กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ฟิวเจอร์แบรนด์ บริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์ และเวเบอร์ แชนด์วิค กลุ่มการท่องเที่ยว เผยผลการสำรวจใหม่ที่ประเมินประเทศต่างๆ ในรูปแบบของ “แบรนด์”
ผลสำรวจเผยประเทศไทยติดหนึ่งในสิบสถานที่ท่องเที่ยวหลายสาขา โดยครองอันดับที่ 8 ในภาพรวม การสำรวจดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ให้คะแนนประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ “แบรนด์” (Country Brand) พร้อมแนะให้แต่ละประเทศสร้างกลยุทธ์เพิ่มความแตกต่างให้กับแบรนด์หรือประเทศของตน ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวมาจากดัชนีแบรนด์ประเทศที่จัดทำโดยบริษัท ฟิวเจอร์แบรนด์และบริษัท เวเบอร์ แชนด์วิค (FutureBrand/Weber Shandwick Country Brand Index) โดยประเทศไทยเป็นแบรนด์จากกลุ่มประเทศเอเชียแบรนด์เดียวที่ติดอันดับท็อปเท็น ส่วนประเทศที่ได้รับเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งด้านภาพรวมคืออิตาลี ตามด้วยออสเตรเลีย และอเมริกา
ดัชนีจาก FutureBrand/Weber Shandwick Country Brand Index แบ่งเป็นการวิเคราะห์ 3 ระดับจากสถิติที่รวบรวมจากองค์กรที่เกี่ยวกับการค้า รัฐบาล อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งผลการวิจัยเชิงปริมาณ (global quantitative survey) ตลอดจนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ เช่น บรรณาธิการการท่องเที่ยว นักวิเคราะห์การท่องเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้อง ดัชนีดังกล่าวระบุถึงประเทศที่เป็นที่นิยมสำหรับการท่องเที่ยวทั่วโลก 35 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศยอดนิยมจากทวีป อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และอัฟริกาด้วย
การสำรวจ FutureBrand/Weber Shandwick Country Brand Index นำเสนอเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วในงาน World Travel Market ซึ่งเป็นนิทรรศการด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกที่จัดขึ้นทุกปี และเพิ่งจัดขึ้นอีกครั้งในกรุงลอนดอน ซึ่งการสำรวจดังกล่าวประเมินบทบาทและโอกาสในการทำการตลาดแต่ละประเทศในรูปแบบของแบรนด์ และจัดอันดับประเทศตามสาขาต่างๆ กัน การสำรวจนี้ได้รวมการจัดอันดับแนวโน้มการท่องเที่ยว แรงบันดาลใจ สิ่งท้าทาย รวมทั้งโอกาสต่างๆ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ประเทศไทยนอกจากจะได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 8 ในภาพรวมแล้ว ยังติดหนึ่งในสิบในการสำรวจย่อยหลายสาขา ได้แก่ อันดับที่ 5 ในสาขา “Rising Star Country Brands”, อันดับที่ 4 ในสาขา “Best Country Brands for Nightlife”, อันดับที่ 7 ในสาขา “Best Country Brand for Beaches”, อันดับที่ 8 ในสาขา “Most Improved Country Brands” category, อันดับที่ 9 ในสาขา “Best Country Brand for Families”, และอันดับที่ 10 ในสาขา “Best Country Brand for Conventions”
ประเทศที่ได้รับเลือกให้ครองอันดับหนึ่งในสาขาต่างๆ ประกอบด้วย ประเทศจีน สำหรับด้าน “Most Improved Country Brand”, ประเทศอเมริกา ในด้าน “Best Country Brand for Business Travel”, ประเทศอิตาลี ในด้าน “Best Country Brand for Art and Culture” และ “Best Country Brand for History”, ประเทศออสเตรเลีย ในด้าน “Best Country Brand for Outdoors” และประเทศบาฮามาส ในด้าน “Best Country Brand for Beaches”
เรอเน่ เอ. แมค (Rene A. Mack) ประธานกลุ่มสายงานท่องเที่ยว บริษัทเวเบอร์ แชนด์วิค กล่าวว่า “ถ้า ‘แบรนด์’ หมายถึงประสบการณ์ด้วยนั้น แบรนด์ที่มีอิทธิพลและเป็นที่จดจำมากที่สุดของโลกบางแบรนด์ก็น่าจะเป็นประเทศต่างๆ นั่นเอง สิ่งที่ท้าทายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็คือการที่ต้องปรับตัวให้พ้นจากการตลาดแบบเดิมๆ ที่ไม่มีความกระตือรือร้น มาเป็นการสร้างสรรค์และส่งผ่านประสบการณ์ในตัวแบรนด์ซึ่งจะเพิ่มยอดขายและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศที่มีแบรนด์เป็นที่จดจำ”
