กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน แจ้งข่าวดี เตรียมประกาศใช้น้ำมันดีเซล B5 ทั่วประเทศ ดีเดย์ 21 ต.ค. 54 นี้ พร้อมส่งเสริมการผลิตและใช้ไบโอดีเซลเต็มสูบ เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกรปาล์มน้ำมันจากราคาผลปาล์มสดได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และให้คนไทยได้ใช้พลังงานทดแทนสะอาด
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ปริมาณและราคาผลปาล์มสด ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงพลังงานได้รับทราบสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ราคาผลปาล์มสดอยู่ที่ 4.50 บาท /ก.ก. ลดลง 1 บาท/ก.ก. เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนที่ผ่านมา และกระทรวงพลังงานได้รับแจ้งปริมาณผลปาล์มสดจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งระบุว่าจะมีผลปาล์มสดในระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม 2554 เฉลี่ย 750,000 ตัน/เดือน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 128,000 ตัน/เดือน โดยใช้เพื่อการบริโภค 75,000 ตัน และใช้ทำเป็นไบโอดีเซลสำหรับน้ำมันดีเซล B4 43,000 ตัน ทำให้เหลือส่วนต่างน้ำมันปาล์ม 10,000 ตัน/เดือน
โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานพบว่าสต็อคน้ำมันปาล์มในประเทศ (ณ วันที่ 31 ส.ค.54) มี 281,000 ตัน (จากที่สต็อคปกติควรมี 150,000 ตัน) รวมทั้งจากข้อมูลล่าสุด(6 ต.ค.54) กำลังผลิตและสต็อกน้ำมันปาล์มของประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่ระดับ 6-10% และราคาน้ำมันปาล์มดิบของตลาดโลก ส่งมอบเดือน ธ.ค.54 ลดลงเหลือ 2,800 ริงกิต/ตัน หรือ 28 บาท/กก. จากราคาเดิมอยู่ที่ระดับมากกว่า 30 บาท/ก.ก.
ดังนั้น เพื่อเป็นการดูดซับส่วนเกินจากที่มีสต็อคน้ำมันปาล์มในประเทศมาก และเพื่อช่วยรักษาราคาปาล์มมิให้ตกต่ำไปกว่านี้ จึงได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานประกาศบังคับใช้น้ำมันดีเซล B5 แทนการใช้น้ำมันดีเซล B4 ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 54 - 31 ธ.ค.54 ซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์ม ได้เพิ่มอีก 5,000ตัน /เดือน จากเดิมที่ใช้ 43,000 ตัน/เดือน ทั้งนี้คาดว่าสต็อคน้ำมันปาล์มในประเทศ ณ สิ้นปีนี้จะคงเหลือประมาณ 200,000 ตัน ซึ่งเป็นสต็อคที่เพียงพอไม่กระทบต่อการบริโภคแต่ประการใด
“การประกาศบังคับใช้น้ำมันดีเซลดังกล่าว คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่เกษตรกรปาล์มน้ำมันจากราคาตกต่ำได้ทันที และจะเป็นการส่งเสริมให้คนไทยได้ใช้พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่ได้จากผืนดินไทยเราเอง ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งด้านการสร้างความมั่นคงพลังงาน และลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” นายพิชัยกล่าว