กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาอุทกภัย และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เขตหนองจอกและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตหนองจอก ซึ่งจากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำในคลองแสนแสบ คลอง9 คลอง10 คลอง11 คลอง14 และคลองแยกต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำที่สูงขึ้น เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ค่อนข้างมาก จากการสำรวจพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 73 ชุมชน จำนวน 3,384 ครัวเรือน ขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือโดยมอบถุงยังชีพ ยาเวชภัณฑ์ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ของสำนักการแพทย์ สำนักอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุข เข้าไปดูแลให้คำแนะนำในเรื่องของสุขภาพ และจัดเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลสุขภาพจิตเข้าไปพูดคุยกับประชาชนที่ประสบอุทกภัย รวมถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต สำนักการโยธาและนักเรียนอาชีวะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการสร้างสะพานไม้เพื่อทำเป็นทางเดินชั่วคราว นอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อนำมาซื้อไม้ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในชุมชนรุ่งเรืองและชุมชนหมู่ 4 พัฒนา เขตหนองจอก ซึ่งขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่รวมถึงพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบในเรื่องของปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำที่มาจากพื้นที่ใกล้เคียงและจังหวัดปทุมธานีไหลผ่านเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำในคลองและชุมชนมีปริมาณที่สูงขึ้น จะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในสัปดาห์หน้าวันที่ 14-16 ต.ค.จะมีน้ำทะเลหนุน อาจจะมีน้ำเหนือและน้ำฝนเข้ามาสมทบทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทางกรุงเทพมหานครจะพยายามเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด โดยจะเร่งระบายน้ำออกทางประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ประกอบด้วย ประตูระบายน้ำทวีวัฒนา ประตูระบายน้ำประเวศ ประตูระบายน้ำแสนแสบ สำหรับการช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นได้ทำการสำรวจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก โดยขณะนี้ได้มีการเตรียมพื้นที่รองรับชั่วคราวไว้แล้ว นอกจากนี้ทางสำนักงานเขตได้เตรียมกระสอบทรายจำนวน 5 แสนใบเพื่อมอบให้กับประชาชนไปใช้ในการทำคันกั้นน้ำชั่วคราว ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานครยังสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง