กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1635 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 30.96 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.99 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,050 บาท 24,150 บาท และกลับมาปิดที่ระดับ 24,300 กับ 24,400 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 7,125 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่15,553 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 171คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.89 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.5 % และ Silver Futures Open Interest ลดลง 0.27 % GFV11 เปิดที่ 24,220 บาท และ GFZ11 เปิดที่ 24,600 บาท และGF10V11 เปิดที่ 24,210 บาท และ GF10Z11 เปิดที่ 24,600 บาท SVV11 เปิดที่981 บาท
สัญญา Comex ปิดลบ 34.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,618 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลบ 1.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 30.13 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครอง 1,241.91 ตัน ( เท่าเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดลบ 3.24 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 81.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลบ 179.79 จุด ปิดที่ระดับ 11,010.90 จุด
ข่าวที่สำคัญ
- รัฐสภาฟินแลนด์มีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF แต่ยูโรอ่อนแรงลงในช่วงบ่ายเมื่อมีรายงานว่าผู้นำของหลายประเทศในยุโรปมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการขยายกองทุน EFSF ในช่วงเย็นวันนี้ (29 ก.ย.) อย่างระมัดระวัง นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการประชุมดังกล่าวแม้นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้แสดงความเชื่อมั่นว่าพรรคคริสเตียน เดโมเครติคส์ (ซีดียู) และพรรคร่วมรัฐบาลของเธอจะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพรรคฝ่ายค้านในการลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ในการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ก็ตาม
- แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ได้ปรับลดคาดการณ์มูลค่าสกุลเงินยูโร โดยระบุว่า หากกรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมูลค่าของสกุลเงินยูโร และอาจจะฉุดเศรษฐกิจของยุโรปทั้งทวีปเข้าสู่ภาวะถดถอย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี (Durable Goods Orders) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ2.018 แสนล้านดอลลาร์ ตรงข้ามกับเดือนก.ค.ที่ยอดสั่งซื้อพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง4.1% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมการลงทุนในภาคการผลิตของสหรัฐยังคงอ่อนแอ
- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในอุตสาหกรรมหากไม่นับรวมการขนส่งแล้วของสหรัฐในเดือนส.ค. (Core Durable Goods Orders) ออกมาที่ -0.1% ซึ่งลดลงจากตัวเลขเดิมครั้งที่แล้วที่ 0.7% และก็ยังถือว่าน้อยกว่าที่คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.1%
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย.พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ341.0 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล
ตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจ
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Unemployment Claims) คาดว่าจะมีผู้มารับสวัสดิการการว่างงานน้อยลงเป็นจำนวน 420,000 ราย จากครั้งที่แล้วมีจำนวน423,000 ราย
- ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Final GDP) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2011 คาดว่าจะออกมาที่ 1.2%จากตัวเลขก่อนหน้า 1.0%
- ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายในเดือนส.ค. (Pending Home Sales) คาดว่าจะออกมาลดลงที่ -1.7% จากตัวเลขก่อนหน้า -1.3%
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ทองคำ — ราคาทองคำยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องโดยปรับตัวลงในปลายตลาดComex ปิดที่ระดับ 1618 เหรียญ โดยไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1600 เหรียญ และเปิดตลาดเอเชียราคาได้ร่วงหลุดลงมาจากระดับ 1600 เหรียญ ลงไปจุดต่ำสุดที่ระดับ1585 เหรียญ และมีเข้าแรงซื้อดีดกลับขึ้นมา ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1604 เหรียญ โดยภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำยังอยู่แนวโน้มขาลง ยังไม่มีสัญญาณในการหยุดตกหรือกลับตัวใดๆ และมีโอกาสทดสอบแนวรับเดิมได้ ที่ระดับ 1530 เหรียญ ในระยะสั้นๆราคาทองคำมีแนวรับที่ระดับ 1580 เหรียญ และมีต้านที่ระดับ 1620เหรียญ
Gold Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,200บาท
Gold Futures Z11 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,500บาท
Silver Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 940 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,000 บาท
คำแนะนำ การลงทุน Gold(ทองคำ)
Daily - เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งตัวในระหว่างการปรับตัวลดลง คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบช่วงกลางวันที่ระดับ 1590-1610 เหรียญเท่านั้น
Weekly - ในทยอยเข้าช้อนซื้อประมาน 5-10% หลังจากที่ได้ขายทำกำไรไปบ้างแล้วบางส่วน โดยถือครองพอร์ทเพิ่มขึ้นเป็น 60%
Monthly - ทยอยเข้าช้อนซื้อเช่นเดียวกัน เมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น โดยถือครองพอร์ทประมาณ 55%
สรุปได้ว่าราคาทองคำยังถูกกดดันในทิศทางขาลงอยู่ ขอให้นักลงทุนระยะสั้นระมัดระวังในการลงทุนและบริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับภาวะตลาด