กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--เซเรบอส (ประเทศไทย)
"ไฮนซ์" จับมือสมาคมพ่อครัวไทยและชมรมโภชนวิทยามหิดลชักชวนเยาวชนร่วมโครงการประกวด "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ หวังแจ้งเกิดเชฟรุ่นเยาว์กระตุ้นเด็กไทยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
"ไฮนซ์"เจ้าตลาดซอสมะเขือเทศเบอร์ 1 ของโลก รุกกิจกรรมแจ้งเกิดเชฟรุ่นเยาว์ จับมือสมาคมพ่อครัวไทย ชมรมโภชนวิทยามหิดล และหนังสือ Thailand Restaurant News ฯลฯ ชักชวนเยาวชนร่วมโครงการประกวด "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ สนับสนุนให้เด็กไทยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการปรุงอาหาร ด้านนายกสมาคมพ่อครัวไทย ชี้ "เชฟ" เป็นอาชีพที่มีอนาคต มีเกียรติ รายได้สูง หวังเยาวชนเห็นคุณค่าของอาชีพ"เชฟ" หันมาเรียนปรุงอาหารกันมากขึ้น
นางสาวสุพัตรา วงศ์หทัยไพศาล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหาร บริษัท ไฮนซ์ วินแชนซ์ จำกัด ผู้นำตลาดซอสมะเขือเทศเบอร์ 1 ของโลก เปิดเผยว่า ไฮนซ์เล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนให้เด็กไทยใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ โดยการปรุงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมผลักดันให้เยาวชนเห็นความสำคัญของอาชีพเชฟว่ามีรายได้ มีเกียรติ มีความน่าสนใจไม่แพ้อาชีพอื่น จึงมุ่งจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างทักษะในการปรุงอาหารที่ถูกสุขอนามัย และได้คุณค่าทางโภชนาการ โดยร่วมกับกองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพ และพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ
สมาคมพ่อครัวไทย ชมรมโภชนวิทยามหิดล หนังสือ Thailand Restaurant News บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์ จำกัด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ บี ฟู้ด แอนด์เบฟเวอร์เรจส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการประกวดปรุงอาหาร "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ภายใต้หัวข้อ "ความอร่อยที่เสริมคุณค่ากับไฮนซ์" ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
จุดประสงค์ของการจัดโครงการประกวดปรุงอาหาร "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" ในครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการฝึกฝนการปรุงอาหารที่มีคุณค่า
โภชนาการ จากเชฟมืออาชีพ พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนเข้าใจ และเห็นถึงคุณค่าของอาชีพ"เชฟ"ว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ น่าสนใจ รายได้ดี มีอนาคตไม่แพ้อาชีพอื่นๆ " นางสาวสุพัตรากล่าวสำหรับเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันปรุงอาหาร "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" จะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 (อายุประมาณ 10-12 ปี) ของโรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยผู้สมัครแข่งขันจะต้องผ่านการพิจารณาจากผู้อำนวยการหรือ อาจารย์ใหญ่ที่มีสิทธิ์อนุมัติ และการเข้าร่วมกิจกรรมจะต้องเป็นในนามของโรงเรียน
หลักเกณฑ์ในการตัดสินผู้ชนะการแข่งขันจะพิจารณาจาก ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอผลงาน บุคลิกท่าทางในการปรุงอาหาร รสชาติ ความสะอาด และการแต่งกาย โดยคณะกรรมการทรงคุณวุฒิด้านอาหารชั้นนำของไทย เชฟของโรงแรมชั้นนำ ผู้แทนจากสถาบันการศึกษาวิชาการด้านอาหาร เป็นต้น ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และยังมีเงินรางวัลมูลค่า 1 แสนบาทสำหรับผู้ชนะการแข่งขันประเภทอื่นๆด้วย
