กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--มั่นคงเคหะการ
บทความพิเศษ
โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
ทุกวันนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือได้ว่ามีการพัฒนาด้านกลยุทธ์การขายใหม่ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจและเลือกซื้อค่อนข้างมาก ตั้งแต่การพัฒนาคอนเซปต์ใหม่ๆ ที่มักจะสร้างเอกลักษณ์ที่ดูโดดเด่นให้แก่โครงการ เพื่อจูงใจให้คนที่อยากมีสังคมในระดับที่ดีเลือกที่จะซื้อเพื่อสถานะทางสังคมที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีการคิดแพกเกจด้านการเงินต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ซื้อ หรือแม้กระทั่งการมอบสิทธิ์ในการกู้ซื้อด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% ที่สร้างความฮือฮากันมากว่าจะก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่แตกรอบสองหรือไม่
จากปัจจัยสนับสนุนในหลากหลายรูปแบบที่ผู้ประกอบการต่างสร้างกลยุทธ์ที่แยบยลออกมาคว้าใจผู้ซื้อเช่นนี้ ทำให้ในปี 2546 ยอดขายบ้านนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เรียกว่าขายดีกันจนพฤติกรรมการซื้อบ้านบนกระดาษเริ่มที่จะหวนกลับมาอีกครั้ง ทำให้ภาครัฐต้องออกมาส่งสัญญาณเตือนภัยแก่ผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม เพราะนับวันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลาที่รวดเร็ว
ภาพที่เห็นจากโฆษณา และการสร้างคาร์แรกเตอร์ให้กับโครงการที่อยู่อาศัยคือปัจจัยหลักในการสร้างคุณภาพชีวิตและความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัยจริงหรือ???
คำถามนี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ในยามนี้แทบจะไม่มีใครมองเห็นและให้ความสำคัญกับคำถามเหล่านี้สักเท่าไหร่ ผู้อยู่อาศัยย่อมอยากที่จะอาศัยในที่ที่สะดวกสบาย ดังเช่นแนวคิดที่ผู้ประกอบการนำเสนอผ่านภาพจำลองในโฆษณาทุกรูปแบบ แต่มีคำถามตามมาว่าแล้วสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่เราต้องการในชีวิตการอยู่อาศัยในโครงการนั้นๆ จริงหรือ???
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรแบรนด์ "ชวนชื่น" ที่ได้รับความไว้วางใจมากว่า 40 ปี เปิดเผยว่า "จากวิถีการเปลี่ยนแปลงด้านกลยุทธ์การโฆษณาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดูเหมือนจะมีความโดดเด่นมากที่สุดในปีนี้ เพราะหลายบริษัทต่างงัดกลยุทธ์การขายและการทำตลาดที่แตกต่างกันออกไป โดยพยายามสร้างฝันให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นภาพของโครงการที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ว่าจะเป็นอย่างนั่นอย่างนี้ในอนาคต ซึ่งถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเพราะดูจากยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะให้ผู้ซื้อคำนึงถึงก็คือ ภาพฝันของโครงการต่างๆ เหล่านั้น คือสิ่งที่ยั่งยืนหรือไม่ และอะไรคือสิ่งที่ชีวิตครอบครัวต้องการอย่างแท้จริง สิ่งไหนจำเป็นหรือสิ่งไหนมีก็ได้ไม่มีก็ได้ ผมถือว่าสิ่งเหล่านี้ถ้าผู้ซื้อแยกแยะได้น่าจะมีความสุขกับบ้านหลังใหม่ได้อย่างยั่งยืนกว่า"
"มั่นคงเคหะการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มาแล้วกว่า 40 ปี ภายใต้แบรนด์ชวนชื่นและสิรีนเฮ้าส์ เราผ่านยุคสมัยของการตลาดในรูปแบบต่างๆ มามาก แต่ผมมองว่าสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนนั่นก็คือปัจจัยพื้นฐานที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของคนไทย ที่เหมาะต่อวิถีความเป็นไทย เพราะคนในสังคมส่วนใหญ่ยังมีพื้นฐานการดำรงชีวิตอย่างไทย บางครั้งคุณเดินเข้าไปชมบ้านตัวอย่างที่มีครัวแบบฝรั่ง หลายคนชื่นชอบเพราะสวยงาม แต่ถามว่าพออยู่จริงๆ คุณก็ต้องสร้างครัวไทยขึ้นเพราะครัวฝรั่งมีข้อจำกัดในการใช้งาน ดังนั้นมั่นคงเคหะการ จึงยึดถือการออกแบบที่เน้นให้อยู่ได้จริงอย่างเหมาะสมกับชีวิตประจำวันมากกว่าที่จะสร้างให้มีลูกเล่นเพื่อส่งเสริมการขายเท่านั้น"
