กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--เคทูแอล แอดเวอร์ไทซิ่ง เอเจนซี่
งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 จัดโดย 3 สมาคมยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย เมื่อวันที่ 29 กันยายน — 2 ตุลาคม 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ด้วยคอนเซ็ปต์ “ครบที่สุด ทุกที่ ทุกทำเล ทุกราคา” จากข้อมูลที่ได้จากการลงทะเบียนผู้เข้าชมงาน ทำให้ได้รับทราบข้อมูลว่าผู้เข้าชมงานกว่า 50% เป็นผู้ที่เคยมาเข้าชมงานในครั้งก่อนๆ และอีกประมาณกว่า 40% เป็นผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งผู้ชมงานส่วนใหญ่ร้อยละ 55.8 มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน รองลงมาไม่ได้ระบุอาชีพ (อื่นๆ) 12.0% อาชีพเจ้าของกิจการ 9.8% ที่เหลือมีอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ค้าขาย (วิชาชีพอิสระ เช่น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก) ด้านรายได้ของครอบครัวต่อเดือน พบว่า ส่วนใหญ่ 26.5% มีรายได้อยู่ระหว่าง 3 หมื่น - 5 หมื่นบาท และอีก 16.7% มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท รวมประมาณ 43.2% นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ คือ 58.4% มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร รองลงมา คือ นนทบุรี ประมาณ 14.9% หากรวมกรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑลจะมีประมาณ 90.6% ลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันของผู้เข้าชมงาน ส่วนใหญ่ 32.0% เป็นบ้านเดี่ยว 22.5% เป็นคอนโดมิเนียม และ 19.8% เป็นทาวน์เฮ้าส์
นายสุกิจ ตรัยวนพงศ์ ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 กล่าวสรุปภาพรวมของการจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน บรรยายกาศภายในงาน จำนวนผู้เข้าชมงานลดลงประมาณ 18% ขณะที่ยอดขายจากตอบแบบสอบถามของผู้ร่วมออกบูธใกล้เคียงกัน คือ ประมาณ 1 พันล้านบาท ไม่นับยอดขายหลังงานอีกประมาณ 2 พันล้านบาท ส่วนยอดการขอสินเชื่อภายในงานลดลงประมาณ 20 % โดยจากการวิเคราะห์ของคณะกรรมการจัดงานฯ น่าจะเป็นผลมาจากช่วงระยะเวลาในการจัดงานครั้งนี้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ อาทิ ความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐทางด้านภาษีและดอกเบี้ยสำหรับบ้านหลังแรก การเกิดอุทกภัยและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่งผลทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมอย่างหนักหลายจังหวัดเกือบทุกภาคของประเทศไทย และเกิดขึ้นยาวนานกว่าทุกครั้ง ภาวะวิกฤตการทางเงินของโลกในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะหุ้นในประเทศไทยตกลงอย่างมาก ทั้งนี้ เชื่อได้ว่าหากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นมีหนทางในการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมและมีความชัดเจน ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่กำลังตัดสินซื้อบ้านมากยิ่งขึ้น คาดว่าหลังจากจบงานมหกรรมครั้งที่ 25 ภายในระยะเวลาหนึ่งถึงสองเดือน ตลาดการซื้อขายจะกลับมาคึกคัก ทำให้แต่ละโครงการสามารถสร้างยอดขายตามเป้าหมาย รวมยอดจองภายในงานและหลังจากจบงานไม่น่าจะน้อยกว่า 2 — 3 พันล้านบาท
ภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 ได้มีการรวบรวมกว่า 150 บริษัท รวมแล้วกว่า 600 โครงการมาไว้ในงาน นอกจากนี้ สถาบันการเงินที่ มาร่วมออกบูธมากกว่า 10 สถาบัน ต่างก็แข่งขันกันจัดแคมเปญด้านสินเชื่อคงที่อัตราดอกเบี้ยในอัตราพิเศษสุด ความหลากหลายของสินค้าที่นำมาแสดงยังเต็มไปด้วยคุณภาพ โดยผู้ประกอบการได้นำโครงการประเภทต่างๆ มาแสดงภายในงาน ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 51.0% คอนโดมิเนียม 25.2% ทาวน์เฮาส์ 14.4% และที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 1-2 ล้านบาท 51.2% 2-3 ล้านบาท 8.6% 3-5 ล้านบาท 10.5% 5-8 ล้านบาท 2.8% 15 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% สำหรับทำเลที่ต้องการส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ตั้งทั่วทุกเขตของกรุงเทพและปริมณฑล จึงนับเป็นโอกาสที่ผู้บริโภคจะสามารถเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
สำหรับยอดการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายในงาน ผลจากการสำรวจจากสถาบันการเงินต่างๆ มียอดการขอสินเชื่อรวมประมาณกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
ด้านผลสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคมีความต้องซื้อที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว 32.0% คอนโดมิเนียม 22.5% ทาวน์เฮ้าส์ 19.8% ด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทเรียงลำดับ ตามความต้องการ คือ ความต้องการที่อยู่อาศัย ระดับราคา 1-2 ล้านบาท 39.5% 2-3 ล้านบาท 25.9% ต่ำกว่า 1 ล้านบาท 10.1% 3-4 ล้านบาท 13.2% และ 4-6 ล้านบาท 8.1% โดยตัวเลขจากผลสำรวจนี้สามารถบ่งชี้ได้ว่า โครงการแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ขณะที่คอนโดมิเนียมความต้องการลดลงจากปีที่แล้ว ในสัดส่วนร้อยละ 22.5 ขณะนี้ ก็ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ว่าตัวเลขที่ลดลงมาจากเรื่องใด สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งต่อไป ครั้งที่ 26 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม พ.ศ. 2555 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์