นีโอฯ แจงต้นตำรับผู้จัดงาน ไทยแลนด์ เบสท์บาย ไม่หวั่นงานแฟร์จัดถี่ขึ้น ชื่องานคล้ายกัน ยันคุณภาพทั้งงาน ยิ้มร่ารับรายได้สะพัด 500 กว่าล้าน

ข่าวทั่วไป Thursday October 6, 2011 11:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--ซีเอส ล็อกซอินโฟ นีโอฯ แจงต้นตำรับผู้จัดงาน ไทยแลนด์ เบสท์บาย ไม่หวั่นงานแฟร์จัดถี่ขึ้น ชื่องานคล้ายกัน ยันคุณภาพทั้งงาน ยิ้มร่ารับรายได้สะพัด 500 กว่าล้าน ยอดผู้ชมงานกว่า สี่แสน ด้านผู้ประกอบการสมาคมของขวัญฯ ขานรับนโยบายรัฐบาล ค่าแรง 300 บาทต่อวัน นางสาวบุษยา ประกอบทอง รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ กล่าวถึง การดำเนินงานของบริษัทว่า “การจัดงาน ไทยแลนด์เบสท์บาย เริ่มต้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 จนมาถึงปี 2554 ในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 12 แล้ว โดยจะเห็นได้ว่า นีโอ ได้จัดงาน ไทยแลนด์ เบสท์บาย มหกรรมของขวัญ ของชำร่วยมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ภายในงานได้รวบรวมกลุ่มผู้แสดงงานที่นำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพดีมาตลอดระยะเวลาการจัดงาน จนทำให้ได้รับความนิยมจากผู้เข้าร่วมชมงานมากขึ้นทุกปี นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และต้องการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ทำได้สำเร็จ และเป็นการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ และผู้ประกอบการที่มีคุณภาพให้มีเวทีในการจำหน่ายสินค้า ดังเช่นที่งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรมทุกปี ที่มาให้คำแนะนำแก่ผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มต่างๆ ทั้งการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจำหน่าย สนับสนุนให้มีเวทีในการจำหน่ายสินค้า และพบกับผู้บริโภคโดยตรงโดยที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง” นางสาวบุษยา กล่าวต่อว่า “ทุกครั้งที่มีการจัดงานแฟร์ต่างๆ จะมีผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจพื้นที่ในงาน เพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก จึงทำให้งานแสดงสินค้าต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหนึ่งปี จะเห็นได้จากตามศูนย์ประชุมต่างๆ ใช้พื้นที่จัดงานแสดงสินค้ามากกว่างานสัมมนาระดับใหญ่ๆ จนทำให้ในปัจจุบันมีบริษัทที่จัดงานประเภทงานแสดงสินค้าเกิดขึ้นมากเพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ผลิตที่เพิ่มมากขึ้น หากแต่ผู้ร่วมชมงานยังคงเป็นกลุ่มเดียวกัน ในกลุ่มของผู้จัดงานถือเป็นการแข่งขันที่สูง ไม่ว่าจะเป็นชื่องานที่อาจมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้บริโภคว่าผู้จัดเป็นใครในแต่ละงาน แต่สำหรับงานไทยแลนด์เบสท์บาย ที่นีโอ เป็นผู้จัดงาน เราเน้นผู้ประกอบการที่มีสินค้าดีมีคุณภาพ มีดีไซน์แปลกใหม่สวยงามมานำเสนอในราคาพิเศษ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ มีการจัดโซนที่ชัดเจน รวมถึงสินค้าเครื่องแต่งกายแบรนด์เนม หรือสินค้าที่อยู่ในกระแสความนิยมก็ยังสามารถหาได้ในงานนี้อีกเช่นกัน ” จากผลสำรวจของหลายหน่วยงานพบว่า คนกรุงเทพฯ มีความมั่นใจในการจับจ่ายหลังการจัดตั้งรัฐบาล คนที่มีกำลังซื้อจะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย และสินค้าไอทีมากชิ้นขึ้น นับว่าเป็นสิ่งที่ผันผวนจากความคาดการณ์ อนึ่งคนกรุงเทพฯ ไม่เคยหยุดจับจ่าย ไม่ว่าสถานการณ์ของเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร พฤติกรรมของคนกรุงเทพฯ ยังคงใช้เวลากับแหล่ง ช้อปปิ้งในวันเสาร์อาทิตย์ และหลังเลิกงานกว่าร้อยละ 65 ทางนีโอ จึงค่อนข้างมั่นใจกับการจัดงาน ไทยแลนด์ เบสท์บาย มหกรรมของขวัญของแต่งบ้านครั้งยิ่งใหญ่ ที่เป็นงานต้นตำรับ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มจำนวนการจัดงานมากขึ้น แต่ยังคงยึดหลักเน้นสินค้าที่มีคุณภาพและรูปแบบการจัดงานที่ชัดเจน” ด้านผู้ประกอบการ นายศิริชัย เลิศศิริมิตร นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส เมมโมรี่ จำกัด ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ของขวัญ ประเภท โพลีเรซิ่น กล่าวว่า “ ในส่วนการส่งออกของพรีเชียส เมมโมรี่ ในปี 2554 นับว่าดีกว่าการส่งออกของปี 2551- 2553 เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ยุโรปมีปัญหา