ปัจจุบันมั่นคงเคหะการได้สร้างสรรค์กลยุทธ์การส่งเสริมการขายที่ให้ลูกค้าได้บ้านอย่างสมใจมากกว่าด้วยการเสนอทางเลือกในด้านต่างๆ อาทิ ลักษณะบ้านที่มีให้เลือก 3 แบบ ประกอบด้วย บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ที่เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการความสะดวกและต้องการย้ายเข้าอยู่เลย บ้านสร้างเสร็จแล้วบางส่วน คือบ้านที่สร้างในส่วนหลักๆ แต่ลูกค้าสามารถเลือกส่วนตกแต่งได้ตามรสนิยมของตน แต่ยังสามารถเข้าอยู่ได้เร็วประมาณ 2-3 เดือน บ้านสั่งสร้าง บ้านที่ลูกค้าสามารถสั่งสร้างได้เองตามแบบที่ชอบ เพราะปัจจุบันมั่นคงเคหะการได้พัฒนาแบบบ้านกว่า 30 แบบ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอย่างเหมาะสม ซึ่งถือได้ว่ามากที่สุดบริษัทหนึ่งในไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สร้างมาตรฐาน Happy Plus ที่พร้อมมอบทางเลือกเพื่อสร้างความสบายขั้นพื้นฐานและคุณภาพในระยะยาวแก่บ้านของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นฉนวนกันความร้อน ระบบบำบัดน้ำเสีย และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ที่พร้อมจะมอบความสุขให้แก่ผู้อยู่อาศัยในระยะยาว
"ที่เด่นชัดและถือว่าเป็นจุดขายของเรานั้นก็คือ กลยุทธ์การซื้อบ้านแถมสวน ซึ่งเราให้สวนที่ถือว่าเป็นสวนจริงๆ ณ วันที่คุณเข้าอยู่คุณไม่ต้องกังวลเพราะต้นไม้ที่เราให้เป็นต้นไม้ในช่วงอายุที่มีอัตราการเสี่ยงต่อการตายที่ถือว่าต่ำมาก ประกอบกับการตกแต่งสวนที่ดูร่มรื่น การแถมน้ำพุและสวนหินประดับเพื่อเพิ่มมูลค่าของตัวบ้านอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเราสามารถทำได้ดี เพราะปัจจุบันเรามีสถานอนุบาลพันธุ์ไม้ที่สร้างขึ้นในโครงการชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว และชวนชื่นฟลอร่าวิลล์ เราจึงเชื่อมั่นได้ว่าต้นไม้ทุกต้นมีคุณภาพที่ดี" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว
"สิ่งที่เราให้แก่ลูกค้าล้วนแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่เขาต้องมีในการมีบ้านทั้งสิ้น เราสร้างครัวไทยไว้นอกตัวบ้านเพื่อกันปัญหาเรื่องควันและกลิ่น เรามอบสวนให้เพราะมันจะสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและความอบอุ่นภายในบ้าน เราเสนอทางเลือกเกี่ยวกับบ้านให้อย่างหลากหลาย และแน่นอนที่สุดเราเชื่อมั่นว่าโครงการภายใต้แบรนด์ชวนชื่นของเรานั้นมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของลูกค้าในหลากหลายระดับ และสิ่งต่างๆ ที่เรากลั่นกรองว่าจำเป็นที่จะต้องมอบให้กับลูกค้านั้น ทำให้ปัจจุบันเราสามารถขายบ้านได้ในราคาที่เหมาะสมและมีคุณภาพดี และสิ่งสำคัญที่สุดที่จะฝากผู้ซื้อบ้านก็คือ ขอให้ซื้อในสิ่งที่ใช่และเหมาะสมกับวิถีการดำเนินชีวิตของตนเอง อย่าซื้อตามกระแส เพราะจะทำให้บ้านที่อยู่นั่นไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเต็มที่และคุ้มค่า" นายชูเกียรติกล่าวสรุป
การซื้อบ้านหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ นั่น ต้องเลือกให้เหมาะสมกับพื้นฐานชีวิตจริง อย่ายึดเพียงว่าโครงการนี้สามารถสร้างภาพฝันในใจของผู้ซื้อ จริงควรแยกแยะว่าสิ่งใดที่เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของชีวิตและสิ่งใดเป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างได้เองในอนาคต โดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการซื้อสิ่งที่ยังไม่เห็นด้วยตา--จบ--
-นห-