กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--กระทรวงยุติธรรม
วันนี้ (25 ส.ค. 46) เวลา 09.00 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเรื่อง "การระดมความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชน" จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ณ ห้องประชุม 1 ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วยผู้บริหารจากสถานประกอบการและธุรกิจเอกชนต่าง ๆ จำนวนกว่า 80 คน
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การที่เอกชนและภาครัฐจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติดนั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง การสัมมนาครั้งนี้ทำให้ตนได้เห็นพลังอีกกลุ่มหนึ่งเป็นพลังภาคธุรกิจเอกชนที่พร้อมจะเข้าร่วมทำคุณประโยชน์ต่อสังคม ชาติ บ้านเมือง ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการประสบความสำเร็จคือการขจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ลำพังอาศัยการดำเนินการจากภาครัฐเพียงอย่างเดียวคงไม่มีทางสำเร็จได้ ภาคเอกชนและภาคประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการอย่างเต็มที่และเต็มศักยภาพของตนเอง โดยเฉพาะภาคเอกชนที่เปรียบเสมือนทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ ทั้งในด้านตลาดทุน ตลาดอาชีพ และตลาดแรงงาน ที่เป็นกลไกหลักในการผลักดันระบบเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีความเป็นสากลเท่าเทียมประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังรวมถึงบทบาทภาระหน้าที่ของภาคเอกชนที่ได้อุทิศประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม ซึ่งตนรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะบทบาทภาระหน้าที่ที่พูดถึงนี้ เป็นการดำเนินการด้วยใจ การช่วยเหลือที่ตนกล่าวถึงอาจจะไม่ใช่เพียงแค่เงินทุนเพียงอย่างเดียว ยังรวมถึงสิ่งอื่นที่ภาคเอกชนสามารถสนับสนุนช่วยเหลือประเทศชาติได้ เช่น อาชีพและการทำงาน การจ้างงาน ถ้าเป็นไปได้ก็หวังให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ จะเป็นผลดีที่สุด เพราะเป็นส่วนที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือกับบุคคลบางกลุ่มที่ไม่มีโอกาสในการหางานทำ เช่น ผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดที่ผ่านกระบวนการบำบัดและมีผลการบำบัดเป็นที่น่าพอใจ เพราะการที่คนกลุ่มนี้มีงานทำมีรายได้เป็นของตนเอง จะไม่ทำให้ พลตำรวจโทชิดชัย วรรณสถิตย์ เลขาธิการป.ป.ส. กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศชาติ หากให้มีการแพร่ระบาดต่อไปโดยมิได้มีการดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ย่อมทำให้เกิดปัญหาสังคมที่เป็นปัญหาลูกโซ่ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และคนในชาติอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้ รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ประกาศสงครามต่อปัญหายาเสพติดพร้อมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์พลังแผ่นดิน ซึ่งหมายถึง การให้คนทุกคนในสังคมไม่ว่าจะมาจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเต็มศักยภาพของตนเอง ส่งผลให้ปัญหายาเสพติดลดความรุนแรงลง อยู่ในสภาพที่สามารถความคุมปัญหาการแพร่ระบาดได้และไม่มีผลกระทบต่อสังคมไทยในที่สุด สำนักงานป.ป.ส. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกลางในการประสานความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงได้จัดการสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อแสงหาความร่วมจากภาคธุรกิจเอกชนที่เปรียบเสมือนทรัพยากรที่สำคัญของประเทศทั้งในด้านแหล่งงานและแหล่งทุน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความร่วมมือ หรือการสนับสนุนต่อการดำเนินงานของฝ่ายรัฐบาล เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเร็วที่สุด ผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วยผู้บริหารจากภาคธุรกิจเอกชนที่มีผลการดำเนินงานด้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และผู้บริหารจากภาคธุรกิจเอกชนที่กำลังจะก้าวเข้ามาร่วมเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ สาระสำคัญของการสัมมนา แบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ 1. เป็นเรื่องการดำเนินงานของรัฐ ได้แก่ สถานการณ์ปัญหายาเสพติด ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา การดำเนินงานต่อไปในอนาคต และ 2. เป็นเรื่องการระดมความร่วมมือจากภาคเอกชน เพื่อดำเนินงานโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนแนวทางความร่วมมือในอนาคต--จบ--
-รก-