กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ปตท.
วันนี้ (12 ตุลาคม 2554) ที่คลังน้ำมันพระโขนง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานปล่อยขบวนรถขนส่งน้ำมันเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในโครงการ “ปตท.เติมน้ำใจ ให้น้ำมัน แบ่งปันผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ประกอบด้วย น้ำมันเบนซิน ดีเซล และหล่อลื่น รวมปริมาณ 4.8 แสนลิตร เพื่อจัดจ่ายให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ และผู้ประสบอุทกภัยสำหรับใช้เติมเครื่องยนต์รถและเรือ โดยกระทรวงพลังงานได้เร่งเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดยประสานกับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมันและก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และได้สั่งการให้พลังงานจังหวัดทั่วประเทศติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยหน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ ที่ขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานจังหวัดแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะประสานงานมายังกระทรวงพลังงานเพื่ออนุมัติแจกจ่ายต่อไป
ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจและประเมินความต้องการผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงในพื้นที่เป้าหมาย พบว่าผู้ประสบภัยขาดแคลนน้ำมันเบนซิน ดีเซล และหล่อลื่น ที่ใช้เติมเครื่องยนต์รถและเรือ จึงได้สำรองน้ำมันเบนซินและดีเซลปริมาณ 450,000 ลิตร และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับใช้กับเครื่องยนต์เรือ (D-3 Plus SAE 40) จำนวน 30,000 ลิตร รวมมูลค่าทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ ปตท. จะปล่อยขบวนรถขนส่งน้ำมันไปยังสถานีบริการในจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี และสระบุรี ซึ่งอยู่ใกล้จุดประสบภัยน้ำท่วมเดือดร้อนอย่างหนัก เพื่อทำการบรรจุน้ำมันลงถังขนาดบรรจุ 15 ลิตร จำนวน 30,000 ใบ ก่อนที่จะเตรียมแจกจ่ายให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดอุทกภัย ปตท. และบริษัทในกลุ่มได้ร่วมกันเตรียมแผนการช่วยเหลือภายใต้โครงการ “กลุ่ม ปตท. รวมพลังไทย ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” โดยได้บริจาคเงินช่วยเหลือ สนับสนุนถังก๊าซหุงต้ม ถุงยังชีพ ถุงสำหรับบรรจุทราย ชุดยาสามัญ และอื่นๆ ไปแล้ว รวมมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท นอกจากนี้ ปตท. จะจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอีกในหลายจุดเสี่ยงและจุดที่ประสบปัญหาหนัก ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (13 ต.ค. 54) เพื่ออำนวยความสะดวกการช่วยเหลือให้เข้าถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ต่อไป