กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลท. เปิดให้หุ้นกู้ของ 6 บจ. รวม 21 ตัวเข้าซื้อขาย หวังให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น และยังเป็นช่องทางในการระดมทุนอย่างครบวงจรให้แก่บจ. ทั้งในรูปของตราสารทุนและตราสารหนี้ มั่นใจชำระราคาและส่งมอบได้ภายใน T+2 คาดภายในไตรมาสแรกของปี 47 มีบจ.สนใจนำหุ้นกู้เข้าซื้อขายอีกเกือบ 30 ตัว
นางเกศรา มัญชุศรี ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการพัฒนาตลาดตราสารการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2546 ตลท. จะเปิดให้มีการซื้อขายตราสารหนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะทำให้การซื้อขายหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนมีความคล่องตัวมากขึ้น มีการส่งมอบและชำระราคาที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นช่องทางให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกที่จะลงทุนในหุ้นกู้ได้สะดวกและคล่องตัวมากขึ้น
"ตราสารหนี้ที่จะซื้อขายผ่านตลท.ครั้งแรกในวันที่ 26 พ.ย.นี้ มีมูลค่าถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นหนึ่งพันล้านบาท (141,000 ล้านบาท) เป็นหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน 6 บริษัท และได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เสนอขายหุ้นแก่ประชาชน โดยหุ้นกู้ชุดแรกที่จะเข้ามาซื้อขายในตลท. มีจำนวน 21 ตัว ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) 8 ตัว บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) 7 ตัว บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) 2 ตัว บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN) 1 ตัว บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) 1 ตัว และบริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) (NF) 2 ตัว ซึ่งหุ้นกู้เหล่านี้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ AA- ถึง A- มีอายุคงเหลือประมาณ 3 - 5 ปี " นางเกศรากล่าว
ตลท. ได้กำหนดวิธีการซื้อ/ขายหุ้นกู้ไว้ 2 วิธี คือ 1) การซื้อ/ขายโดยวิธีการจับคู่คำสั่งซื้อ/ขายอัตโนมัติ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับการซื้อ/ขายหลักทรัพย์ทั่วไปบนกระดานหลัก และ2) การซื้อ/ขายโดยวิธี Put Through (PT) ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถต่อรองและตกลงรายการก่อนที่จะบันทีกรายการเข้าสู่ระบบการซื้อ/ขายของตลท.
นางเกศรากล่าวต่อว่า "ภายในไตรมาสหนึ่งของปี 47 คาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนสนใจนำหุ้นกู้เข้ามาเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนอีกไม่น้อยกว่า 30 บริษัท ดังนั้น ผู้สนใจลงทุนในหุ้นกู้ ควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหุ้นกู้ หรือตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ และข้อมูลข่าวสาระสำคัญที่อาจเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อหุ้นกู้ให้รอบคอบเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยติดตามได้จากแหล่งข้อมูลที่สำคัญ ๆ อาทิ หนังสือสรุปข้อสนเทศการเสนอขายหุ้นกู้ หรือหนังสือชี้ชวน เอกสารเผยแพร่และกิจกรรมให้ความรู้ อบรม สัมมนาต่างๆ ของตลท. รวมทั้ง เว็บไซต์ของตลท. ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์ของสถาบันพัฒนาบุคลากรธุรกิจหลักทรัพย์ที่ www.tsi-thailand.org ซึ่งจะเป็นการให้ความรู้ในลักษณะ E-learning"
ทั้งนี้ การซื้อ/ขายหุ้นกู้ต้องส่งคำสั่งไม่ต่ำกว่า 1 board lot ซึ่งเท่ากับ 100 หน่วย หรือประมาณ 100,000 บาท และต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือ 10,000 หน่วย และกำหนดช่วงราคา (Spread) ของการซื้อขายครั้งละ 0.01 บาท แต่ไม่ได้กำหนดราคาซื้อ/ขายสูงสุดและต่ำสุดระหว่างวัน (Floor & Ceiling) สำหรับค่าธรรมเนียมในการซื้อ/ขายหุ้นกู้นั้น ตลท. ไม่ได้กำหนด ผู้ลงทุนจึงสามารถต่อรองกับโบรกเกอร์ได้โดยเสรี
"การชำระราคาและส่งมอบหุ้นกู้ในตลท.ดำเนินการโดยบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เป็นบริษัทย่อยของตลท. ซึ่งมีระบบการตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะได้รับหุ้นกู้ และเงินภายใน 2 วันทำการนับจากวันที่ซื้อ/ขายหุ้นกู้ หรือวันที่ T + 2 " นางเกศรากล่าว
ทั้งนี้ ตลท.จะจัดให้มีพิธีเปิดการซื้อขายตราสารหนี้ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2546 ตั้งแต่เวลา 09.15 น. ณ บริเวณโถงนิทรรศการชั้น 1 อาคารตลท. โดยได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร้อยเอกสุชาติ เชาว์วิศิษฐ จะเป็นประธานในพิธี
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-รก-