กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ทุกคำตอบที่เค้นจากหัวใจของผกก.อารมณ์บวกบวก
“เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร”
จาก “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” มาจนถึง “30+โสด ON SALE”
ความเหมือนที่แตกต่างของภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้
ที่ดูแล้วไม่อมยิ้มแสดงว่าวันนั้นคุณปวดฟัน
Q. จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” อะไรคือหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อมาในผลงานเรื่องที่สองอย่าง “30+โสดON SALE”
P. ก็โดยรวมแล้วจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กเล็กฯที่เราได้มานั้น เราเจืออะไรลงไปในนั้นบ้าง ข้อ1คือผมมีความรักระหว่างแม่ลูก เรามีความรักระหว่างเพื่อน มีความรักระหว่างเพศชายเพศหญิง มีความรักระหว่างครูกับลูกศิษย์ มันอบอวลอยู่ในนั้น ซึ่งสายสัมพันธ์เหล่านั้น ผมว่ามันเป็นเกลียวที่ทำให้ทุกอย่างมันออกมาดูดี ซึ่งหนังจะมีทั้งอารมณ์รัก เพื่อนและอมยิ้มไปด้วย และก็รู้สึกว่าพอนั่งดูจบแล้ว ก็มานั่งคิดว่าจุดเด่นของเรื่องสิ่งเล็กๆก็คือมันโดนใจ เคยเป็น เคยทำ และแอบทำ เป็นประสบการณ์จริง คือเราได้ถามน้องคนนั้นแล้วเขาทำ คนอื่นเขาก็ทำๆๆๆกันหมด เราก็รู้สึกว่าเอ๊ะ ถ้า นะ ถ้ามันมีหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนเคยทำในอีกวัยหนึ่งละ โตขึ้นมาหน่อย เพราะหลังๆ คือผมจะมีชอบคุยกับผู้หญิง (หัวเราะ) คือกุ๊กกิ๊กไปเรื่อยนะ ผมจะมีรุ่นน้องอายุประมาณ25อัพขึ้นไป เขามักจะมาบ่นกับผมเสมอ ขับรถมาบ้าง มาบ่นมาคุยว่ามีแฟนที่คบกันมา7ปี เป็นรุ่นน้องผมด้วยนะ อกหัก ทำการ์ดแล้วนะพี่ นั่งร้องไห้อยู่ในรถ ทำไมหนูไม่สวยตรงไหน หนูผิดตรงไหน ครอบครัวหนูก็ดี ฐานะหนูก็ดี ทำไมทิ้งหนูไปวะ พี่นะเป็นรุ่นพี่ แม่งนิสัยเดียวกันรึเปล่าวะ เฮ้ย เราก็คอยบอก ซึ่งนี่คืออีกจุดหนึ่งที่คนเป็น และสัมผัสได้ และเขาต้องเคยโดน และนับเปอร์เซ็นต์ที่ผู้หญิงสมัยนี้ที่เก่งขึ้น แล้วก็เชื่อมั่นในตัวเองสูง เพราะฉะนั้นเขามีทุกอย่างดีขึ้นแล้วทำไมเขาไม่มีผู้ชายวะ ถามไปหลายๆคน แม้กระทั่งคนที่ใกล้ตัวมาก สิบปีจะแต่งงาน พอพาไปเข้าบ้านผู้ชาย...เลิกกัน!!! เฮ้ยอะไรวะทำไมเป็นอย่างนี้ ก็เลยมานั่งวิเคราะห์ คุยกันมาแล้วก็รู้สึกว่าอันนี้ก็เป็นอารมณ์ร่วมอีกอันหนึ่งที่น่าจะโดนใจผู้หญิงอีกวัยบ้างเหมือนกันนะ วัยที่รู้สึกว่าตัวเองผู้หญิงถึงพร้อมทุกอย่าง ทั้งฐานะการเงิน คือของผู้ชายไม่ต้องมีหรอก มาเหอะ กูมีพอแล้ว(หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ พอดีเราเองก็กำลังเริ่มทำรีเสิร์ชอยู่ แล้วได้ไปเจอคุณโอ๋(พาณิชย์ สดสีโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์) บ.หัวฟิล์มฟิล์ม พี่ เชื่อมั้ยผมก็คิดไว้ มันมีเรื่องจริงของคนที่เวิร์คพอยท์เลย ทำเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ โอ๋มีบทแล้วเหรอ พี่ยังแค่รีเสิร์ชนะ รู้สึกว่ามันน่าทำนะ เออพี่ทำไมเราคิดใกล้เคียงกัน แต่มันเป็นไปได้นะ เพราะจากสิ่งเล็กๆ เราก็มีCASE STUDY ไว้อันหนึ่งละ โอ๋บอกงั้นของผมมีละ โอเค งั้นโอ๋ทำของโอ๋พัฒนาไปก่อน พี่จะเริ่มรีเสิร์ชไปเรื่อย จนมีอยู่วันหนึ่งพอได้มาคุยธุรกิจกันแล้วได้ทำกัน ทุกอย่างเริ่มเอามาจูนกันกับสิ่งที่ผมได้มา กับสิ่งที่เขามี แล้วในหนังเรื่องนี้ใน30+ ผมมองว่า เราต้องอย่าทิ้งในความคิดบวกๆที่มีในสิ่งเล็กๆนั่นคือความรัก ฉะนั้นความรักพี่น้องที่มีความรักเพื่อน ความรักพ่อแม่ ความรักเพศตรงข้าม มันมีเหมือนกัน แต่มันเล่าในอีกกระบวนการหนึ่งของอีกวัยหนึ่ง เพราะฉะนั้นผมก็เลยมองว่าจุดของสิ่งเล็กๆกับของ30+มันจะถูกลิงก์กันคือ1.สิ่งที่คนเคยเป็น และ2.มันมีความรักอยู่ในนั้น และเป็นรักที่บวก และในหนังทุกเรื่องตั้งแต่สิ่งเล็กๆมา ไม่มีใครผิดในภาพยนตร์เรื่องนั้น ใน30+ก็ไม่มีใครผิดเหมือนกัน เราไม่มีตัวอิจฉา เราไม่มีตัวร้าย เราไม่มีคนคิดร้ายที่จะต้องมากร้าวร้าว แต่ว่าไม่ได้คิด ไม่ได้บอก ไม่ได้พูด ไม่ได้กระทำ ไม่ได้ส่งสัญญาณ นั่นคือ ทุกอย่างไม่มีใครผิด แต่เรื่องราวมันก่อให้เกิดเรื่องที่มันน่าสนใจได้ ก็เลยคิดว่าทั้งสองเรื่องเนี่ยะมันมีอะไรที่ลิงก์กันอยู่ และคิดว่ามันน่าจะทำอะไรให้มันรู้สึกว่าเป็นหนังที่ดีได้เรื่องหนึ่ง เพราะมันอยู่บนความตั้งใจที่ดีของทีมงาน
Q. โดยส่วนตัวแล้วสนใจอะไรในผู้หญิงวัย30+ ผู้หญิงวัยนี้มีเสน่ห์ความน่าสนใจอย่างไร ถึงทำให้ตัดสินใจหยิบเอามาทำเป็นหนัง
P.(หัวเราะ) ถ้าถามว่าโดยส่วนตัว สนใจผู้หญิงในวัยไหน คือสนใจทุกวัยครับ (หัวเราะ) แต่จริงๆแล้วส่วนตัวผมรู้สึกว่าผู้หญิงวัยใกล้30เนี่ยะ เขาจะมีอะไรบางอย่างที่จะต้องหาที่พักพิงหรือยึดเหนี่ยว หรือเป็นที่ปรึกษา เพราะว่า ถ้าเลยวัยนี้ไปแล้ว ผมว่าเขาจะเริ่มเข้าใกล้วัยที่เริ่มมีครอบครัวละ เป็นแม่ละ คือความสาวสะพรั่งที่สุด ณ เขตนี้ ผมก็เลยมองว่าสุดเขต...สุดเขตความสาวสะพรั่ง นั่นคือ ทุกคนเมื่อวัยน่ารัก เด็กน่ารัก ทำงานสวยสดใส แต่ถ้ามันใกล้ระหว่าง26-27 ถึง30ต้นๆ เต็มสาว เป็นวัยเต็มสาวที่พร้อมจะก้าวไปสู่การเริ่มต้นจะมีครอบครัว เพราะฉะนั้น ถ้าเปรียบได้กับเป็นเส้นยาแดง ผ่าแปด ซึ่งตรงนี้บางคนมาถึงตรงนี้ปั๊บมันเจอปัญหาก่อนที่จะไปสู่วัยมีครอบครัว หรือตึ้ง ปั๊บไม่มีครอบครัวเลย ตรงเนี่ยะน่าสนใจ แล้วพอผู้หญิงในวัยนี้สังเกตให้ดีเขาจะมีคาแรคเตอร์1.เชื่อมั่นตัวเองสูง 2.