มทร.ธัญบุรี บินตรงลงนาม สู่ความเป็นประชาคมอาเซียน

ข่าวทั่วไป Thursday October 13, 2011 12:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--มทร.ธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นสมาชิกของประชาคมอาเซียน ในการเปิดการค้าเสรีด้านเศรษฐกิจ การศึกษาและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ในปี พ.ศ.2558 ได้บินตรงลงนามความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้แก่ Universitas Gadjah Mada และ Institut Teknologi Bandung โดยมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมในการลงนามครั้งนี้ รศ.ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ในครั้งนี้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่างประเทศ ในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาบุคลากร นักวิจัย นักวิชาการ และนักศึกษา ระหว่างมหาวิทยาลัยฯ ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นอกจากนี้ผู้บริหารและคณาจารย์ ของคณะวิศวกรรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ได้ร่วมหารือและเยี่ยมชม รวมทั้งร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย Universitas Gadjah Mada และ Institut Teknologi Bandung ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ เล่าว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติงานสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เข้าสู่ตลาดแรงงานของประเทศไทยมามากกว่า 30 ปี เปิดการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม เศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท เพื่อสนองนโยบายของมหาวิทยาลัยฯ ในการสร้างความร่วมมือระดับอุดมศึกษาทางวิชาการกับองค์กรต่างประเทศ และเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเข้าสู่การเป็นสมาชิกของประชาคมอาเซียน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี จึงได้ลงนามความร่วมมือในระดับคณะระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์กับมหาวิทยาลัย Universitas Gadjah Mada สำหรับ Institut Teknologi Bandung เป็นสถาบันเก่าแก่และมีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมศาสตร์ของประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการพัฒนาบุคลากร การแลกเปลี่ยนนักศึกษา การสร้างเครือข่ายงานวิจัย และการจัดตั้ง หลักสูตรนานาชาติของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงได้ทำการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย Prof.Dr.Retno S.Sudibyo Universitas Gadjah Mada รองอธิการบดี กล่าวว่า เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย เปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 18 คณะ โดยมีหลักสูตรระดับปริญญาตรี 69 หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา 24 โดยรู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมชวาและเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ จุดเริ่มต้นของการทำความร่วมมือคือท่านคณบดี ผศ. ดร. สมหมาย ผิวสอาด รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ Prof. Ir. T. Yoyok Wahyu Subroto (Department Head of Architecture and Planning) และ Prof. Rahman Sudiyo (Manager of International Collaboration and Development) ซึ่งได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Agreement, MoA) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา กิจกรรมแรกๆที่มีความร่วมมือกันได้แก่ คณาจารย์ของ UGM ได้เข้าร่วมในการประชุมนานาชาติ EMSES ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ Akhmaloka,Ph.D Institut Teknologi Bandung อธิการบดี กล่าวว่า ITB ได้ทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศกว่า 100 แห่งทั่วโลก โดยนักศึกษามาจากกว่า 30 ประเทศ ITB มีนโยบายว่าอย่างน้อย 1 หลักสูตรจากแต่ละคณะฯ ควรได้รับการรับรองระดับนานาชาติ เช่น ABET หรือ AUN/SEED ITB โดยมีพันธกิจเน้นด้าน การศึกษา การวิจัย และ การบริการแก่ชุมชน และ มทร. ธัญบุรี มีอะไรที่คล้ายคลึงกัน คือ แม้ว่าเน้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ก็มีการเรียนการสอนด้านศิลปกรรมศาสตร์และบริหารธุรกิจ โดยการลงนามครั้งนี้คาดว่า จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ และเกิดหลักสูตรแบบสองปริญญาขึ้นในอนาคต ผศ.วันชัย ทรัพย์สิงห์ หัวหน้าภาควิศวกรรมไฟฟ้า เล่าว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้อาจารย์ได้สร้างความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา โดยเฉพาะด้านวิชาการและงานวิจัย Universitas Gadjah Mada และ Institut Teknologi Bandung ในประเทศอินโดนีเซียได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฯ ต่างๆในต่างประเทศ ส่งผลต่อการพัฒนางานวิจัยในสาขาวิชาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้สร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ อาทิเช่น ด้านการบริการชุมชน ร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยี ร่วมมือด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ยกระดับขีดความสามารถด้านความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานในต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตปี พ.ศ.2558 ทางมหาวิทยาลัยจะเข้าร่วมกลุ่มประชาคมอาเซียนค การบินตรงลงนามความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย Universitas Gadjah Mada และ Institut Teknologi Bandung กับมทร.ธัญบุรี ส่งผลดีต่อมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่ง เพื่อเป็นการยกระดับยกระดับคุณภาพการศึกษาในระดับสากลต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