กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ระดมความช่วยเหลือแก่ลูกค้าและประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ วางแผนเตรียมรับมือและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะขยายวงกว้างมากขึ้น พร้อมออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายสาขาและตู้เอทีเอ็มที่มีอยู่มากที่สุดทั่วประเทศ รวมทั้งกระจายความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัย ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้เตรียมวงเงินสินเชื่อเพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือลูกค้าประมาณ 10,000 ล้านบาท และพร้อมขยายเพิ่มเติมหากมีความต้องการในอนาคต
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมว่า “ธนาคารได้เตรียมความพร้อมในเรื่องนี้มาตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เพราะตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าและผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม นอกจากความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในเบื้องต้นที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมและเข้มข้นในเดือนตุลาคม ธนาคารยังได้เฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังขยายวงกว้างในด้านต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าธนาคารนำเอาความเชี่ยวชาญที่มีอยู่มาให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างไม่ติดขัดแม้ในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้ โดยแบ่งความช่วยเหลือออกเป็น 4 มิติ ได้แก่
1. การให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย ธนาคารได้ออกมาตรการผ่อนปรนทางการเงินให้แก่ลูกค้าทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล ซึ่งรวมถึงสินเชื่อเคหะ บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ และสำหรับลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารได้จัดทีมเจ้าหน้าที่เข้าดูแลลูกค้าทั้งในพื้นที่อุทกภัยและพื้นที่ความเสี่ยง และเตรียมวงเงินสินเชื่อจำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ และพร้อมขยายวงเงินเพิ่มเติมหากมีความต้องการในอนาคต รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผ่านสมาคมธนาคารไทย เพื่อผ่อนปรนเงื่อนไขทางการเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
2. พลังของเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมทั่วประเทศที่พร้อมให้บริการในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ด้วยจำนวนสาขาที่ให้บริการทั้งสิ้น 1,062 สาขา พื้นที่กรุงเทพฯ 486 สาขา เป็น In-mall ทั้งสิ้น 157 สาขา และเครือข่ายเอทีเอ็มที่พร้อมให้บริการกว่า 8,000 เครื่องกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งการสำรองเงินสดที่ศูนย์เงินสดและเครื่องเอทีเอ็มเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังมี Call Center 02-777-7777 กว่า 600 คู่สาย โดยมีพนักงาน 400 คน คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าที่ประสบภัยทุกคน
3. การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในวงกว้าง ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการร่วมบริจาคเงินและเป็นศูนย์กลางระดมน้ำใจจากชาวไทย ผ่านเครือข่ายสาขาและตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ รวมยอดเงินบริจาคของประชาชนทั่วไปและที่ธนาคารสมทบเพิ่มเติม ณ ปัจจุบันกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งได้ถูกนำไปจัดสรรในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในเขตพื้นที่ 15 จังหวัด ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งในระยะเร่งด่วน ได้แก่ ถุงยังชีพ 30,000 ชุด เรือไฟเบอร์ จำนวน 40 ลำ พร้อมเสื้อชูชีพ จำนวน 200 ตัว และระยะฟื้นฟู ได้แก่ การซ่อมแซมบ้าน 150 หลัง การสร้างบ้านใหม่ 150 หลัง ซ่อมแซมอาคารเรียนและช่วยเหลือตามศูนย์พักพิงในพื้นที่ต่างๆ และนอกจากนี้ยังได้ร่วมกับองค์กรการกุศลอื่นๆ ในการเป็นช่องทางให้กับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากและครอบครัวข่าว 3 เป็นต้น
4. การให้ความช่วยเหลือพนักงาน ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น การให้เงินช่วยเหลือแก่พนักงาน การเตรียมให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทาง การจัดที่พักชั่วคราว และการป้องกันที่พักจากอุทกภัย แก่พนักงานที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของธนาคารและบริษัทในเครือ กว่า 10,000 ราย ซึ่งครอบคลุมสมาชิกในครอบครัวด้วยรวมแล้วประมาณกว่า 100,000 ราย
“ไทยพาณิชย์มีนโยบายมุ่งเน้นในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยทุกคนอย่างเต็มรูปแบบ ในทุกภาคและทุกเขตที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด โดยธนาคารได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการต่างๆในการช่วยเหลือทั้งระยะเร่งด่วนและระยะฟื้นฟู การสำรองเงินสด และพลังเครือข่ายสาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขาและตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าผู้ประสบภัยสามารถมั่นใจได้ว่าจะยังคงได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างปกติแม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก” นางกรรณิกา กล่าวสรุป
สำหรับมาตรการความช่วยเหลือในรายละเอียดของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ประกอบด้วย
สำหรับลูกค้าขนาดใหญ่ มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกว่า 300 ราย จากเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลือบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าของทางธนาคารเท่านั้น ซึ่งทางธนาคารได้เตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ส่วนรูปแบบการให้ความช่วยเหลือจะพิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือเพิ่มวงเงินพิเศษ
สำหรับลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการ SME มีลูกค้าในเขตผลกระทบประมาณ 2,000 ราย และมีติดต่อขอความช่วยเหลือมาแล้ว 183 ราย โดยธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกรายในรูปแบบต่างๆ ทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ รวมถึงการลดดอกเบี้ยสูงสุด 1% พร้อมทั้งได้เตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยลูกค้าผู้ประกอบการ SME ที่ประสบอุทกภัย สามารถติดต่อรับบริการได้ที่สำนักงานธุรกิจที่มีบัญชีสินเชื่ออยู่ หรือ SCB Business Call Center 02-722-2222
สำหรับลูกค้าบุคคลและสินเชื่อรายย่อย สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งการพักชำระเงินต้นหรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ ยกเว้นค่าปรับและค่าติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงการเพิ่มวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 120% ของราคาประเมินกรณีสินเชื่อมีหลักประกัน
เพื่อร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ธนาคารขอเรียนเชิญคนไทยร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ ผ่านทางบัญชีเดินสะพัด ชื่อบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์ เพื่อผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 111-3-90911-5 สาขารัชโยธิน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต สามารถบริจาคผ่านสาขากว่า 1,062 สาขาและเครื่องเอทีเอ็ม ของธนาคารที่มีกว่า 8,363 เครื่องทั่วประเทศ รวมถึงผ่านบริการ SCB Easy Net
สื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)
โทร : 02-544-4502, 4501, 6421 Email: corp.communications@scb.co.th
Website: www.scb.co.th
Facebook: www.facebook.com/scbthailand
Twitter: www.twitter.com/scb_thailand