โดยขณะนี้มีโรงเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแล้วกว่า 90 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนราชินี ,โรงเรียนจิตรลดา ,โรงเรียนเซนต์จอห์น ,โรงเรียนเซนต์คาเบรียล,โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ,โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ,โรงเรียนเพชรรัตน์ในพระอุปถัมภ์ , โรงเรียนราชบพิธ ,โรงเรียนวัดพระเชตุพน , โรงเรียนนีรชาศึกษา , โรงเรียนสวนลุมพินี , โรงเรียนเจริญวิทย์ศึกษา และ โรงเรียนเบญจวรรณศึกษา เป็นต้นนางสาวสุพัตรา กล่าวอีกว่าเพื่อสนับสนุนโครงการประกวด "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" ดังกล่าว บริษัทยังได้จัดแคมเปญพิเศษ "ไฮนซ์ คืนชีวิตให้หนูน้อยโรคมะเร็ง" ขึ้นเพื่อรับบริจาคฝาผลิตภัณฑ์ไฮนซ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไฮนซ์ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม ฯลฯ โดยทุกฝาที่บริจาคมีมูลค่า 1 บาท บริษัทฯ จะมอบสมทบกองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
โดยสามารถบริจาคฝาผลิตภัณฑ์ "ไฮนซ์" ได้ที่โรงเรียน ร้านอาหาร และร้านค้าทั่วไป ที่มีกล่องรับบริจาคฝา"ไฮนซ์" หรือนำมามอบได้ด้วยตนเองในวันที่ 19 กรกฎาคม 2546 ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ภายในงาน "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" ซึ่งนอกจากจะมีการแข่งขันปรุงอาหาร "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" แล้วยังมีสาระความบันเทิงหลากหลายที่คัดสรรมาเพื่อน้องๆเยาวชนโดยเฉพาะ อาทิ การประกวดกองเชียร์ระดับประถมศึกษา "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชียร์ 2003" เรียนทำอาหารกับเชฟมืออาชีพมากถึง 40 เมนู ที่ซุ้ม Dream & Do ร่วมเวทีแห่งความคิดสร้างสรรค์งานศิลปะ กับอาหารเพื่อเด็กไทยที่ซุ้ม Eat & Art
ชมการปรุงอาหารของศิลปินดาราดัง ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงบนเวที และดนตรี หรือจะร่วมสนุกกับเกมเสริมทักษะ พร้อมรับของรางวัลมากมาย แข่งแรลลี่เสริมสุขภาพครอบครัว ร่วมทดสอบความพร้อมของร่างกายกับสถานีเพื่อสุขภาพ ในรูปแบบไม่เหมือนใคร เป็นต้น
ด้านเชฟเสาวกิจ ปรีเปรม นายกสมาคมพ่อครัวไทย กล่าวว่า "เชฟ"เป็นอาชีพที่มีเกียรติ รายได้ดี มีอนาคต และไม่ยากเกินความสามารถ การจะเป็นเชฟที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความขยัน ตั้งใจ ช่างสังเกต จดจำ มีความคิดสร้างสรรค์ มีพรสวรรค์และพรแสวงควบคู่กันไป
"เชฟ เป็นอาชีพที่มีรายได้สูง สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย อย่างผมทำงานมากว่า 30 ปี รายได้เดือนละประมาณ 1 แสนบาท ส่วนเชฟที่ทำงาน 15 ปี รายได้อยู่ที่ 5-6 หมื่นบาทสมัยก่อนกว่าที่จะเป็นเชฟได้เหนื่อยกว่าปัจจุบันมาก ต้องอาศัยครูพักลักจำ เก็บเกี่ยวความรู้ด้วยตนเอง ไม่มีใครมาสอน แต่เดี๋ยวนี้มีโรงเรียน มีสถาบันที่สอนการเป็นเชฟโดยเฉพาะ แถมทุกวันนี้"เชฟ" ยังเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะในต่างประเทศมีร้านอาหารไทยไปเปิดเป็นจำนวนมาก บางคนไม่มั่นใจในอาชีพนี้มองว่าเชฟฝรั่งเก่งกว่าค่าตัวสูงกว่า จริงๆแล้วคนไทยก็เก่ง ทำอาหารอร่อยไม่แพ้กัน เพียงแต่ค่าตัวอาจต่างกันเพราะเค้าเป็นเชฟฝรั่งไม่ใช่คนไทย"
เชฟเสาวกิจ กล่าวและเสริมว่า "อยากสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนไทยหันมาสนใจการปรุงอาหาร เพราะนอกจากจะได้ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แล้ว ยังได้ภาษา ได้วิชาความรู้ติดตัว มีอาชีพที่มีเกียรติ มีรายได้ดี สามารถหาเลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้ อยากให้เยาวชนใช้เวลาว่างฝึกฝนการปรุงอาหาร แล้วมาร่วมพิสูจน์ฝีมือกันบนเวทีประกวด "ไฮนซ์ จูเนียร์เชฟ 2003" โอกาสที่จะเป็นเชฟฝีมือดี อนาคตไกล อยู่แค่เอื้อม"
สำหรับน้องๆ และสถาบันการศึกษาที่สนใจส่งนักเรียนเข้าแข่งขันในโครงการประกวดปรุงอาหาร "ไฮนซ์ จูเนียร์ เชฟ 2003" สามารถสอบถามข้อมูล และรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2991-3031-2
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2332-6060 ต่อ 1125 และ 1135--จบ--
-รก-