กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ทรูมูฟ ร่วมบรรเทาทุกข์ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถติดต่อสื่อสารในช่วงภาวะฉุกเฉินและจำเป็น โดยมีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน ดังนี้
สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน
- เพิ่มวันใช้งานทันที 30 วัน ให้ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 28 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี เชียงใหม่ ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง เลย และนครราชสีมา เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554
- เติมเงินทันทีหมายเลขละ 20 บาท ให้ลูกค้าที่เงินค่าโทรหมด ซึ่งอยู่ในจังหวัดที่มีน้ำท่วมขั้นวิกฤต 10 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา และลพบุรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2554 ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ากลุ่มนี้ยังสามารถโทรขอค่าโทรช่วยเหลือฉุกเฉินได้อีกสัปดาห์ละ20 บาท เมื่อเงินค่าโทรหมด โดยทรูมูฟจะส่ง SMS แจ้งหมายเลขติดต่อให้ลูกค้าทราบตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมนี้
สำหรับลูกค้าแบบรายเดือน
- งดเว้นการระงับสัญญาณ สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถชำระค่าบริการรายเดือนได้ตามกำหนด ไปจนถึง31 ตุลาคม 2554
นอกจากนี้ ทรูมูฟยังอำนวยความสะดวก เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าแจ้งขอความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลได้ ดังนี้
- โทรฟรี! หมายเลขฉุกเฉิน ได้แก่
1111 กด 5 สำนักนายกรัฐมนตรี
1784 สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บริการแพทย์ฉุกเฉินและนำส่งโรงพยาบาลฟรี
1146 ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท
1193 ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย
1129 สายด่วน กฟภ.
1460 สายด่วนกรมชลประทาน
1490 สายด่วน บขส.สอบถามเส้นทางเดินรถต่างจังหวัด
- ส่ง SMS ฟรี! โดยพิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือส่งไปที่หมายเลข 4567892 ซึ่งทรูมูฟจะส่งข้อความไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ต่อไป
ทั้งนี้ สถานีฐานของทรูมูฟได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ประมาณ 50 สถานีฐาน คิดเป็น 0.5% ของสถานีฐานทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ลูกค้าไม่สามารถใช้งานได้ประมาณ 40,000 — 50,000 ราย โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ไขเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