กล้าตัดสินใจแต่ข้างในเขา weakมาก บทที่เขาเศร้าไม่มีใครเห็นนะ เพราะเขาเจอปัญหาความรักตั้งแต่สมัยวัยรุ่นมา อกหักมาเยอะแล้ว แต่ ณ ที่เขากำลังจะไปสู่ชีวิตการมีครอบครัวแล้วกูอกหัก กำลังจะก้าวต่อ และที่ผ่านมาถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตรักมา ชีวิตรักลุ่มๆดอนๆ แต่ครั้งนี้การที่เราเลือกคนๆหนึ่งแล้วกำลังจะก้าวไปสู่ชีวิตการมีครอบครัว แล้วไอ้เส้นนี้ทำพัง แล้วผู้หญิงคนนี้ คือพอพังปุ๊บ เขาทำไง? กลับไปเริ่มต้นใหม่เหรอ ไม่ใช่แล้ว หรือว่าจะอะไรวะ ไม่มีเลย ก็ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นบางคนเคว้งเลยนะ บางคนก็ปฏิวัติตัวเอง น่าสนใจ ด้วยgap(ช่องว่างหรือความต่าง)ของวัยตรงนี้มันมีอะไรที่น่าสนใจ จากที่เราเคยเห็นผู้หญิงบางคนเรียบร้อย เชย อกหักปึ้ง ตัดผมสั้น โอ้โหใส่แว่นอันเท่านี้ นั่งปลดกระดุม เฮ้ย บางคนใส่สุ่ม นุ่งกระโปรงสั้นมาเลย บางคนแต่งตัวเชย คือลุคส์อะไรไม่สนใจแล้ว อะไรทำให้เขาเปลี่ยนแปลงวะ สุดท้ายที่เล่ามาทั้งหมดคือความรักทั้งนั้นเลย ความรักที่สมหวังและไม่สมหวัง หรือแม้บางคนที่เปรี้ยวมามีรักที่สมหวังกูไม่เที่ยวแล้ว เพราะว่ากูจะมีสามีที่ดี กลายเป็นคนเรียบร้อย ผ่านเส้นนี้ไป เออมีครอบครัวที่ดี แต่บางคนที่เช้ยเชย ปั๊ง โอ้โห อกหัก เปรี้ยว พอเปรี้ยวปั๊บแต่งตัวเปลี่ยนไป มีผู้ชายมาสนใจก็กลายมีครอบครัวที่ดี คือผมว่าตรงช่วงgap(ความแตกต่าง,ช่องว่าง) เนี่ยมันมีอะไรบางอย่างมันเหมือนหลุมดำ หลุมดำของความสะพรั่งของสาว ถ้าคุณรอดตรงนี้ไปได้ คุณก็น่าจะมีครอบครัวที่ดี หรือว่าจะปั้ง แล้วจะคาที่อยู่ตรงนั้น ไปไหนไม่ได้ ติดอยู่ในวังวนของความโสด
Q. เป็นการจุดประกายไอเดียที่น่าสนใจ จนเห็นเป็นโครงสร้างของหนังเรื่องที่2 ที่เล่าผ่านมุมมองของผู้หญิงในวัย30 ที่ทุกอย่างล้วนถ่ายทอดจากประสบการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นจริง
P.ก็เราได้คุยกับคุณโอ๋หัวฟิล์ม เขาบอกว่าเขาก็มีเรื่องราวที่มาจากชีวิตจริงเหมือนกันที่คนใกล้ตัวเขาและถ่ายทอดมาเป็นสคริปต์ เรื่องสั้นทรีทเมนต์แล้ว ผมก็เออรู้สึกว่ามันน่าสนใจ เพราะว่าบางทีของทุกอย่างถ้าเกิดมันมาจากเรื่องจริง มันทำอะไรคนก็เชื่อ เหมือนกับสิ่งเล็กๆมันมาจากเรื่องจริง นี่ก็มาจากเรื่องจริง และเป็นเรื่องจริงจากที่หลายๆคนนั้นเป็น และหลังจากที่อ่านบทแล้วหลายๆคนก็เป็นนะ ผมก็ยังคิดเลยว่าการเล่าเรื่องไม่ยากละ เพราะมันมี พล็อตเรื่องของเรื่องจริงอยู่ เพราะฉะนั้นการเล่าเรื่องอะไร แล้วสิ่งที่ผู้หญิงในวัยนี้ทำอะไรมันก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว ฉะนั้นพอมันเป็นเรื่องจริงที่สัมผัสได้มันก็เลยกลายเป็นไอเดียว่ามันน่าจะทำภาพยนตร์ได้ และพออ่านแล้ว ฉันเคยทำ ฉันเคยเป็น กูเคยเห็น ก็เลยน่าจะ แล้วทุกอย่างก็ถูกนำมาประกอบๆกันอยู่ข้างใน อันนี้พอเราได้เรื่องมาแล้วนะครับ ทางหัวฟิล์มก็บอกว่าเนี่ยะบทแบบนี้จะออกมาเป็นอย่างนี้นะ พี่จะทำงานอย่างไร แล้วตัวผมเองก็เพิ่งมาทำงานในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่2 เพราะฉะนั้นแล้วก็คนที่ผมรู้มือรู้ใจก็คือในทีมงานของสิ่งเล็กๆทั้งหมด แล้วพอดีเขาบอกว่าคนเขียนบทคือคนเดิมนะคือบอลรูม ผมก็บอกว่าก็ดีซิบอลรูมเขียนบทน่ารัก ก็ได้มาพัฒนาบทกัน ก็มีทีมงานผู้ช่วย(ผู้กำกับ)1,2,3 แล้วก็ทั้งหลาย หรือแม้แต่ผู้ช่วย1ซึ่งก็กลายไปเป็นผู้กำกับyes or no ไปแล้วซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะตามเขาได้รึเปล่านะ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ทางรู้สไตล์ แล้วก็ลองพูดคุยดู ก็เขาก็บอกว่า ถ้าสำหรับพี่หนูเต็มที่เลย ก็โอเค งั้นขอบใจมาก ก็ตามทีมงานทั้งหมดมาให้ ก็ได้ทีมงานเดิม ส่วนทางหัวฟิล์มเขาก็บอกว่าตอนนี้ผมไปคุยกับเสี่ยเจียงเรียบร้อยแล้วนะ เสี่ยก็ชอบด้วยก็ทำกับสหมงคลฟิล์มนี่แหละ แล้วก็พาร์ทเนอร์เดิม ซึ่งจริงๆทางสหมงคลฟิล์มเองก่อนหน้าก็มีไอเดียความคิดเกี่ยวกับพล็อตเรื่องสาว 30อยู่แล้ว ซึ่งก็ตรงกับทางหัวฟิล์มที่มีไอเดียตรงนี้เหมือนกัน ส่วนทางผมอยู่ในขั้นตอนการเหวี่ยงหา ผมได้ไปคุยกับคุณกาละแมร์ คุณนกศิขริน ได้ไปคุยกับคุณนก สินจัย คุณแดง ธัญญา อะไรอย่างเนี่ยะว่าข้อมูลต่างๆเป็นไงบ้าง ในวัยต่อไปน่าทำมั้ย ก็ในระหว่างที่ทำข้อมูลนี้ก็เลยได้มาผนวกกัน แล้วยิ่งเรื่องนี้ได้คุณบอลรูมเขียนบทมาในดราฟท์ที่1มีคุณต้อง(บัวไรนักคิดนักเขียนมือเขียนบทแห่งหัวฟิล์มท้ายฟิล์ม)อยู่ด้วย แล้วพออ่านไปก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าจะพัฒนาได้เร็วกว่าเพราะสิ่งเล็กๆมัน13ร่าง 13ร่างเพราะอะไร เราเล่ามุมผู้หญิงมาตลอดขึ้นมาอยู่สัก2-3ดราฟท์ แล้วก็มาเริ่มมีมุมผู้ชายหลังจากถูกคอมเมนท์ว่ามุมผู้ชายหายไป เราก็ทำไปจนถึง13ดราฟท์ แต่เนี่ยะพอเรามีนักเขียนบททั้งผู้ชายผู้หญิง เพราะฉะนั้นบทที่เราได้มาแทบจะละมุนละม่อมอยู่แล้ว เพราะมันมีทั้งความรู้สึกของผู้ชายและผู้หญิงอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ก็แค่ปรับไดอาล็อค ปรับเหตุการณ์ ดึงเข้าดึงออก ความสนุก ความสำคัญอะไร เติมเข้าไป ทำให้อันนี้มันก็น่าจะพัฒนาได้ไว และเราก็ใช้แค่6ดราฟท์ก็เสร็จ เพราะมีมืออาชีพถึง 2คนทั้งชาย และหญิง ก็ทำให้เออออกมาได้ดี ซึ่งก็ทำให้ผู้ลงทุนพึงพอใจ คราวนี้ก็เป็นหน้าที่เราแล้วที่จะทำยังไง ก็คือทำให้มันออกมาดีที่สุดนั่นแหละนั่นก็คือทำตามบทนั่นแหละ เพราะสิ่งเล็กๆ ก็ทำตามบท เพราะฉะนั้นถ้าบทชอบ เราก็ทำตามบท คงมีคนชอบ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างจากบทเลย
Q.ทราบมาว่า ถึงขนาดพี่จิกประภาส ชลศรานนท์ได้อ่านบทแล้วชอบบทมาก
P. ใช่ชอบจริงๆ ล่าสุดพี่จิกก็มีแอบไปโพสต์ในแฟนเพจในเฟซบุคส์ 30+ว่าบทน่ารัก ซึ่งต้องบอกว่าในตอนอ่านบททีแรก ผมรู้สึกว่าผมเห็น พลอย เฌอมาลย์มาเลย พลอยกระโดดออกมาจากในจินตนาการเลย ทุกคนอ่าน ก็ต้องพลอย เฌอมาลย์คนเดียวเท่านั้นที่จะต้องเป็นนางเอกเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่พลอยผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะผมเห็นพลอยแล้ว แล้วทางหัวฟิล์มก็บอกผมว่าพี่เพชรรู้มั้ยว่าติดต่อพลอยไว้แล้ว ผมก็อ้าวเหรอ เออก็ดีนะซิ ทำงานก็สบายเลย เพราะเรามีจินตนาการเดียวกันแล้ว