ขณะนี้สหรัฐก็มีปัญหาซึ่งอาจจะทำให้มีผลกระทบกับการส่งออกของไทยอีกเช่นกัน แต่ปัญหาเรื่องการส่งออกไปยังสหรัฐจะส่งผลกระทบในอีก 5-6 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเป็นภาระหนักที่ทางผู้ประกอบการของขวัญต้องช่วยกันหาทางออกอีกครั้งเพื่อให้ตัวเลขส่งออกกลับมาดีเท่าเดิม ด้านตลาดในประเทศนั้น คนไทยมีการซื้อของขวัญ ของแต่งบ้านอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เนื่องจากสินค้าของพรีเชียส เมมโมรี่ นำมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งยังมีรูปแบบที่ทันสมัย อีกประการหนึ่ง เนื่องมาจากมีการขยายตัวของกลุ่มคนที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม จึงทำให้ตลาดของแต่งบ้านขยายตัวตามไปเช่นกัน ด้านการส่งออกกับตลาดในประเทศมีอัตราส่วนเท่าๆ กันคือร้อยละ 50- 50 ตลาดต่างประเทศจะส่งไปที่ยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออก และเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2558 จะเป็นการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าและแรงงานอย่างเสรี ถ้าจะมองในแง่ดี Asian Economic Community จะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น และจะไม่มีกำแพงภาษี เนื่องจากจะมีประชากรกว่า 560 ล้านคนที่จะทำให้ตลาดเป็นหนึ่งเดียว แต่ในอีกแง่หนึ่งคนไทยต้องตื่นตัวและต้องพร้อมที่จะแข่งขันเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาใช้ศักยภาพและทรัพยากรของประเทศไทยในด้านต่างๆ และพัฒนาศักยภาพให้ตลาดแรงงานฝีมือยังเป็นของคนไทยอีกด้วย” นายศิริชัย เลิศศิริมิตร ในฐานะ นายกสมาคมของขวัญ ฯ กล่าวต่อว่า “ ในช่วงระยะแรก เกรงว่าค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท จะทำให้ผู้ประกอบการมีปัญหาสำหรับแรงงานที่เพิ่งเริ่มต้น แต่การจ้างแรงงานในกลุ่มผู้ประกอบการของขวัญจะได้รายได้มากกว่าวันละ 300 บาท ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากธุรกิจนี้ต้องใช้แรงงานที่มีความชำนาญ ด้านเทรนด์ของขวัญเปลี่ยนแปลงไม่มาก ผู้บริโภคยังคงเน้นของขวัญที่มีดีไซน์และใช้ประโยชน์ได้ ของขวัญที่เป็นไอทียังมาแรง และยังพอหาซื้อของขวัญประเภทไอทีได้ในราคาที่ไม่แพงจากผู้ผลิตในเอเชียด้วยกัน ส่วนผู้ประกอบการของขวัญบางกลุ่มหันไปผลิตเคส ซองมือถือ ที่ห้อยโทรศัพท์ ที่อาจมองเป็นตลาดเล็กๆ แต่ก็สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ผู้ประกอบการบางกลุ่ม ผู้ประกอบการไทยต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการประเทศจีนมากที่สุด และที่ต้องจับตามองเป็นอย่างมากคือ แรงงานและผู้ประกอบการจากประเทศเวียดนาม ซี่งเวียดนามเป็นประเทศใหม่ที่ค่าแรงยังมีราคาไม่สูงมาก และคนเวียดนามเองเป็นคนที่ขยันอดทน ส่วนด้านความคิด ฝีมือ น่าจะเป็นสิ่งที่ต่อยอดได้ การประสานงานกับทางรัฐบาลนั้น ยังไม่ได้เห็นนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้ประกอบการของขวัญเด่นชัดนัก เนื่องจากรัฐบาลเองก็จัดตั้งได้ยังไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ในระยะยาวควรจะมีนโยบายในการให้สินเชื่อและผลักดันการส่งออกให้มีมากขึ้น” สำหรับงานไทยแลนด์เบสท์บาย ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-11 ธันวาคม 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งขาติสิริกิติ์นั้น ทางสมาคมฯ ได้รวบรวมผู้ประกอบการคุณภาพจำนวนกว่า 850 คูหา ซึ่งล้วนแต่จะมานำเสนอสินค้าแนวไอเดียแบบใหม่ๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ร่วมชมงานได้จับจ่ายในเทศกาลแห่งความสุขที่จะมาถึง การที่สมาคมฯ ได้สนับสนุนงานไทยแลนด์เบสท์บายมาอย่างต่อเนื่องนั้น เพราะได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาจากสมาชิกของสมาคมฯ อีกทั้งได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้นทุกๆ ปี ส่วนมากแล้วสมาคมของขวัญฯ จะเป็นผู้ผลิตและส่งออกของขวัญ การที่ได้สนับสนุนงานไทยแลนด์เบสท์บายนั้น ทำให้สมาคมฯได้มีตลาดและมีกิจกรรมภายในประเทศ ยังทพให้ทำให้คนไทยได้ใช้สินค้าไทยในคุณภาพส่งออกอีกด้วย งานไทยแลนด์เบสท์บาย มหกรรมของขวัญของชำร่วยครั้งยิ่งใหญ่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 — 11 ธันวาคม 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00 -20.00 น ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