กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--ประชาสัมพันูโครงการโอทอป ทูบี เอสเอ็มอี
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สสว. กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ จับมือร่วมเปิดโครงการใหญ่...ยกระดับผู้ประกอบการ OTOP ก้าวไปสู่ SMEs ภายใต้ชื่อ “โอทอป ทูบี เอสเอ็มอี” ดึงบริษัทที่ปรึกษา “เอ็มแซดดี” ระดม 8 ทีมงานคุณภาพเป็นพี่เลี้ยงแนะนำระบบธุรกิจเอสเอ็มอีมาปรับใช้ให้มีการบริหารจัดการที่ดี พัฒนาผลิตภัณฑ์มีมาตรฐาน พร้อมเปิดช่องทางจำหน่ายที่ยั่งยืน และลดการพึ่งพาจากภาครัฐ .. ก่อนก้าวสู่เวทีการค้าระดับโลกในอนาคต
นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทุกหน่วยงาน คือ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการพัฒนาชุมชน และสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้มีนโยบายดำเนิน “โครงการยกระดับผู้ประกอบการ OTOP ที่มีศักยภาพก้าวไปสู่ SMEs หรือ “โอทอป ทูบี เอสเอ็มอี” โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นความสำคัญในการปรับโครงสร้างการผลิตให้มีความสมดุล และยั่งยืนระหว่างอุตสาหกรรมมหภาคและอุตสาหกรรมชุมชน ซึ่งเน้นให้ผู้ประกอบการทั้งสองระบบต่างเน้นความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพ และสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ที่มีคุณภาพมาสู่การผลิต ให้มีคุณภาพแบบบูรณาการ และที่ขาดไม่ได้ คือ การบริหารระบบจัดการพื้นฐานในทุกๆ ด้านที่สามารถยกระดับปัญญา และความชำนาญจนสามารถสนับสนุนให้เกิดการสร้างนวัตกรรม ซึ่งทั้งหมดจะเป็นรากฐานการเติบโตของธุรกิจในประเทศอย่างแข็งแกร่ง และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดโลกที่ยั่งยืนในระยะยาว
“ปัจจุบันผลิตภัณฑ์โอทอปของไทยได้รับความนิยมในตลาดโลกมากขึ้น แต่ในโลกการค้าเสรี คู่แข่งขันก็มีการพัฒนาเช่นกัน ดังนั้นหากสินค้าโอทอปของไทยได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นจนก้าวสู่เอสเอ็มอี ซึ่งจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงมีการทำการตลาดอย่างมืออาชีพด้วยแล้ว ก็จะทำให้เราได้เปรียบในเวทีการค้าโลก และถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในการดำเนินโครงการฯนี้ของเรา เพราะหากภาคเอกชนสามารถยืนอยู่ด้วยตัวของตัวเอง ก็จะสามารถส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในอนาคต”
ด้าน นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในโครงการพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับคำสั่งซื้อ หรือ TOPOTOP เมื่อปีที่ผ่านมา เพราะสามารถยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักและต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดจีน ที่มีการเซ็น MOU เปิดความร่วมมือการค้ากับกลุ่มบริษัท จี้เหยน (GIYEN) และ ไทยไลฟ์ (Thailife)
“ในปีนี้ ด้วยการระดมความร่วมมือของ 4 กระทรวงหลัก คือ อุตสาหกรรม มหาดไทย เกษตรฯ และพาณิชย์ ผ่าน 5 หน่วยงาน คือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ คัดตัวผู้ประกอบการโอทอป 153 รายจาก 69 จังหวัด มาเข้า โครงการยกระดับผู้ประกอบการ OTOP ที่มีศักยภาพ ก้าวไปสู่ SMEs หรือ “โอทอป ทูบี เอสเอ็มอี” ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง โดยมีระยะเวลา 8 เดือน (กันยายน 2554 ถึงเมษายน 2555) โดยมอบหมายให้บริษัท เอ็มแซดดี จำกัด เข้ามาทำหน้าที่แกนหลักในการดำเนินการ ประสานงาน และดูแลความเรียบร้อยของโครงการทั้งหมด”