Q.นำไปสู่ขั้นตอนที่สำคัญมากคือการคัดเลือกตัวแสดงที่จะมาถ่ายทอดคาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆในภาพยนตร์
P. คือต้องเท้าความไปนิดนึงนะ คือผมไปถ่ายภาพยนตร์เรื่องชั่วฟ้าดินสลาย คือผมไปเล่นรับเชิญ แล้วได้นั่งดูก็รู้สึกว่าเฮ้ยพลอย เฌอมาลย์น่ารักมาก หลังจากกองถ่ายสั่งคัทมานั่งพัก กินข้าวกันสนุกสนาน เฮ้ย!พลอยเชื่อมั้ยหนูเล่นหนังคอมมิดี้ได้นะ พลอยบอกพี่บ้าน่าหนูเล่นหนังคอมมิดี้ได้ไง เคยเล่นแต่ละคร แต่พอหนังคอมมิดี้ผมว่ามันเป็นอีกสไตล์หนึ่ง คือผมมองว่า พลอยเล่นได้จริงๆ คือพลอยสดใสร่าเริงมาก พี่บ้าน่า ถ้าพี่ทำหนังคอมมิดี้พลอยเล่นเปล่า เฮ้ยเล่นซิพี่อย่าลืมว่าหนูชอบสิ่งเล็กเล็กฯมาก ก็คุยกันแหย่ๆอย่างงั้น จนเรามาเจอบทที่หัวฟิล์ม บอกว่าได้มีการติดต่อพลอย และมีได้ทาบทามพลอยไว้บ้างแล้ว แล้วพออ่านจากบทได้เห็นตัวละครพลอยขึ้นมาแล้ว แล้วในตัวละครของพลอยเป็นตัวละครที่ชื่ออิง เป็นผู้หญิงที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองระดับหนึ่ง เป็นผู้หญิงสวย น่ารัก เก่ง แล้วก็มีอาชีพทางด้านการถ่ายรูป ชอบถ่ายรูป ชอบการเดินทางท่องเที่ยวอิสระ งานก็เป็นเจ้านายตัวเอง แต่ก็ต้องเป็นคนที่sensitiveเรื่องความรักมาก และก็เป็นคนที่รักใครรักจริง รักนาน ก็เลยทำให้รักแฟนที่คบกันมาถึง7ปี สิ่งที่คาดหวังในอนาคตคือ ที่พ่อบอกไว้คืออยากให้ลูกแต่งงานและมีหน้ามีตาแล้วอยากให้ลูกมีฐานะดี มีฐานะทางสังคมสูง เป็นคนราศีสิงห์ ซึ่งเราพยายามหาราศีที่ตรงคาแรคเตอร์ที่สุดแล้วคือ ราศีสิงห์ เกิดวันพุธ วันพุธเนี่ยะพูดเก่ง พูดปากตรงกับใจ พูดจาโผงผาง แล้วก็ต้องมาเสียใจทีหลัง เอ๊ะนี่มันใช่พลอย ยังไงก็พลอย และเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง จะวีน จะกิ๊บ จะเกิ๊บ จะฮา จะเหวี่ยง เขาเป็นคาแรคเตอร์พลอยจริงๆ แล้วคุณจะได้เห็นพลอยเล่นบทตัวนี้เล่นเป็นพลอยเลย ก็อยากจะให้ท่านผู้ชมลองดูว่าสิ่งที่เรามองเห็นจากตัวละครตัวนี้ กับที่ท่านผู้ชมได้ดูแล้วเป็นตัวละครตัวเดียวกันมั้ย เพราะทุกอย่างออกมามันมีความเป็นพลอย ความน่ารักสดใส
มาถึงตัวพระเอก พระเอกเรื่องนี้คงความเป็นสไตล์ภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้ เป็นผู้ชายเซอร์ๆคนหนึ่งชื่อจืด มองโลกในแง่ดี เฟรนด์ลี่ อายุวัยใกล้ 30แล้วนะครับ แต่อ่อนกว่านางเอกเล็กน้อย ใครเห็นก็อยากคุยด้วย แล้วชอบทำให้คนข้างๆยิ้ม มีน้องสาวอยู่คนเดียวนั่นคือน้องจีนะครับ อาชีพหลักเขาคือขายหมูปิ้งครับ เป็นพระเอกหนุ่มมาดเซอร์ขายหมูปิ้งครับ รู้สึกว่าผู้หญิงเขาอยากจะคุยอยากจะปรึกษา แล้วก็หมูปิ้งเขามีทีเด็ดตรงที่น้ำจิ้มอะไรที่สุดใน1ใน100ร้านที่ต้องชิมก่อนตายนั่นคือหมูปิ้งคุณย่า จุดเด่นของคุณจืดที่ต้องเป็นเป้เพราะว่าดูเป็นคนอารมณ์ดี ดูแล้วขี้เล่นหน่อยๆ สามารถทำให้ผู้หญิงมีความสุขรอบข้างได้ เหมือนผมนี่แหละ(หัวเราะ) ก็เลยมองก็เห็นอยู่ในยุคนี้ก็มีอยู่คนเดียวที่เซอร์อยู่และรั่วได้หน่อยๆ(หัวเราะ) ก็เห็นคุณเป้อารักษ์อยู่ ก็นึกถึง 2คนนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จ ซึ่งทั้ง2คนนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จที่ดูดี และก็ยังไม่เคยเห็นเขาทั้งคู่เล่นด้วยกันมาก่อน แล้วพอได้คุยกับเป้ เรียกเขามานั่งคุย ก็กลายเป็นว่าเขาเป็นคนที่มีอะไรมากกว่าที่เราคิด ความซน ความครีเอท ความเป็นตัวของตัวเอง ที่เป็นคนเล่นมุกไปแล้วแป๊กบ้างไม่แป๊กบ้าง ชอบ เฮฮา แล้วซน แล้วเฟรนด์ลี่ เออ ตรง ตัวละครตัวนี้ตรง เพราะเขาเฟรนด์ลี่กับทุกคน ก็เป็นตัวละครคุณอิง คุณจืดไปก็จะมีตัวละครอยู่อีก2คนที่จะมาเป็นเพื่อนรักของนางเอก เราได้2นักแสดงซึ่งเป็นคู่ขวัญจากสิ่งเล็กเล็กฯ ครูอินกับครูอร คุณเจี๊ยบ พิจิตรา กับ คุณตุ๊กกี้ ชิงร้อย คือพอดูแล้ว เรามองว่าใน 3คนในความรักเป็นเพื่อนที่เราต้องการจะผูกอยู่ คือเพื่อนต้องมี 3สไตล์คือ1.อย่างสวยเลย 2.คือหลุดๆหน่อย 3.คือไม่สวย มันจะเป็นความจริงของการรวมกลุ่มของผู้หญิง สาว30 3 แบบที่ต้องมีอยู่ในนั้น อย่างตุ๊กกี้เราเคยเห็นเป็นครูอินมาแล้ว เอ๊ะ ถ้าเป็นคนอีกแบบ นิ่งๆหน่อยๆ ขำๆนิดๆ เป็นคนพูดธรรมดาเหมือนเป็นคนเชยๆนิดๆ ไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไหร่ อยู่ในกลุ่มคนสวย แล้วจับคุณเจี๊ยบ พิจิตรามาเล่นเป็นสาวเปรี้ยว เออ มาเล่นเป็นสาว30ที่กำลังหาผู้ชายสักคนที่เป็นฝ่ายเสนอตัว ฝ่ายรุก ใน3คนเจี๊ยบฝ่ายรุก พลอยกำลังทรงอยู่ ตุ๊กกี้เนี่ยะพร้อมที่จะถอยพอแล้วชีวิตนี้ผู้ชายไม่ต้องการหรอก อะไรอย่างเนี่ยะ เพราะฉะนั้นมันก็เลยลงตัว ทั้ง3คนเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ที่เลือกคุณเจี๊ยบเพราะว่าคุณเจี๊ยบเขามีสิ่งที่ดึงดูดผู้ชายได้ บอกไม่ถูกเหมือนกัน ทำไมผู้หญิงคนนี้สวย เห็นแล้วน่ารักมากเลย อยากรู้จัก เออแล้วทำไมเขาไม่มีแฟนนะ เป็นผู้หญิงสวยแต่ดูเยอะ จนผู้ชายไม่กล้าใกล้ ทำให้เธอถึงครองความเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบันนี้ เยอะกว่าผู้หญิงปกติ เอ๊ะมากไปรึเปล่าว่ะ เอ๊ะโก๊ะไปรึเปล่าวะ เต็มบาทรึเปล่าวะคนนี้ จริงๆเธอสวยนะ และก็มีความรักอิงอยากให้อิงประสบความสำเร็จในชีวิตกับผู้ชายคนหนึ่ง ก็เลยพยายามที่จะชักจูงอิงไปยังที่ต่างๆเพื่อให้รีแล็กซ์สบายใจ เป็นผู้หญิง30ที่ผู้ชายมองเห็นแล้วจะสะดุดเลย ผู้หญิงเขาจะมีงามพิศกับงามผาดนะครับ คือน้องมินท์จะเหมือนกับงามผาดนะครับ เห็นปุ๊บสะดุดก่อนเลย แต่ถ้ามองพิศดีๆเหมือนจะมีโก๊ะๆหน่อยๆ ทำให้ต้องดูเลยว่ากว่าจะศึกษาผู้หญิงคนนี้คงจะต้องใช้วิธีการหลายๆแบบเหมือนที่เราจะรับสภาพความเยอะไปของเธอได้ แต่น้องเจี๊ยบทำออกมาได้น่ารักมากนะครับ เป็นผู้หญิงโก๊ะที่สวยมาก จนอยากมีแฟนเป็นโก๊ะ(หัวเราะ)
