กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 30 กันยายน 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,622.44 — 1,655.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV11 อยู่ที่ 24,710 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 480 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,230 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV11 อยู่ที่ 966 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง -6 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 972 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.31 น.ของวันที่ 03/10/11)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 4 ตุลาคม 2554
กระแสความตื่นตระหนกของนักลงทุนที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ว่าจะเป็นการออกมายอมรับของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวจนนำมาซึ่งมาตรการช่วยเหลือที่เรียกกันว่า Operation Twist อีกทั้งความกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ จนทำให้ต้องมีการประชุมกันอย่างบ่อยครั้งโดยสถานการณ์ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปยังคงไม่ชัดเจน ความพยายามแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ หลังจากรัฐสภาเยอรมนี มีมติให้ความ เห็นชอบกฎหมายเพื่อสนับสนุนกองทุน EFSF มูลค่า 4.40 แสนล้านยูโร หรือ 5.99 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งยังมีความกังวลว่าในอนาคตกรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ และยุโรปจำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น คือการขยายขนาดของกองทุน EFSF ขึ้นสู่ระดับ 2 ล้านล้านยูโร เพื่อจำกัดขอบเขต ในการสกัดกั้นการลุกลามของวิกฤติหนี้ และ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างหนักทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและเข้าถือเงินสดซึ่งก็คือเงินสกุลดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกชนิดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามในระยะยาวนั้นราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เบื้องต้นวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนติดตามประเด็นเกี่ยวกับการช่วยเหลือกรีซให้รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะกระทบกับราคาทองคำ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเบื้องต้น ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,677 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,690 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นจะมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,721 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,614 (23,850บาท) 1,609 (23,770บาท) 1,582 (23,370บาท)
แนวต้าน 1,677 (24,790บาท) 1,690 (24,980บาท) 1,721 (25,440บาท)
GOLD FUTURES (GFV11)
แนวรับ 1,614 (24,090บาท) 1,609 (24,020บาท) 1,582 (23,620บาท)
แนวต้าน 1,677 (25,030บาท) 1,690 (25,220บาท) 1,721 (25,680บาท)
SILVER FUTURES (SVV11)
แนวรับ 29.79 (933บาท) 29.22 (916บาท) 28.83 (903บาท)
แนวต้าน 32.06 (1,004บาท) 32.85 (1,029บาท) 33.81 (1,059บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! ทุกวันศุกร์ เวลา 13.30-16.00 น.สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139