กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล
รายงานสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่างกุ้งฉบับแรกของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Colliers International Thailand) ชี้ให้เห็นว่า ประเทศพม่านั้นเตรียมพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของการเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยนโยบายที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งจะขับเคลื่อนภาคอสังหาริมทรัพย์ให้เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“เราสามารถพูดได้ว่า สภาพการณ์ของนักลงทุนนั้นเหมือนเห็นสัญญาณไฟจราจรสีเหลือง ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะทะยานไปข้างหน้าทันทีที่มีการยกเลิกการคว่ำบาตร และมีการผ่านร่างกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่” นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวเปรียบเทียบ และชี้แจงเพิ่มเติมว่า ราคาที่ดินในทำเลทองอย่างถนนแปรและย่านใจกลางเมืองนั้นอยู่ในระดับเดียวกับใจกลางกรุงเทพมหานคร และคาดว่าจะมีการเปิดเสรีในระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม นายปฏิมาได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า “ในอดีตก็เคยดูเหมือนจะมีการเปิดเสรีแบบนี้มาแล้ว แต่สุดท้ายโครงการดังกล่าวก็เป็นอันต้องพับไป ดังนั้นแม้แนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางที่ดีแต่ยังต้องระมัดระวังเอาไว้บ้าง” ถึงกระนั้น นายปฏิมายังเชื่อว่า การที่พม่าได้ตกมาอยู่อันดับท้ายสุดทางด้านเศรษฐกิจในบรรดาเหล่าประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งต่ำกว่าลาวและกัมพูชาอีกนั้น จะกลายเป็นตัวกระตุ้นผลักดันให้พม่าปฏิรูปประเทศ “ในทศวรรษที่ 1950 ประเทศพม่าเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ซึ่งทำให้ภายในประเทศเองก็มีความกระตือรือร้นที่จะกลับมามีศักยภาพเต็มรูปแบบอีกครั้ง” นายปฏิมาเสริม
นายโทนี พิคอน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอลลิเออร์สฯ กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ของพม่าในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงวิถีคิดที่นักลงทุนควรมีต่ออสังหาริมทรัพย์ในย่างกุ้ง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ร่างกุ้ง ซึ่งเป็นย่านการค้าหลักของประเทศไปมากพอควร “ตัวอย่างหนึ่งได้แก่อพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียม ห้องซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดและราคาแพงที่สุดนั้น จะอยู่บนชั้นกราวด์ ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยสิ้นเชิง” นายโทนีตั้งข้อสังเกต อันที่จริง คำจำกัดความที่ใช้ในการจำแนกความแตกต่างระหว่างอพาร์ตเมนท์กับคอนโดมิเนียมเองก็แปลกไม่ใช่น้อย “ในประเทศพม่านั้น คอนโดมิเนียมจะมีลิฟต์ ส่วนอพาร์ตเมนต์นั้นไม่มี เนื่องจากไม่มีกฎหมายนิยามคำว่าอาคารชุดเอาไว้อย่างชัดเจน” นายโทนีเสริม
ตลาดอาคารสำนักงานเริ่มถึงจุดอิ่มตัว เนื่องจากอุปทานรวมจำกัดอยู่ที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งเล็กกว่าอาคารสำนักงานบางแห่งในกรุงเทพฯเสียอีก นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัยของคอลลิเออร์สฯให้ข้อมูลว่า อัตราการครอบครองอยู่ที่ 100% ทุกอาคาร ยกเว้นเพียงอาคารเดียวเท่านั้น “ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีอุปทานใหม่ๆ เกิดขึ้นเลย และมีอาคารเปิดใหม่เพียงแห่งเดียวในปี 2553” นายสุรเชษฐ อธิบาย “องค์กรธุรกิจและเอ็นจีโอหลายแห่งครอบครองพื้นที่ในบริเวณที่อยู่อาศัย และบางองค์กรก็เช่าพื้นที่ในโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์” นายสุรเชษฐ กล่าวเสริม
อุปสงค์ทั้งในตลาดโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์นั้นพุ่งแรงมาก เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น หลังการปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ส่งผลให้นักธุรกิจในประเทศหวนกลับมาสนใจภาคธุรกิจนี้ นายโทนีกล่าวว่า บางโรงแรมถึงกับต้องปฏิเสธลูกค้าเนื่องจากอุปสงค์เพิ่มขึ้นแต่อุปทานมีจำกัด “เมื่อไม่นานมานี้เอง โรงแรมส่วนใหญ่มีแต่ห้องว่าง และต้องเปลี่ยนห้องพักให้เป็นสำนักงานเพื่อความอยู่รอดในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน” นายโทนีได้พูดถึงประเด็นที่หลายๆคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยววิตก เนื่องจากอุปทานที่จำกัดจะทำให้เกิดปัญหาคอขวดกับประเทศพม่าในอนาคต เนื่องจากย่างกุ้งเป็นจุดเข้าเมืองหลักและนักท่องเที่ยวก็อยากจะพำนักอยู่ในย่างกุ้งสักสองสามวันเพื่อเยี่ยมเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญภายในเมืองก่อนเดินทางไปที่อื่น
ปีหน้าจะเป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับประเทศพม่าเนื่องจากคาดว่าจะมีการผ่านกฎหมายการลงทุนที่เอื้อต่อการพัฒนาด้วยรูปแบบการเติบโตซึ่งมีพื้นจากการส่งออก ที่นำโดยภาคอุตสาหกรรมการผลิต “นี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนดังที่เกิดขึ้นมาแล้วกับประเทศเวียดนาม กัมพูชาและลาวในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา" นายโทนีกล่าว รัฐบาลและฝ่ายค้านแสดงท่าทีออมชอมกัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเด่นชัดขึ้นและนำไปสู่การสิ้นสุดการคว่ำบาตรในที่สุด กฎหมายการเงินฉบับใหม่ซึ่งมีแผนจะกำหนดค่าเงินจ๊าดอย่างเป็นทางการที่สอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนในตลาด จะส่งผลให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น และเป็นสิ่งสำคัญในระบบเศรษฐกิจที่ใช้เงินสดเป็นพื้นฐาน นายโทนีมองว่า เสาหลักทั้งสามที่ฉุดรั้งสัญญ าณไฟให้ค้างอยู่ที่ไฟเหลืองได้แก่ ค่าเงิน กฎหมายการลงทุนและการคว่ำบาตร “เมื่อจัดการกับสามเรื่องหลักนี้ได้เรียบร้อยแล้ว สัญญาณไฟก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว แม้อาจต้องประสบกับอุปสรรคนานัปประการตามแบบเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา แต่พม่าจะทะยานขึ้น นอกจากนั้น เรายังหวังว่ารายงานสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ของปี 2564 จะแตกต่างจากปี 2554 เป็นอย่างมาก”
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบุคคลทั่วไป ใช้เผยแพร่ในข่าวประชาสัมพันธ์:
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
นายปรีดี นุกุลสมปรารถนา
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร
Email : preedee.nukulsomprattana@colliers.com
Website : www.colliers.co.th