สำหรับน้องย้งยี้นะครับ รับบทโดยคุณตุ๊กกี้ ชิงร้อย อันนี้บทบาทคาแรคเตอร์ของเธอก็คือคงความเป็นเธอไว้ จากสิ่งเล็กเล็กฯก็มาจนถึงปัจจุบันก็คงความเป็นตุ๊กกี้ เป็นเพื่อนที่อนุรักษ์นิยมนะครับ ประท้วงไม่ชอบการกดขี่ข่มเหง ไม่ชอบระบบนายทุนที่ทำลายสภาพแวดล้อม ทำลายทรัพยากรชุมชนที่มีอยู่แล้วก็คิดว่าชีวิตของตัวเองไม่ต้องมีผู้ชายก็ได้ ชีวิตที่มีความสุข อยู่กับโลกความจริง ก็ตุ๊กกี้ก็จะเป็นเหมือนตัวแทนผู้หญิง30อีกแบบหนึ่งที่เป็นเฟมินิสต์ที่เรามองเห็นอยู่ในสังคม ชัดเจนจริงจัง โผงผางและไม่ยอมถูกเอาเปรียบ ก็ถือว่าในตัวละครสาว30น่าที่จะมีตัวละครที่อารมณ์ดีอยู่สักตัวหนึ่ง ซึ่งกระแสตอนนี้ไม่มีใครแซงคุณตุ๊กกี้ไปได้เลย ก็เอาความเป็นตุ๊กกี้มาใส่ ในตัวละครตัวนี้ใส่ความเป็นตุ๊กกี้เลย เหมือนชีวิตประจำวัน ไม่ต้องไปแต่งหน้าเยอะๆ หรือไม่ต้องไปแต่งตัวสีแปลกๆแต่งให้เหมือนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งซึ่งเป็นแบบนี้จริงๆ ก็เลยได้ตัวละคร3คนนี้ขึ้นมา แล้วตอนที่มาคุยกันตอนฟิตติ้ง เออเขาคุยกันเข้าขากันได้ดี เหมือนเขารู้จักกันมาก่อน แต่อย่างครูอิงครูอร เจี๊ยบกับตุ๊กกี้เขารู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่พอมาจูนกับพลอย พลอยเขาเป็นนักแสดงที่มีความเป็นมืออาชีพมาก เขามีการบ้านกับตัวเองมาตลอด และมีการเตรียมตัวมา และมาถึงก็ได้มีการแลกเปลี่ยนทัศนคติ ก็เออ ได้สูตรสำเร็จดีละ ทุกอย่างลงตัวละ สรุปแล้วตัวละครทั้ง3ตัวนี่นะครับไม่ว่าจะเป็นน้องพลอย ,น้องเจี๊ยบ ,หรือคุณตุ๊กกี้นะครับ ทั้ง 3คนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 3ตัวละครมันเป็นจริง มีความเชื่อว่าทั้ง3คนเขาเป็นเพื่อนกันสนิทมาก แน่บแน่น แล้วก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่มีใครแย่งซีนใครไม่มีใครโดดเด่นกว่าใคร ทุกคนทำหน้าที่ตัวละครได้ดีหมด เจี๊ยบจะล้นๆนิดๆ พลอยจะลังเลๆๆๆ ตุ๊กกี้ก็จะพยายามดึงเพื่อนอย่าให้สูงนัก มันคือทำให้มันมีบาลานซ์ของมันอยู่คือสูงกลางต่ำๆๆอยู่ในเรื่องใครมากใครด้อยก็จะช่วยกันดึงอยู่อย่างเนี่ยะ จะทำให้สูตรสำเร็จหรือการพูดคุยหรือความเชื่อว่าที่ว่าทั้ง3คนเป็นเพื่อนกันจริงเนี่ยะ เออมันดูน่าเชื่อถือนะ แล้วก็เขารักกันจริงๆนะ หลังเลิกกองถ่ายเขานั่งคุยกัน เขาก็กินด้วยกัน แล้วก็เหมือนเขาสนิทกันมานานเลยละ เรารู้สึกว่าเออเป็นเพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้ดี แล้วเขาเข้าใจเรื่องราวได้ดี แล้วก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี ทำให้รู้สึกว่าเขารักกันจริงอารมณ์ที่ว่าคนหัวอกเดียวกันเขาจะช่วยกันในหนัง30+ อย่างใครมีปัญหา เฮ้ยปัญหาของเพื่อนก็เหมือนปัญหาของเรา ก็จะช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยนางเอกให้หลุดพ้นจากความเศร้า หรือการดีไซน์ให้นางเอกไปหาเดทกับหนุ่มใหม่ๆ ที่จะแบบเออหาผู้ชายที่ถูกใจในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค อะไรก็แล้วแต่ มันมีพลังเพื่อนช่วยเพื่อนอยู่เยอะมากนะครับสำหรับสาวๆ คือมันเหมือนจะสั้นๆ นะแต่จริงๆมันบ่งบอกให้รู้ว่าการมีเพื่อนสักคนที่มีความทุกข์เนี่ยะคนที่ช่วยเพื่อนดับทุกข์ได้ก็คือเพื่อนที่อยู่ในวัยเดียวกัน ไล่เลี่ยกัน แล้วช่วยกันจริงจัง และก็พยายามทำทุกอย่างก็ได้เพื่อให้เพื่อนมีความสุข มันเป็นสัญชาติญาณของผู้หญิงหรือของเพื่อนกันเลยนะ ทำอย่างไรก็ได้ให้เพื่อนมีความสุข ช่วยกัน รวมทั้งการเม้าท์ผู้ชายด้วย
Q.ฟังๆดูแล้วคนดูจะได้เห็นการจำลองชีวิตผู้หญิงวัย 30นี้ออกมาจริงๆในภาพยนตร์
P. ใช่ครับ สำหรับ 30+โสดON SALE สรุปง่ายๆด้วยรวมคือเรื่องราวของหนังมันจะรวบรวมชีวิตของผู้หญิงวัยเนี่ยะมาเป็นฉบับย่อว่าเกิดอะไรขึ้น ทำอะไรบ้าง เจออะไรบ้าง และเขามีความสุขสุดท้ายคืออะไร มันจะตอบโทย์ของผู้หญิงที่ไม่ใช่วัยนี้วัยเดียว มันเป็นสูตรสำเร็จของความรักอย่างหนึ่งเหมือนกันว่า ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นวัยไหนก็เหอะ ถ้าคุณมีความรักและอยากจะทำอะไรเพื่อความรัก ทำไปเถอะ แต่มองสภาพความรักในสิ่งที่มันดีแล้วกัน มองความรักในสิ่งที่มันบวก อย่าไปมองความรักในสิ่งที่มันลบ แล้วมันจะดีสำหรับคุณเอง
Q.ในสิ่งเล็กๆจะมีแก๊งเพื่อนนางเอกที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่และถือได้ว่าเป็นจอมขโมยซีนเลยทีเดียวมาจนถึง30+โสดON SALE ก็มีนักแสดงหน้าใหม่ถึง2คนมาถ่ายทอดการแสดงเป็นตัวละครสำคัญ
P.นักแสดงหน้าใหม่ที่เข้ามาในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าใหม่มาก ถอดด้ามเลยคนหนึ่งเป็นไฮโซ อีกคนเป็นโนเนมเลย พูดถึงน้องต้นก่อน ซึ่งเราคัดเลือก เป็นนักแสดงไฮโซที่แหวกแซงดาราขึ้นมา เพราะระหว่างการแคสท์ติ้งเรามีดารามา 2ท่าน แล้วก็มีคุณต้น1ท่านแล้วเราก็มา weight ความใช่ไม่ใช่ จริงๆไม่จริง ชอบไม่ชอบ ตัวละครตัวไหนน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วดูว่าคนไหนจะเซอร์ไพรส์คนดูที่สุด คนนี้มาจากไหน ไฮโซหนุ่มมาดดี ดูดี คุณต้น เดิมพัน อยู่วิทยา(นักบริหารการเงิน เจ้าของรีสอร์ทลิม่าโคโค่เกาะเสม็ด)ก็แซงขึ้นมาในโค้งสุดท้าย เราก็เออถ้าผู้ชายแบบนี้ดูแล้วไม่ต้องหล่อนัก แต่ก็ดูดีเป็นที่พึ่งได้ เข้ามา ผู้หญิงดูแล้วน่าสนใจมั้ย ก็น่าสนใจเหมือนกัน แล้วน้องต้นก็มีความพยายามเยอะ ถึงแม้เราจะผ่านการคอร์สเวิร์คช็อพไปแล้ว เรียนแอ็คติ้งไปแล้ว น้องต้นก็ยังไปจ้างแอ็คติ้งสอนตัวเองตลอดเวลา ว่างปั๊บก็โทรมาพี่ครับมาช่วยผมหน่อย ทุกฉากทุกซีน แล้วพอซีนที่เขาเข้า เขาจะฟัง แล้วเขาก็ถามว่าพี่ผมเล่นอย่างนี้พอมั้ยครับ ดียังครับ ไม่ดีครับผมขอ ผมรู้สึกไม่ดีครับ ครับครับ อันนี้มากไปใช่มั้ยครับพี่ฯลฯ คือเขาเอาใจใส่ สองวินัยการทำงานเขาดีด้วย และไม่น่าเชื่อว่าคนระดับไฮโซเขามีพื้นฐานจิตใจที่ดีมากเลยนะ สัมมาคาระวะ พูดจา เขาวางตัวเป็นที่รักของทุกคนในกองถ่าย ซึ่งเราก็เออเว้ย ไฮโซบางคนเขาจะมีมาด เขาเฟรนด์ลี่ เขาสนุกสนาน เขากลับเป็นผู้ชายที่เราคิดไว้ว่าเขาเป็นตัวละครตัวนี้จริงๆ พอถึงกลางคืนพอถ่ายเสร็จได้ไปนั่งทานข้าวกันผมบอกต้นหลังจากพูดกับต้นวันนี้นะ พี่เลือกต้นถูกต้องมากเลย ต้นเป็นอย่างที่พี่ต้องการจริงๆ คือเขามีบางอย่างที่เป็นตัวละครในนั้นที่เราต้องการอยู่ ความเป็นคนชอบเที่ยว ความเป็นคนเชื่อมั่น ฐานะดี คือมันตรง คือถือว่าเราได้โชค เราได้คุณต้นมาหนึ่งคน เพราะในตัวคาแรคเตอร์ที่เป็นคู่แข่งของพระเอกเนี่ยะ อย่างแรกเลยคือต้องดูรวย แล้วก็เป็นหนุ่มโสดที่มีการใช้ชีวิตเหมือนเพลย์บอยนิดๆ ด้วยความที่เป็นคนไฮโซ คืออย่างแรกเลยที่มองคือเป็นคนไฮโซก่อนเลย ไฮโซ ดูดี มีการศึกษา หล่อมั้ย ผมมองว่าไม่จำเป็นต้องหล่อเท่าไหร่นัก แต่ขอให้ดูเฮ้ย น่าสนใจ มันเตะตาเราในแว่บแรก เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงที่มันเป๋มาเห็นผู้ช่วยคนนี้ เฮ้ย เอาวะ อย่างนี้ก็ได้ อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ต้องทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่ามันพึ่งพิงได้ เขาดูแบบไม่ขี้เหร่นัก พึ่งพิงได้ แล้วก็มีความสุภาพ มีอะไรบางอย่าง ด้วยฐานะ ฐานันดรศักดิ์ของเขา เลือกไปเลือกมาก็เหมือนกับเราดูละคร ถ้าลองเป็นไฮโซจริงๆสักคนหนึ่ง แล้วก็ผมก็เอารูปดารากับรูปบุคคลคนนี้ไปเทียบกับผู้หญิงทั่วๆไปดูว่าคนไหนน่าสนใจกว่า อย่าถามเรื่องความหล่อนะนั่นดาราเขาเน้นอยู่แล้ว แต่นี่ใครละพี่ ทำไมละ คิดว่าคนไหนดูรวย คนนี้ ดูรวย ดูน่าสนใจดี ดูเขามีฐานะ เริ่ม เริ่ม มันเซอร์ไพรส์คนดูด้วย เซอร์ไพรส์ทุกอย่าง เอาละวะลองเหวี่ยงจากไฮโซมาสักคนหนึ่ง ที่สำคัญ ต้องแตกต่างจากพระเอกเยอะมาก คือพระเอกมันเซอร์ แต่ไอ้นี่มันรวย รวยจริง จับต้องได้ เทคแคร์ แต่ๆละคนจะมีบางอย่างที่แต่ละคนไม่มีในเรื่องราวนะครับ เลือกเขาคนนั้นขึ้นมาคือคุณต้น รวย บุคลิกดูดี ดูแตกต่างจากพระเอกแน่ๆ เลยคนละคาแรคเตอร์ แต่งตัวเนี๊ยบดูดี หรู แล้วก็พอได้มาเรียกพูดคุยแล้ว เออจริงๆคุณต้นคุณตรงกับตัวละครมากเลยนะ เพราะเขาไปต่างประเทศมาเยอะมาก ชอบถ่ายรูป เล่นกีฬาเอ็กซ์ทรีม เป็นนักธุรกิจ พูดจาหวานครับผมตลอด วันแคสท์ติ้งเขาบอกพี่มีมากกว่า2 มั้ยครับ ถ้ามีมากกว่า2คนผมไม่ไปดีกว่า ผมรู้สึกว่าผมไปผมก็หลุด (หัวเราะ) เขาไม่ใช่นักแสดงเลย แต่เป็นสิ่งที่เขาฝันนะ เขาฝันอยู่2อย่างคือนักร้องและนักแสดง เพราะตอนหนุ่มๆนะมันเป็นอย่างนั้น แต่พอในระดับธุรกิจแล้วเขาเป็นไฟแนนเชี่ยล คิดว่าคงไม่เจออะไรแบบนี้แล้วละ อาชีพแบบนี้แล้วละ พอเราไปเรียกมา เขาก็บอกว่าไม่เชื่อตัวเอง คุณมีบุคลิกบางอย่างที่เราชอบนะ โดยความเป็นตัวละคร ใกล้เคียงตัวจริงมาก แล้วเป็นคนที่ผู้หญิง ผมโหวตมาแล้วนะว่าคุณนะสะดุดตาคนอื่นมากที่สุด พี่ผมไม่หล่อนะ นั่นแหละที่ผมต้องการ สังเกตมั้ยว่าผู้ชายบางคนไม่หล่อนะ แต่ผู้หญิงหลายคนชอบแต่ดูดี มีเสน่ห์บางอย่าง มีอะไรที่มันดูดีนะ ก็เลยเลือกเขามาเป็นคุณต้น อีกคนคือน้องเทวี คนนี้สำคัญมากว่าการเลือกน้องเทวีเราก็แคสท์จากน้องที่หน้าตาหมวยๆหน่อยเพราะต้องเล่นเป็นน้องเป้ 2.ต้องน่ารักพอสมควร 3.ต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างที่บอกให้รู้ว่าพี่น้องคู่นี้รักกันมาก ก็เรียกมาดูหลายคนมาก ก็เกือบจะได้ก็ไม่ได้ คนนี้เกือบจะดี จุดสุดท้ายได้มาเจอน้องเทวีก็ แปลกมากนะ มันเหมือนกับจังหวะที่เจอกับใบเฟิร์น คือในขณะที่ตอนถ่ายภาพนิ่ง ตอนแคสท์ติ้ง จังหวะที่ให้ซ้อมบทไปฝ่ายแคสท์ติ้งก็ทำงานไป ผมก็เดินเข้าไป ตอนใบเฟิร์นก็ถ่ายภาพนิ่งใบเฟิร์นอยู่แล้วก็เล่าเรื่องให้ฟัง นี่ก็ตอบๆๆๆนี่ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พอถึงฉากเข้าไคล์แม็กซ์เราก็เล่าไคล์แม็กซ์ให้ฟังไอ้เฟิร์นน้ำตาไหล โป๊ะ ในขณะที่หน้าตาปกติ อยู่ๆก็น้ำตาไหลออกมา เฮ้ยน้องคนนี้ร้องไห้สวยเว้ย เหมือนกันมาเจอน้องเทวี ฝ่ายแคสท์ติ้งกำลังถ่ายๆ เราก็พยายามที่จะเล่าฉาก แต่น้องเทวีจะเป็นเด็กที่เรียนเก่ง เป็นเด็กโปรแกรมวิทย์ เตรียมอุดมด้วย เพราะฉะนั้นเขาจะถามเยอะหน่อย แต่การถามเยอะๆจะไม่ได้มาสร้างความรำคาญ แต่เป็นการถามเพื่อประมวลเหตุการณ์แล้วเขาไปเล่น ทำไมหนูต้องพูดอย่างนี้ ทำไมพี่หนูตายค่ะ เขามีกระบวนการคิด ประมวลข้อมูลทุกอย่างแล้วก็ใส่สมองไว้ แล้วก็ไปพรึ่บ(พี่เพชรทำท่าปั่นสมองกรองข้อมูล) แล้วเล่น แล้วในระหว่างที่เขาเล่น เราก็พยายามพูดๆไป พอถึงฉากที่มันเศร้าๆที่เป็นดราม่า พอพูดปั๊บ เขาร้องไห้หมดสภาพคือร้องไห้เป็นเด็ก มีงอแง มีเช็ดหน้า เราก็เฮ้ยคนนี้น่าสนใจ 1 เขาน่าสงสารเป็นเด็กที่ดูwesk มากนะ แต่ดูสดใส ถึงตอนเศร้าๆเพราะอะไรคือตัวละครตัวนี้ขาดพ่อแม่ อยู่กับพี่ชายสองคน ฉะนั้นเด็กคนนี้เหมือนมีความสุขนะ แต่ว้าเหว่ เพราะพี่เป็นพี่ชาย เพราะฉะนั้นพอเขาเล่นมาพอร้องไห้ได้น่ารักมากผมเลือกเลย แอ็คติ้งไม่รู้เดี๋ยวไปทุบเอา แต่ทางบทที่พอลองพูดแล้วเขาได้ แล้วยิ่งจังหวะการใช้ดราม่าเขาได้ดี ยิ่งน่าสนใจ ก็เลยเลือกน้องเทวีเข้ามา รับรองว่าต้องชอบน้องเขาในความน่ารัก
Q.พี่เพชรมองว่าอะไรคือเสน่ห์ของหนังเรื่อง30+โสดONSALE
P.เสน่ห์ของหนังเรื่อง 30+โสดON SALE ผมว่าถ้าคุณไปชม คุณจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นการรวมเอาหลายๆอย่างเข้ามาโดยเป็นศิลปะที่มันน่าประทับใจโดยเริ่มตั้งแต่บทภาพยนตร์ที่ดี เรามีนักแสดงที่ดีมีคุณภาพถ่ายทอดความเป็นตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งไม่เคยคิดว่าเขาทำได้ขนาดนี้มาก่อน เพราะว่าเขาเล่นเป็นตัวเขาเอง รวมทั้งการเล่าเรื่องชีวิตกับความรัก ชีวิตประจำวันของสาว30+ที่เขาเป็นอยู่คือปัจจุบัน เขาทำอะไรอยู่บ้าง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะเห็นหมดเลยทั้งช่วงปกติ หรือช่วงอกหัก เหงา เห็นหมด
Q.ถ้างั้นต้องเล่าให้ฟังแล้วว่าเรื่องราวของ 30+โสดON SALE เป็นอย่างไร
P. เรื่องราวของ30+มันเป็นไงมาไงเหรอครับ มันก็เป็นเรื่องราวของผู้หญิงอายุวัยใกล้3 0คนหนึ่งซึ่งบูชาความรักเป็นที่ตั้ง รักใครรักจริง รักแท้รักเดียว แล้วก็หมายมั่นปั้นมือว่า คนนี้คือคนที่ใช่แล้วละ แล้วคนที่ตัวเองชอบด้วย แล้วคิดว่าคงใช่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยอมรับแล้ว แต่จู่ๆเธอกลับได้รับการ์ดแต่งงาน การ์ดหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอผิดหวังที่สุดในชีวิต เป๋ มีอาการอกหัก ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิต วิ่งหาและทำทุกอย่างที่จะทำให้ตัวเองสบายใจขึ้นได้ หาทางระบายออก ไม่ว่าจะเป็นไปกับเพื่อน ไปหาสถานที่เงียบๆคนเดียวอยู่ หรือสิ่งที่ทำให้ตัวเองสบายใจนั่นคือการไปคุยกับคุณจืดพระเอกที่ร้านหมูปิ้ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เดียวที่ตัวเองสามารถไประบายความรู้สึกของตัวเองได้ว่า ฉันเป็นอย่างนี้ ทำไม เพราะอะไรนะ แกช่วยฉันคิด เธอช่วยฉันคิด พระเอกก็พยายามพูดปลอบใจ หาวิธีที่ให้นางเอกลงจากคานด้วยการเสนอตัวเองว่าจะเป็นคนพาลงไป วิธีที่จะพาเธอลงจากคานได้ก็ใช้วิธีนี้รับรองว่าเนื้อคู่จะต้องโผล่มาแน่ๆ แต่พระเอกจะพานางเอกลงมาจากคานอย่างไรนั้น พระเอกมีอาชีพเป็นหมอดูครับ หมอดูก็พยายามไกด์ทุกอย่างชี้ช่องทาง ให้นางเอกเห็นว่าชีวิตของเธอนั้นตามดวงก็มีโอกาสที่จะมีคู่นะ แต่ควรจะรีบๆซะ แต่ว่ายังไม่เจอเท่านั้นเอง คิดว่าต้องใช้เวลา แต่ยังไงก็ต้องเจอ แล้วในที่สุดเนื้อคู่จริงๆของอิงก็โผล่เข้ามา โผล่เข้ามาในแบบที่ปัจจุบันทันด่วน แล้วเป็นทุกอย่างที่นางเอกรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แหละมันเปอร์เฟ็กท์มากมีทุกอย่างในแบบที่ตัวเองต้องการแล้วใกล้ตัวเองมากที่สุดคิดว่าคนนี้ใช่แน่นอน เป็นอย่างไรต้องไปดูเอา
Q.ในบทบาทของผู้กำกับทราบมาว่าพี่เพชรเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของภาพยนตร์เลยตั้งแต่มีส่วนร่วมในตัวเรื่อง บทภาพยนตร์ มุกแก๊ก ไปจนถึงโลเกชั่น พร็อพ ฉาก ชุดนักแสดง นอกเหนือจากการกำกับนักแสดง
P.จริงๆแล้วถ้าถามว่ามีส่วนร่วมมากมั้ย ความจริงก็ในทุกกระบวนการตั้งแต่ตอนแรก คือหลังจากที่ได้พูดคุยถึงเรื่องราวของผู้หญิงวัย30แล้วก็ได้มาดูบท ได้มาประชุมมีทติ้งกันแล้วก็พัฒนาบท ได้คุยกับคุณบอลรูม คุณต้อง(บัวไร)ทำจนถึงดราฟท์3-4 แล้วก็ได้มาคุยกับผู้ช่วย1คุณน้องนายนะ จนมาถึงดราฟท์5-6 จนไฟนัลสุดท้ายแล้วก็มาทำงานกัน ดูโลเกชั่น ดูงานอาร์ทดูmood&toneทุกอย่าง เราก็มาประชุมบางอย่างก็เพื่อที่จะช่วยกันให้ได้ลุคส์ออกมาที่มันทันสมัยแล้วก็ดูดีที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะเราอยากให้ลุคส์ออกมาเป็นคนเมืองหน่อยๆ และทันสมัยนิดๆและสีสันสดใส
Q.ใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ แม้แต่เสื้อผ้าที่นักแสดงที่จะใส่ในแต่ละฉากแต่ละชุดไม่ว่าจะเป็นฉากร้องไห้,ดินเนอร์ ฯลฯ ต้องผ่านตาผู้กำกับคนนี้คือเก็บหมดจริงๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงผม
P. คือสำหรับตัวละครสำคัญหลักๆในภาพยนตร์ คือเราต้องมีทีมคอสทูม(เสื้อผ้า)มาด้วย จะทำหน้าที่พรีเซ็นท์คาแรคเตอร์นางเอกให้เด่นชัดขึ้นมา เพราะฉะนั้นนางเอกแบบไหนที่จะดูเด่นเป็นสาวมั่น แล้วก็เลยทำให้มีการเลือกออกแบบทรงผมหลายๆแบบนะครับ รวมทั้งนางเอกต้องเป็นสัญลักษณ์ของทรงผมเหมือนฟาร์ร่าห์ ฟอว์เซ็ทเมื่อก่อนหรือใครก็แล้วแต่ เฮ้ยเห็นนางเอกเรื่องนี้ทำทรงผมแล้วน่ารักมาก แล้วต้องอยากทำทรงผมเดียวกับพลอย เสื้อผ้าที่นางเอกใส่น่าจะเป็นแฟชั่นอินเทรนด์ของคนที่ไปดูแล้วเฮ้ยอยากใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับพลอย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีการประชุมว่าต้องทำแบบนี้นะ น่าจะเป็นแบบนี้นะ และน่าจะเป็นซิมโบลแบบของผู้หญิงที่ชื่นชอบพี่พลอย และทำตัวแบบพี่พลอยได้และก็น่าจะเป็นผู้หญิงที่น่ารักและออกมาเป็นหนังที่น่ารัก ต้องไปดูสถานที่โลเกชั่น แม้กระทั่งการมาทำเวิร์คช็อพ เรียกแอ็คติ้งโค้ชเข้ามา ก็ต้องไปดูแอ็คติ้งโค้ชด้วย ต้องไปสอน เพราะซีนสำคัญ แอ็คติ้งโค้ชเขาอาจไม่ได้อ่านบทละเอียด ไม่ได้เข้าใจกับมันมากเท่าเรา เราก็พยายามไปอธิบายว่าตรงนี้มีที่มาที่ไป น่าจะเป็นแบบนี้ บอกขอบเขตที่เราต้องการให้แอ็คติ้งโค้ชรับรู้จะได้เห็นภาพเดียวกัน สอนนักแสดง นั้นคือคลุกทุกอย่างwrap(ห่อหุ้ม)ให้มันเกิดรวมไปถึงว่าควรทำอย่างไรให้มันออกมาเป็นเรื่องราวที่ดีที่สุดได้
Q.รวมไปถึงการเป็นผกก.ภาพยนตร์ที่ให้ความสำคัญกับการกำกับการแสดงมากเป็นพิเศษ
