กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--ปตท.
ราคาน้ำมันเฉลี่ยสัปดาห์ที่ 3 - 7 ต.ค. 54 ราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 3.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 98.33 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 1.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 103.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) ลดลง 2.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 79.46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 0.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 119.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลลดลง 2.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 116.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- เงินสกุลยูโรอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้จึงเทขายเงินสกุลยูโร ทั้งนี้สัปดาห์ที่ 3-7 ต.ค. 54 EUR/USD เฉลี่ยลดลงจาดสัปดาห์ก่อน 0.0184 อยู่ที่ 1.3338 EUR/USD
- รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรัก นาย Abdul Kareen Luaiby แถลง ณ ปัจจุบัน อิรักผลิตน้ำมันมากกว่า 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะผลิตน้ำมันดิบได้ถึง 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในสิ้นปีนี้
- คูเวตผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนประมาณ 7 หมื่นบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ระดับ 2.87 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- โรงกลั่น Palau Bukom (กำลังการผลิต 5 แสนบารเรล์ต่อวัน) ของ Shell สิงคโปร์ ยกเลิกการรับมอบน้ำมันดิบเดือน ต.ค. 54 ปริมาณ 4 ล้านบาร์เรล จากซาอุดีอาระเบียหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นเมื่อวันที่ 28 ก.ย.54
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. 54 เพิ่มขึ้น 6,000 ราย (W-O-W) มาอยู่ที่ 401,000 ราย
- Deutsche Bundesbank รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรม (Industrial Orders) ของเยอรมนีในเดือน ส.ค. 54 ลดลงอยู่ที่ระดับ -1.4% (M-O-M) สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
- Fitch ลดระดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะของสเปนลง 2 ระดับ จากระดับ AA+ มาอยู่ที่ AA- และอิตาลี 1 ระดับ จากระดับ AA- มาอยู่ที่ A+
- Institute for Supply Management (ISM) รายงานดัชนีนอกภาคการผลิตสหรัฐฯเดือน ก.ย. 54 ลดลงจากเดือนก่อน 0.3 จุด อยู่ที่ 53 จุด
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- ธนาคารกลางยุ?โรป (ECB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.5% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม และประกาศเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดการเงินในยุโรปและธนาคารที่ประสบปัญหาในยุโรป ผ่าน?โครง?การซื้อพันธบัตรครั้ง?ใหม่มูลค่า 4 หมื่นล้านยู?โร?เป็น?เวลา 1 ปี
- ธนาคารกลางของอังกฤษ (BOE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่สถิติต่ำสุดที่ระดับ 0.5% ในเดือน ต.ค. 54 และมีมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์มูลค่า 75,000 ล้านปอนด์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องเศรษฐกิจอังกฤษจากวิกฤตหนี้ของกลุ่มยูโรโซน และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง
- Rostam Qasemi รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิหร่านกล่าวราคาน้ำมันดิบที่ระดับต่ำกว่า $90/BBL เป็นสิ่งที่รับไม่ได้สำหรับอิหร่าน ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ $100/BBL เริ่มทำให้กลุ่มประเทศสมาชิก OPEC เกิดความกังวล
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration: EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 54 ลดลง 4.68 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 336.3 ล้านบาร์เรล Gasoline ลดลง 1.17 แสนบาร์เรล อยู่ที่ 213.70 ล้านบาร์เรล และ Distillates ลดลง 0.87 ล้านบาร์เรลอยู่ที่ 156.90 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
- กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงายอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payroll) เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 103,000 ราย แต่อัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ 9.1%
- Institute for Supply Management (ISM) รายงานดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้น 1 จุดจากเดือนก่อน อยู่ที่ 51.6 จุด
- The International Air Transport Associaton (IATA) รายงานปริมาณผู้โดยสารของสายการบินในเดือน ส.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 4.5% โดยปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามภูมิภาคดังนี้ : ยุโรป 7.9% ตะวันออกกลาง 6.7% ละติน-อเมริกา 5.6% และอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นในลำดับสุดท้ายที่ระดับ 2.9%
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก นักลงทุนทั่วโลกเริ่มมีความมั่นใจในวิกฤตสาธารณะหนี้ยุโรป ว่าจะไม่แพร่ขยายไปยังธนาคารพาณิชย์ หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมาตรการเพิ่มสภาพคล่องแก่ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปโดยการปล่อยเงินกู้ไม่จำกัดจำนวนเงิน เป็นเงินกู้ระยะเวลา12 เดือน และ 13 เดือน และการเข้าซื้อตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำรวมมูลค่า 4 หมื่นล้านยูโร อีกทั้งคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ขณะที่ OPEC อาจปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบหลังจากที่ลิเบียกลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้ง และอาจมีการจัดประชุม OPEC ฉุกเฉิน ก่อนกำหนดการเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 54 ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 102-110 USD/BBL และ 80-86 USD/BBL ตามลำดับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทร. 0 2537-1630
โทรสาร 0 2537-2171