเมตรและพื้นที่ร้านค้า 6,000 ตารางเมตรจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2547
คุณเอมี่ โรดิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส กล่าวว่า อาจจะมีกระแสการเคลื่อนไหวของบางโครงการที่พักก่อสร้าง หากประเด็นปัญหาเรื่องหนี้สินได้รับการแก้ไข
ในขณะเดียวกัน อาคารสำนังานที่มีอยู่ในตลาดยังคงมีจำนวนจำกัด เนื่องจากแทบจะไม่มีโครงการใหม่ๆ ที่จะแล้วเสร็จภายในปีนี้เลย ในขณะที่ความต้องการของตลาดที่ยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้ค่าเช่าพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้นตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2546 ค่าเช่าสำหรับอาคารสำนักงานระดับเกรดเอที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางธุรกิจ (ซีบีดี) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 455 บาท ต่อตารางเมตร ต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับค่าเช่า โดยเฉลี่ย ณ สิ้นปี 2545 อัตราค่าเช่าดังกล่าวเป็นอัตราค่าเช่าเฉลี่ยสำหรับพื้นที่ 200-300 ตารางเมตร ราคาเช่าในระดับนี้ ทำให้กรุงเทพมหานครยังคงเป็นที่หนึ่งในเมืองที่มีค่าเช่าอาคารสำนักงานที่ต่ำที่สุดในโลก จากการสำรวจค่าเช่าอาคารสำนักงานย่านธุรกิจทั่วโลกครั้งล่าสุดของบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส พบว่ากรุงเทพมหานคร มีราคาค่าเช่าต่ำที่สุดเป็นอันดับ 6 ซึ่งเปรียบเทียบกับประเทศในทวีปเอเชียด้วยแล้ว มีเพียงกรุงมะนิลาเท่านั้นที่มีราคาค่าเช่าต่ำกว่ากรุงเทพมหานคร ส่วนเมืองอื่นๆ ที่มีราคาค่าเช่าต่ำกว่ากรุงเทพฯ ได้แก่ ไครสเชิร์ช (นิวซีแลนด์) ,โยฮันเนสเบอร์ก,เคปทาวน์ และ เดอร์เบิน ในประเทศอัฟริกาใต้ สำหรับค่าเช่าอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครนั้น คิดเป็น 21% ของค่าเช่าในฮ่องกง และคิดเป็น 32% ของค่าเช่าในสิงคโปร์
คุณนิธิพัฒน์ ทองพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดหาอาคารสำนักงาน ให้ความเห็นว่า แม้จะมีภาวะสงครามในอิรักและการระบาดของโรคไข้หวัดซาร์ส (SARS) ความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยภายนอกเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักต่อการตัดสินใจขยายธุรกิจของหลาย ๆ บริษัท ความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานมาจากการขยายตัวของสำนักงานส่วนราชการ รวมทั้งบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับไอทีและบริษัทประกันภัย ซึ่งมีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากการเพิ่มสูงขึ้นของราคาค่าเช่าและอัตตราเข้าใช้พื้นที่ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ เข้าสู่ภาวะเติบโต ซึ่งกรุงเทพ ฯ เป็นหนึ่งในตลาดเพียงไม่กี่แห่งที่เห็นถึงภาวะเติบโตของตลาดอาคารสำนักงานเช่นนี้ ตลาดอาคารสำนักงานในเอเชียส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงในฮ่องกง สิงคโปร์ มะนิลา กัวลาลัมเปอร์ และปักกิ่ง อยู่ในภาวะตกต่ำและราคาค่าเช่ากำลังลดลง
คุณนิธิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สภาพตลาดอาคารสำนักงานกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐานบางประการในการทำให้โครงการอาคารสำนักงานประสบความสำเร็จ ปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ได้แก่ การเตรียมพร้อมในการให้บริการต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่า และการปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางรวมทั้งปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับอาคารเก่า ส่วนทำเลที่ตั้งยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเห็นได้ชัดเจนคือ การสามารถเดินทางไปยังอาคารสำนักงานได้ด้วยระบบขนส่งของรถไฟลอยฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มอัตราการเข้าใช้พื้นที่และราคาค่าเช่า การตั้งอยู่ในทำเลใกล้กับระบบขนส่งดังกล่าวได้กลายเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ผู้เช่าอาคารสำนักงานต้องคำนึงถึง ทำให้บางโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินอาจกลับมาดำเนินการก่อสร้างต่ออีกครั้งในช่วงปีหน้านี้
บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เชื่อว่า ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหน้าเป็นที่คาดการณ์ว่า ปริมาณเข้าใช้พื้นที่และราคาค่าเช่าจะเพิ่มสูงขึ้น ตามความต้องการตลาดที่มีอยู่มากในขณะที่พื้นที่มีอยู่อย่างจำกัด นอกจากนี้ยังเป็นที่คาดการณ์กันอีกว่า การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะช่วยผลักดันให้บริษัทหลายแห่งธุรกิจเกี่ยวข้องกับก่อสร้างเริ่มก่อตั้งสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ สภาวะตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นนี้อาจจะนำไปสู่การเริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานที่หยุดพักไปในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอาคารที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วมากกว่า 50%--จบ--
-สก/พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