กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ผู้ว่าฯ กทม.และทีมผู้บริหารกทม.ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมแผนรับมือเขตสายไหม พร้อมลงพื้นที่ตรวจความแข็งแรงแนวป้องกัน และประตูระบายน้ำเขตสายไหมและพื้นที่ต่อเนื่อง หลังจากวานนี้ ศปภ.ประกาศให้ประชาชนปทุมธานีรวมถึงพื้นที่สายไหมเร่งอพยพ ยืนยันขณะนี้ กทม.ยังไม่วิกฤติ ขออย่าได้ตระหนก หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้ว่าฯ กทม.จะแจ้งให้ทราบด้วยตัวเอง พร้อมวอนประชาชนอย่ารื้อแนวกระสอบทรายไปใช้ส่วนตัว หวั่นทำพื้นที่ส่วนใหญ่ และประชาชนเดือดร้อน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับสำนักงานเขตสายไหมเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและแผนรับมือน้ำท่วมหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ณ สำนักงานเขตสายไหม จากนั้นลงพื้นที่แนวป้องกันน้ำท่วม ประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ และประตูระบายน้ำคลองสามวา เพื่อตรวจสอบการระบายน้ำและความมั่นคงแข็งแรง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ภายหลังจากวานนี้ (13 ต.ค) ศปภ.ประกาศว่าอาจะมีน้ำท่วมพื้นที่จ.ปทุมธาน และกรุงเทพฯ บริเวณรอยต่อกรุงเทพฯ ช่วงเขตสายไหม และพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ
สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาดวันนี้ อยู่ที่ระดับสูงสุด 2.13 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงกว่าปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.10 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า ปี 2538 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.20 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยปริมาณน้ำจาก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุทธยา ไหลลงสู่เจ้าพระยา 4,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ 4,430 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า หากระดับน้ำที่ไหลผ่านเข้าสู่กรุงเทพฯ และระดับน้ำทะเลหนุนสูงกว่านี้ อาจจำเป็นต้องแจ้งประชาชนที่อาศัยอยู่ 27 ชุมชนนอกแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนการประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ จะมีการอัพเดทข้อมูลทางแจ้งทางเว็บไซต์และสื่อต่างๆ ทุก 3 ชั่วโมง แต่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตเข้าไปแจ้งข้อมูลแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนโปรดอย่านำกระสอบทรายจากส่วนกลางซึ่งวางเรียงเป็นแนวป้องกันไปใช้เป็นการส่วนตัว เนื่องจากอาจทำให้แนวป้องกันไม่แข็งแรงส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ และบ้านเรือนของประชาชนส่วนใหญ่ รวมถึงบ้านของท่านเอง สำหรับการประเมินสถานการณ์ประจำวัน กทม.จะมีการประชุมผู้บริหารทุก 6 ชั่วโมง ในช่วง 3 วันนี้ (วันเสาร์-วันจันทร์) ซึ่งในช่วงเวลา 08.00 น. 14.00 น. 20.00 น. และเวลา 02.00 น. จนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก หากเกิดภาวะวิกฤต ตนเองจะเป็นผู้ประกาศแจ้งประชาชนด้วยตัวเอง
จากนั้น ผู้ว่าฯ กทม.และคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปตามเส้นทางถนนหทัยราษฎร์ สุวินทวงศ์ และพื้นที่ต่อเนื่อง เรื่อยไปจนถึง อ.บางปู จ.สมุทรปราการ เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่และติดตามปัญหาของประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด