กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
“ไอร่า แคปปิตอล” ดึง 2 ผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงเศรษฐกิจ ‘ดร.บัณฑิต นิจถาวร’ และ ‘ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี’ ร่วมชี้ทิศ “เศรษฐกิจไทยในกระแสวิกฤตโลก” ระบุความเชื่อมโยงของโลกก่อให้เกิดความผันผวนของเงินทุนไหลเข้าออก ทำให้ไทยและเอเชียหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่พ้น ขณะเดียวกันประเทศไทยยังต้องรับมือกับข้อตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ศ.ดร.ศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานกรรมการ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ แม้จะมีการมองว่าวิกฤตหนี้เอกชนในสหรัฐฯ และวิกฤตหนี้ภาครัฐในยุโรป จะห่างไกลจากเศรษฐกิจเอเชีย และเชื่อกันว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจเอเชียจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต้านทานผลกระทบดังกล่าว แต่ต้องไม่ลืมว่า ความเชื่อมโยงของโลกนับวันจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน การเคลื่อนย้ายของเงินทุนจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดความผันผวนที่รุนแรงและรวดเร็ว เกิดการเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ ในตลาดหุ้นและตลาดเงินทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ซึ่งเมื่อทุกพื้นที่ของโลก รวมทั้งประเทศไทยไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ การมองไปข้างหน้า รวมถึงการเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่ประเด็นสำคัญที่สุด คือ การมองไปข้างหน้านั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และต้องประเมินให้ถูกต้อง เพื่อการเตรียมความพร้อมรับมืออย่างถูกต้อง
“วันนี้สภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิกฤตการเงินของสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และมีผลกระทบต่อเนื่องมายังประเทศทางอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ภาคธุรกิจของไทยต้องติดตาม และสร้างภูมิคุ้มกัน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งไว้เพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ เหล่านั้นที่อาจจะเกิดขึ้นกับธุรกิจของตัวเอง” ศ.ดร.ศุภชัย กล่าว
ดังนั้นในฐานะที่ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านการลงทุน จึงตระหนักถึงบทบาทในการระดมความเห็น เพื่อส่งผ่านหลักคิดของผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงเศรษฐกิจ ตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับความรู้ ความคิด และข้อเสนอแนะของผู้นำเสวนา รวมถึงมองเห็นแนวโน้มข้างหน้าของเศรษฐกิจไทยว่าจะสามารถยืนอยู่ได้อย่างไรในกระแสวิกฤตโลกในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงได้จัดงานดินเนอร์ ทอล์ค ขึ้นในวันพุธที่ 21 กันยายน 2554
ในหัวข้อ “เศรษฐกิจไทยในกระแสวิกฤตโลก” โดยได้เกียรติจาก ดร.บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และประธานกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และ ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี กรรมการ คณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า คือ การเข้าสู่กระบวนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี พ.ศ. 2558 เพราะมิใช่แค่การจัดตั้งเขตการค้าเสรี (AFTA) แต่จะเป็นการทำให้ประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ กลายเป็นตลาดเดียวและเป็นฐานการผลิตเดียว การค้าขายสินค้าและบริการ ตลอดจนการเคลื่อนย้ายทุนและแรงงานเป็นไปโดยเสรี ประเทศไทยก็ต้องมีการศึกษาปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมพร้อมกับการเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังกล่าว เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากการรวมกลุ่มกับอาเซียนได้อย่างเต็มที่