กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
‘พนม ควรสถาพร’ แม่ทัพใหญ่ เอเชีย กรีน เอนเนอจี เข้าซื้อหุ้น AGE หลังราคาร่วงหนักต่ำกว่าพื้นฐาน ภาพรวมธุรกิจถ่านหินโค้งสุดท้ายปีนี้สดใสได้ดีมานด์จีนหนุน คาดโกยรายได้ทะลุ 5 พันล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AGE และในฐานะของนักลงทุนที่ดี ส่วนตัวได้เข้าไปซื้อหุ้น AGE ในตลาดหุ้นตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2554 และมีแผนจะทยอยซื้อเพิ่มอีก เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ราคาหุ้น AGE ต่ำกว่าราคาพื้นฐานที่แท้จริง
“ราคาหุ้น AGE ในขณะนี้ถือว่าต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นฐานของบริษัทฯ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจยุโรป และอเมริกาจะประสบปัญหาวิกฤต แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัทฯ มากนัก เพราะ AGE ไม่ได้ส่งออกถ่านหินในแถบประเทศเหล่านั้น อย่างไรก็ตามธุรกิจถ่านหินโดยรวมยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว จะส่งผลให้มีความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นจากทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีการบริโภคถ่านหินเป็นหลักอย่างประเทศจีน” นายพนมกล่าว
นอกจากนี้ ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวค่อนข้างสูง มีแผนจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวนมาก เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต สะท้อนให้เห็น ว่าระยะยาวความต้องการใช้ถ่านหินยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่ง AGE มีแผนจะเข้าไปทำตลาดในอินเดียปีหน้าอย่างแน่นอน
นายพนม กล่าวต่อว่า AGE มีความมั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจะเพิ่มขึ้นกว่า 80% หรือมีรายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวม 2,818 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 และบริษัทฯ มียอดการส่งออกถ่านหินไปจีนแล้วกว่า 5.5 แสนตันในระยะ 9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งคาดได้ว่าปีนี้จะมีการส่งออกถ่านหินเพิ่มขึ้นทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 6 แสนตันอย่างแน่นอน และบริษัทฯ จะมุ่งเน้นแผนการเจาะตลาดต่างประเทศทั้งจีน และอินเดียต่อเนื่อง รวมถึงยังมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มไปยังญี่ปุ่น และเกาหลีเพิ่มขึ้นด้วย