ฌอง-หลุยส์ ดูเมอ (Jean-Louis Dumeu) ผู้อำนวยการและกรรมการผู้จัดการ ฟิวเจอร์แบรนด์ กล่าวว่า “เรามีความตื่นเต้นที่จะนำเสนอ FutureBrand Country Brand Index ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์ของเราในสาขานี้ ประเทศต่างๆ ที่มีความคุณสมบัติที่ดีอาจเป็นแบรนด์ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันก็ได้ เราหวังว่าผลการสำรวจครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้มีการพูดคุย ตั้งคำถาม และสนับสนุนให้
ประเทศต่างๆ มองตนเองในมุมมองใหม่ โดยประเทศที่มีแบรนด์แข็งแกร่งจะช่วยให้ประเทศนั้นมีขีดความสามารถในระดับสูง และเป็นการสร้างโอกาสในระยะยาวสำหรับการทำธุรกิจ การท่องเที่ยว การส่งออก และการลงทุน”
ทั้งนี้ ฟิวเจอร์แบรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ระดับชั้นนำของโลก รวมทั้ง เวเบอร์ แชนด์วิค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน โดยมีความเชี่ยวชาญทางด้านการประชาสัมพันธ์ มีแผนการจัดการสำรวจขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยผู้ริเริ่มคือ ริน่า พลาเพลอร์ (Rina Plapler) กรรมการอำนวยการของฟิวเจอร์แบรนด์ ตลอดจนสำนักงานฟิวเจอร์แบรนด์ทั่วโลก
สิบประเทศที่ได้รับการจัดอันดับในภาพรวม
1. อิตาลี
2. ออสเตรเลีย
3. อเมริกา
4. ฝรั่งเศส
5. มัลดีฟส์
6. กรีซ
7. ฟิจิ
8. ไทย
9. อียิปต์
10. บาฮามาส
ข้อมูลบริษัท ฟิวเจอร์แบรนด์
ฟิวเจอร์แบรนด์ (www.futurebrand.com) เป็นองค์กรที่มีกลยุทธ์ความเชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ระดับแนวหน้า ซึ่งมีสำนักงาน 21 สาขาใน 17 ประเทศทั่วโลก ฟิวเจอร์แบรนด์ทำงานร่วมกับบริษัทพันธมิตรต่างๆ เพื่อช่วยลูกค้าพัฒนาแบรนด์ที่นำมาซึ่งรายได้ทั้งในปัจจุบันสืบเนื่องไปถึงอนาคต โดยบริการต่างๆ ได้แก่ การสร้างแบรนด์และอัตลักษณ์ขององค์กร (branding and corporate identity) การสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ การวางรูปแบบบรรจุภัณฑ์ และอื่นๆ ฟิวเจอร์แบรนด์ประสานงานกับลูกค้าเพื่อประเมินและเพิ่มคุณค่าของแบรนด์ นำเสนอกลยุทธ์ที่เฉียบคมสำหรับแบรนด์ และสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่มีอิทธิพล ลูกค้าของฟิวเจอร์แบรนด์ ได้แก่ P&G, Microsoft, InBev, Intel, Nokia, Nestle, MasterCard, UPS, และ Unilever ทั้งนี้ ฟิวเจอร์แบรนด์ยังมีความเชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ให้แก่สถานที่ท่องเที่ยวและประเทศ โดยได้ทำงานให้กับสิงคโปร์ ออสเตรเลีย เม็กซิโก สายการบินเซาธ์อัฟริกันแอร์เวย์ สายการบินบริติชแอร์เวย์ หมู่เกาะ Guernsey และเมือง Dubai Waterfront.
ข้อมูลบริษัท เวเบอร์ แชนด์วิค
เวเบอร์ แชนด์วิค เป็นหนึ่งในบริษัทประชาสัมพันธ์ระดับชั้นนำของโลกที่มีสำนักงานในพื้นที่ต่างๆ ที่สำคัญทั่วโลกในด้านสื่อมวลชน ธุรกิจ และรัฐบาล ในปี พ.ศ. 2548 เวเบอร์ แชนด์วิค ได้รับรางวัล “Agency of the Year” จาก PRWeek US และจาก The Holmes Report, ได้รับรางวัล “International Consultancy of the Year” จาก PRWeek UK, และรางวัล “Consultancy of the Year” (สำนักงานฮ่องกง) จาก Asia Pacific PR Awards นอกจากนี้ เวเบอร์ แชนด์วิค ยังได้รับเลือกให้เป็นบริษัทประชาสัมพันธ์อันดับหนึ่งจาก Advertising Age ทั้งนี้ เวเบอร์ แชนด์วิค เป็นผู้นำด้านการเป็นที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาด สาธารณกิจ และการสื่อสารองค์กร และยังให้บริการด้านการโฆษณา การสำรวจทางการตลาด และการสื่อสารด้วยภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.webershandwick.com
ฟิวเจอร์แบรนด์ และเวเบอร์ แชนด์วิค เป็นบริษัทในเครือ The Interpublic Group of Companies (NYSE: IPG) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เวเบอร์ แชนด์วิค (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. (02) 257-0300
E-mail: onanong@webershandwick.com หรือ voranica@webershandwick.com--จบ--