P. คือถ้าพูดถึงการทำงานในการกำกับของผม ผมรู้สึกว่าผมชอบการทำงานในสไตล์ที่ อย่างเรื่องราวของมันจะเน้นที่แอ็คติ้งออกมา การแสดงออกมาของตัวละคร เพราะว่าหนังมันจะเกี่ยวกับอารมณ์มากกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเรียกอารมณ์ของหนังได้ก็คือนักแสดงต้องสามารถแสดงได้จนดึงอารมณ์คนดูออกมาให้ร่วมไปกับการแสดงละครได้ ผมจะไม่ค่อยสั่งให้นักแสดงทำ ผมจะมองว่าถ้าคุณรู้สึกแบบเนี่ยะคุณจะทำอะไร หรือบางอย่างเราจะทำไกด์ให้ดูว่าน่าจะประมาณนี้ แต่เราไม่รู้ว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงคุณจะทำแบบนี้รึเปล่า หรือถ้ามากกว่านี้น้อยกว่านี้ก็ลองไปดีไซน์ดู แต่ผมให้โอกาสให้อิสระที่นักแสดงจะรู้สึกแล้วอยากจะเป็นอะไร หรืออย่างผมถามคุณพลอยว่าในเหตุการณ์อย่างนี้พลอยอยากจะทำหรือเป็นอะไรนะ เราอาจจะคิดไว้อย่างหนึ่ง ประมาณหนึ่ง แต่พลอยอาจจะไปทำให้มันออกมาลึกกว่านั้น พลอยจะเป็นนักแสดงที่มีการบ้าน คอนทินิวท์ตัวเองมาจากบ้าน มีการเขียนยาทาเล็บยี่ห้ออะไร ลิปสติกสีอะไรไว้ในสคริปต์ แบ่งประโยคการพูดดีไซน์การเล่นมาจากบ้านแล้ว มืออาชีพมาก แล้วน้องเป้เป็นคนที่เสนอๆๆ แล้วถ้าพี่ผมเออเป็นทำแบบนี้ อ้าวไม่ขำเหรอครับ ขอโทษๆๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเอาใหม่ คือทุกคนมีความตั้งใจ แล้วเวลาเราทำงานแต่ละคนได้มีสิทธิ์ในการออกไอเดีย สร้างภาพ สร้างความสวยงาม สร้างสิ่งที่ถูกต้อง สำหรับเรื่องราวได้ ผมก็ให้เขาได้ใช้สิทธิ์ตรงนั้น ยอมรับในสิ่งที่เขาคิด เพราะเออจริงๆบางทีมุมมองเราแค่นี้นะ แต่นักแสดงที่เขาเอาตัวเองเข้าไปเป็นตัวละคร เขารู้สึกอยากจะทำอย่างนี้ มันก็ต้องยอมรับความคิดเขาบางอย่าง แล้วถ้ามันไม่ใช่ เราก็จะมีการ ไม่น่านะน่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า เราก็จะยกเหตุและผลมาเอื้อกันนะครับ หรืออย่างคนที่ทำเสื้อผ้าทรงผม บางทีซึ่งพลอยเป็นผู้หญิงเราก็ต้องถามพลอยว่าจริงๆแล้วถ้าไปเดทกันพลอยจะใส่ชุดแบบนี้รึเปล่า หรือถ้าเราจะคิดไปถ่ายรูป เราอยู่ในชุดนี้ดีมั้ย ชอบมั้ย คือทำอย่างไรให้กงจักรมันสนุก คือยอมรับในไอเดียของกันและกัน แล้วมาปรึกษากันถ้ามีปัญหาปั๋บเราก็เถียงกันด้วยวิชาการหรือในแง่ของเหตุและผล และมันจะได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด แล้วเอาอันนั้นไปทำงานกัน
Q.เลยเกิดเป็นฉากหนึ่งที่เราจะเห็นพลอยไม่แต่งหน้าเลย ปล่อยโฮแบบโทรมๆ ซึ่งเกิดมาจากการที่ทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำอย่างพลอยคิดเห็นตรงกัน
P. คือจริงๆฉากนั้นเป็นฉากที่ผมตั้งใจเลยว่าอยากจะขอพลอยว่าไม่อยากให้มีการแต่งหน้าได้มั้ย คือแต่เราไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่านักแสดงทุกคนเป็นผู้หญิงก็ต้องห่วงเรื่องความสวยงาม แล้วยิ่งจอหนังในโรงภาพยนตร์ใหญ่มาก ก็ยังคุยกับน้องที่เป็นคอนตินิวท์ว่าถ้าเป็นไปได้ ถ้าพลอยอันแรกไม่แต่งหน้ามันจะเวิร์ค เพราะตื่นเช้ามายังไม่ตื่นแล้วหน้ามันก็ตุ่ยๆๆ ด้วยบรรยากาศอะไรต่างๆด้วย คือในเรื่องร้องไห้มาทั้งคืน พอพลอยมาถึง เออพลอยฉากแรกพี่อยากให้พลอยดูเหมือนโทรมๆมามากๆ เหมือนไม่ได้แต่งหน้า พี่พลอยไม่แต่งหน้าให้เลยก็ได้นะ พี่พลอยกะจะบอกพี่เหมือนกันว่าพลอยกะจะไม่แต่งหน้า แล้วจะได้เห็นหน้าโทรมๆตุ่ยตุ่ย แล้วมันจะได้ร้องไห้ดูเป็นผู้หญิงเวลาอกหัก มันเต็มที่ มันไม่ดูแลตัวเอง มันปล่อยสภาพโทรมๆก็เออ เขาเตรียมมาแล้ว แล้วโชคดีที่เราคิดอยู่เหมือนกัน พลอยเขาเต็มใจเล่น และพลอยเขาทุ่มเต็มที่มากกับบทบาทที่ได้ดู ไม่ว่าจะเป็นซีนไหน ซีนอารมณ์ ซีนขำ และยังช่วยนักแสดงคนอื่นๆที่เข้าอยู่ข้างๆในขณะที่เขาลืมบท หรือนักแสดงใหม่ที่ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจะคอยเตือนติวตลอดว่าต้องทำอะไร น่ารักมากครับ
Q. แฟนๆจะได้เห็นเซอร์ไพรส์หลายๆอย่างในการทำงานของนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างพลอยซึ่งไม่เคยเห็นในหนังเรื่องอื่น ที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่พลอยได้ถ่ายทอดการแสดงที่ใกล้เคียงกับตัวจริง
P. ก็การแสดงของน้องพลอยที่ผ่านมาสำหรับภาพยนตร์เรื่อง30+ น้องพลอยเป็นนักแสดงที่ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเป็นตัวเองแต่ว่าทุกอย่างอย่างที่ผมบอกคือพลอยเขามีการดีไซน์มาจากบ้านเรียบร้อยแล้ว ดีไซน์มาจากสคริปต์ ดีไซน์การพูดมาแล้ว ลักษณะการขยับทุกอย่าง แต่ว่ารีแอ็คหรือการกระทำที่เป็นการรับมุก หน้าเหวอ เอ๋อ ไม่พอใจ หงุดหงิด ขวย เขินอายสะเทิ้นเวลามองผู้ชาย พึงพอใจชายหนุ่มด้วย.... เป็นการดีไซน์ที่เล่นเป็นตัวเอง เออคือถ้าเขาเป็นเขาก็ทำอย่างนี้แหละ ก็ต้องมีการดีไซน์นิดนึงเพื่อให้มันเกิดเสน่ห์ คือผมเชื่อว่าเขาไม่ได้เล่นแบบดูกับกระจก แต่เขาเล่นจากความรู้สึก ทำให้ซีนนั้นมันดูธรรมชาติมาก ทุกซีนที่พลอยเข้า ลูกขวย ลูกยิ้ม ลูกแบบงอนๆ ลูกประชดหน่อยๆ ความขี้งอนนิดๆคือเสน่ห์ของผู้หญิงแล้วพลอยมีครบ
Q.ด้วยลุคส์ของหนังที่เป็นโรแมนติคคอมมิดี้ที่พูดถึงชีวิตของสาวเมืองวัย30+ในยุคปัจจุบัน ทำให้ทุกองค์ประกอบที่จะถ่ายทอดออกมามีส่วนสำคัญหมด ไม่ว่าจะโลเกชั่น MOOD & TONE ของหนังเมือง ที่แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับอุปสรรคที่ไม่ง่ายและท้าทาย แต่ผู้กำกับก็ยังยืนว่าจะต้องให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์และสมจริงตามที่ฝันไว้
P. ถามว่าปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานมีมั้ยที่แต่ละซีนในการถ่ายทำในความที่เราเป็นหนังโรแมนติคแบบเมืองๆแล้วก็โมเดิร์นๆหน่อย เพราะฉะนั้นโลเกชั่นแต่ละโลเกชั่นที่เราไปก็ต้องมีการประชุมกันอย่างดีจากทีมงานว่าเรามีเวลาเท่านี้ๆนะ นะเวลาขนาดนี้เราจะทำได้มั้ย เพราะฉะนั้นผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือ ผมต้องเชื่อว่าเวลาเท่าเนี่ยะผมต้องทำได้ และเราต้องเรียงคัทในหัวเราให้เร็วที่สุด เพราะในกรณีที่ทำไปแล้วมีปัญหาไม่ได้ดั่งใจช็อตต่อไปแก้ไขควรต้องทำอย่างไรต้องดีไซน์ไว้เผื่อ เพราะเราจะดีไซน์กับผู้ช่วย ถ้าช็อตนี้ไม่ได้เราจะทำอย่างไรต่อไป1-2-3 กันไว้แล้ว เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ไปจะผ่านโพรเซสของการควบคุม การวางแผน การเผื่อทุกอย่างไว้แล้วไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค แดดร้อน ฝน แดดร้อน คน การจราจร การบุกเข้าเมือง แม้กระทั่งทองหล่อเอกมัย ตำรวจ ถนน จราจร เทศกิจ โรงแรมที่เขากำหนดเวลาถ่ายมาเลยว่าเช้าถึง9โมงตรงแค่นี้นี้ 10โมงถึงบ่ายโมงแค่นี้ บ่ายโมงถึงบ่าย3โมงแค่นี้ แต่ละที่ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือต้องทำให้ตรงเวลา แล้วมันก็ดันว่าเราก็ทำได้ตามนั้นโดยที่ผ่านการ พอดีเราได้โชคจากการที่เรามีนักแสดงที่ดีมีฝีมือ สองมีทีมงานที่มีการเตรียมงานที่ดี สามเรามีการประสานงานของเจ้าหน้าที่แล้วก็ความเอื้อเฟื้อของโรงแรมเขาก็ช่วยกันนะ รู้ว่าวันนี้ไปโรงแรมก็ดันมีการไหว้เจ้า เสียงประทัดก็ดังๆโชคดีที่จังหวะที่เขาจุดก็เป็นจังหวะที่เราหยุด หรือจะเป็นวันที่เราไปพระตรีมูรติด้านหน้า เราก็รู้ว่าวันพฤหัสเป็นวันที่มีคนมาไหว้วันพฤหัสกัน แต่ก็ไม่รู้ว่า ณ เวลาตรงนั้นคนจะเยอะมาก แล้วก็ต้องกันคนเพื่อให้เหมือนเป็นตอนกลางคืนดึกๆก็สนุกดีครับ ทำงานออกมาได้ในเวลาที่พอใจ คงเป็นเพราะ1เราได้นักแสดงดี ได้ทีมงานที่ดี แล้วเราก็ต้องอาศัยการตัดสินใจที่มันต้องเฉียบขาดและเฉียบพลันที่พร้อมจะแก้ปัญหาแค่นี้ได้หรือว่าได้พอแล้วตรงนี้มากกว่า อย่างซีนตรงลานพระตรีมูรติ เรามองว่าเวลาตรงนั้นตั้งแต่ทุ่มหนึ่งถ้าหกโมงครึ่งก่อนทุ่มหนึ่งจนถึง2ทุ่มกว่าท้องฟ้าจะสวย สวยมากมันจะทไวไลท์สีบลูๆคือถ้าหลังจากนั้นไปก็จะสีดำละก็จะไม่เห็นเชฟ(รูปทรง)ของตึก มันก็จะเห็นแต่เงาทะมึนๆและแสงไฟๆ เราไปยืนดูตรงนั้นตอนไปดูโลเกชั่น บอกผมต้องการเวลานี้ แล้วมาร์กบอกทีมงานทั้งหมดต้องมาตรงนี้เวลานี้ ไม่ว่าจะถ่ายข้างในเสร็จยังไงก็แล้วแต่ แต่ถ้าถึงเวลาต้องมาตรงนี้เพื่อมาเอาภาพ แสงท้องฟ้าสีนี้โดยเฉพาะเลย แล้วก็เลยได้ภาพอย่างใจจริงๆ เออตอนนั้นมันสวยนะ ลานพระตรีมูรติ แล้วเห็นภาพกว้างท้องฟ้าสีบลูๆ น้ำเงินเข้มๆหน่อยแล้วมีขอบตึกสีดำๆ
Q. กดดันมั้ยที่ภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างสิ่งเล็กๆประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล พอมาทำหนังเรื่องที่2ที่ถูกคาดหวังว่าภาพยนตร์จะต้องประสบความสำเร็จเทียบเท่าหรือต้องไม่น้อยกว่าเรื่องที่แล้ว
P. ไม่กดดันเท่าไหร่ แต่ผมเอามาเป็นโจทย์ไว้ในใจว่า เฮ้ยเรื่องที่แล้วเราตั้งใจทำให้ดีแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ตั้งใจทำให้มันดี เพราะฉะนั้นบนพื้นฐานถ้าเรื่องแรกเราทำดี เรื่องนี้ถ้าเราสักเอาแต่สุกเอาเผากินยังไงมันก็ไม่ดี แต่ถ้าเราทำอยู่บนความตั้งใจที่ดีเรื่องนี้ก็ดี เรื่องที่แล้วก็ตั้งใจดี เรื่องนี้ซึ่งล้วนแล้วแต่ตั้งใจทำดีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผลตอบรับผมว่าน่าจะดี แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องสูงขนาดสิ่งเล็กๆมั้ย เพราะว่าสิ่งเล็กๆก็ไม่เคยคาดหวังว่าสูง สิ่งเล็กๆมาจากพื้นฐานคำว่าทำอย่างไรให้มันดีที่สุด ถ่ายทอดออกมาให้มันดีที่สุด แล้วบทมันดี เรื่องราวดี ตัวแสดงดี แล้วสิ่งที่ตอบรับที่มันดี ก็คือเป็นผลประโยชน์หรือเป็นบุญของเรา เป็นโชคของเรา 30+โสดON SALE ก็เหมือนกันครับ เราตั้งใจทำสิ่งที่ดี นำเสนอสิ่งที่ดี แล้วบทดี ตัวละครดี แล้วเราตั้งใจทำงานดี ถ้าคนเข้าไปดูแล้วรู้สึกดีกับมัน รู้สึกอมยิ้มกับมัน แล้วชอบหนัง ปากต่อปากก็จะเป็นโชคของเราหรือเป็นผลบุญของเรา เพราะฉะนั้นถามว่ากดดันมั้ย ความกดดันมันเป็นแค่ความคิด และก็เป็นโจทย์ที่ตั้งว่าเรามีอะไรค้ำหลังอยู่นะว่าอย่าทำหนังไม่ดีนะ อย่าไม่ตั้งใจทำหนังนะ เพราะฉะนั้นเราตั้งใจทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด แล้วผมว่าถ้าเราทำดีแล้ว และถ้าคนเห็นว่าเราทำดีแล้ว เขาก็จะชอบในความดีที่เราทำเอง
Q.คิดว่าอะไรคือความเหมือนที่แตกต่างจากสิ่งเล็กๆมาจนถึง30+โสดON SALE
P. ถ้าจะถามผมว่าความเหมือนของภาพยนตร์สองเรื่องนี้มีอะไรที่เหมือนกัน ผมอยากจะบอกว่าเริ่มมาจากอย่างแรกคือความตั้งใจ ทั้งสองเรื่องมันมาจากความตั้งใจที่ดีมากนะครับ แล้วก็ทุกอย่างที่เกิดจากองค์ประกอบที่ดี 2 แล้วก็ 3ความรักในแง่บวกทั้งสองเรื่องนี้มีเหมือนกันหมดเลยไม่ว่าจะเป็นรักพี่รักน้อง รักเพื่อนฝูงรักเพศตรงข้ามแล้วแต่ มันจะมาห่อหุ้มความรักทั้งหมด และสิ่งที่จะเหมือนกันคือรักบางทีมันขาดการสื่อสารมันขาดแมสเสจที่จะบอกกันเลยทำให้เกิดความรู้สึกว่าอันนี้เรารักเขารึเปล่า อันนี่เขารักเรารึเปล่า 4.มันคือโรแมนติคคอมมิดี้จริงๆ คุณจะรู้สึกอมยิ้มแน่ๆผมรับประกัน และถ้าคุณไม่อมยิ้มก็แสดงว่าวันนั้นคุณปวดฟัน คือดูยังไงก็ต้องอมยิ้ม คือสิ่งเล็กๆอมยิ้มยังไง ผมว่า30+ ดูแล้วก็ต้องอมยิ้มอย่างนั้น ถึงแม้การเล่าเรื่องจะเป็นอีกมุมมองหนึ่ง แต่ว่ามันเป็นพื้นฐานที่ว่าดูได้ทุกวัยสำหรับคนที่ชอบความโรแมนติค ชอบความรัก ชอบอยากจะมองโลกในแง่บวก อยากที่จะทำสิ่งดีให้แก่กันอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้หมด
Q. หนังรักบวกๆเรื่องที่2ที่ผ่านการบ่มเพาะอบปิ้งมาจนได้ที่และพร้อมจะเสิร์ฟความสุขกับแฟนๆแล้ว ฝากอะไรกับแฟนๆหน่อยสำหรับ 30+โสดON SALE
P. ก็อยากจะบอกว่า30+โสดON SALE เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ผม แล้วก็ทีมงาน ผู้ร่วมสร้างต่างๆมีความตั้งใจที่จะนำเสนอสิ่งดีๆภาพยนตร์ที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวความรักแบบบวกๆ แล้วก็คิดว่าเป็นหนังที่สร้างคุณค่าทางสังคมได้ บนพื้นฐานของความรัก ความรักไม่ต้องใช้ความรุนแรง ความรักไม่จำเป็นต้องมีความอิจฉาริษยา ความรักไม่จำเป็นต้องมีการชิงดีชิงเด่น แต่ว่ารักในสิ่งที่คุณทำและพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นและมองหาคนที่ใช่นะครับ อย่าหาคนที่ชอบ และมันจะทำให้หลายๆอย่างเป็นไปด้วยดีแล้วก็เน้นเรื่องความรักเป็นที่ตั้ง บอกไม่ถูกคือหนังเรื่องนี้มันจะมีความโรแมนติค ความกุ๊กกิ๊ก อะไรก็แล้วแต่ ผมรู้สึกว่าถ้าท่านผู้ชมได้เข้าไปชมแล้วท่านไม่อมยิ้มเนี่ยะ ผมก็คงคิดว่าท่านก็คงปวดฟันแล้วละ (หัวเราะ) 13ตุลาคมนี้นะครับพบกันแน่ 30+โสดON SALE ครับ