นายพสุ กล่าวต่ออีกว่า “โครงการโอทอป ทูบี เอสเอ็มอี” นี้ถือเป็นฟันเฟืองกลไกสำคัญที่จะผลักดันให้สินค้าชุมชนของไทยขับเคลื่อนและพัฒนาไปสู่สินค้าระดับสากล เพราะจากการนำเอาระบบธุรกิจเอสเอ็มอีมาสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการโอทอป โดยเน้นที่ตัวผู้ประกอบการเองทั้งหมดให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพ ตั้งแต่ความคิด ทัศนคติ มุมมอง และระบบการจัดการธุรกิจแบบเอสเอ็มอีมืออาชีพ การปรับเปลี่ยนและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน และพัฒนาหาช่องทางการตลาดและจำหน่ายได้อย่างยั่งยืน และสุดท้ายคือ สามารถดำเนินธุรกิจแบบลดการพึ่งพาจากภาครัฐได้
ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหน่วยงานร่วมโครงการฯ ที่รับผิดชอบสนับสนุนงบประมาณให้แก่โครงการนี้ทั้งหมด ถือว่า เป็นโครงการสำคัญอันดับต้น ๆ ของการสร้างผู้ประกอบการโอทอป ภายใต้สโลแกน Creative SMEs ซึ่งเน้นการให้มีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการโอทอปในโครงการให้ประสบความสำเร็จ โดยการทำงานจะสร้างระบบที่เรียกว่า “สนามซ้อมการค้าของจริง” มุ่งเน้นการทำงานอย่างบูรณาการ ระดมทีมพี่เลี้ยงมากว่า 50 รายเข้าประกบผู้ประกอบการโอทอปทุกกระบวนการ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวสู่การค้าในสนามจริงต่อไป
“โครงการนี้ถือเป็นการเดินก้าวไปข้างหน้าของภาคธุรกิจไทย เป็นการสร้างมูลค่าให้กับสินค้าชุมชนของไทย และเชื่อว่าหากกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ให้กับประชาชน และประเทศชาติมากขึ้น”
ทางด้าน ดร. สุกิต เอื้อมหเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มแซดดี จำกัด ที่เป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ กล่าวว่า ด้วยความสำเร็จและการเข้าใจในอุปสรรคของโครงการพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับคำสั่งซื้อ หรือ TOPOTOP เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้เข้าใจถึงระบบการเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ประกอบการโอทอปที่จะมาเข้าโครงการ ทำให้เตรียมทีมงานที่ปรึกษาเป็น 8 ทีมหลักมากกว่า 50 ราย เพื่อคอยประคองกลุ่มผู้ผลิตโอทอปทุกรายที่กระจายไปทั่วประเทศอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เอ็มแซดดี ในฐานะที่ปรึกษาโครงการฯ ได้แบ่งทีมงานบริหารออกเป็นฝ่ายต่างๆ และเครือข่ายที่ปรึกษาระดับสูง ประกอบด้วย 1. ทีมบริหารโครงการที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด 2. ทีมที่ปรึกษาเชิงลึกลงประกบให้คำปรึกษาธุรกิจ ติดตามการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 3. ทีมบริหารงานออกแบบเน้นที่การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ 4. ทีมบริหารประสานงานผลิตคอยแก้ไขและยกระดับการผลิต 5. ทีมบริการการเงินและต้นทุนที่จะเน้นระบบบริหารจัดการเป็นสำคัญ 6. ทีมพัฒนาศักยภาพด้าน Quality Safety Standard Management ที่ให้ความรู้ระบบคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล 7. ทีมประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์โครงการ 8. คณะที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อการยกระดับศักยภาพในการก้าวเข้าสู่สนามการค้าระดับโลก เช่น AEC เป็นต้น
ติดต่อสอบถามได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ
ฐปณี จันทคัด (จุ๊) 086-334-1894
ภัทรวดี ใจผ่อง (เอ) 083-082-0537