กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--สหวิริยาสตีลอินดัสตรี
กลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) รวมพลัง สร้างสรรค์ “เรือเหล็กนวัตกรรม” จำนวน 100 ลำ มูลค่า 1 ล้านบาท เรือ อเนกประสงค์ที่จัดทำและสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้รับมอบ ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ดอนเมือง หวัง สถานการณ์น้ำท่วมไทยฟื้นฟู ประเทศไทยกลับมาแข็งแกร่งโดยเร็ว
นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ รองประธานกรรมการ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขนย้ายผู้คนและสิ่งของออกนอกพื้นที่ประสบภัยตลอดจนการเข้าให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัยบริเวณชั้นใน กลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (SSI) ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (WCE) บริษัท บี.เอส.เมทัล จำกัด (BSM) ภายใต้วิสัยทัศน์ของกลุ่มเอสเอสไอ คือ “สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” จึงมีแนวคิด ร่วมกัน ออกแบบและผลิต เรือเหล็กนวัตกรรม จำนวน 100 ลำ มูลค่า 1 ล้านบาท ขึ้น เป็นการพิเศษเพื่อการช่วยเหลือกรณีเกิดอุทกภัยแบบเร่งด่วน เหมาะสำหรับใช้เคลื่อนย้านคนหรือสิ่งของ เล็กกระทัดรัด มีความคล่องตัวสูง มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน สามารถปรับปรุง ดัดแปลงได้สะดวก ขนย้ายไปยังแหล่งเป้าหมายสะดวกรวดเร็ว โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากวิทยาลัยการอาชีพบางสะพานในการส่งนักศึกษาช่างเชื่อมมาร่วมช่วยผลิต และได้มอบผ่าน ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมดอนเมือง เพื่อนำไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อน แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป
“จากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนชาวไทยในพื้นที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก กลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ทั้ง SSI- WCE -BSM และวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ศักยภาพ และความแข็งแกร่งแต่ละด้านต่างกันไป จึงนำความแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทและของเหล็ก มาช่วยผู้ประสบภัย โดยได้คิดประดิษฐ์ เรือนวัตกรรมเหล็กขึ้นเพื่อใช้เป็นพาหนะเคลื่อนย้ายบุคคล สิ่งของทางน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประสบภัยและการให้การช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ เนื่องจาก มีขนาดเล็ก กระทัดรัด มีความปลอดภัย สะดวกในการเคลื่อนย้ายในทางน้ำ เหมาะแก่การใช้เป็นพาหนะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดในสถานการณ์เช่นนี้ ได้เป็นอย่างดี นอกจากเรือเหล็กนวัตกรรม 100 ลำ ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยนอกจากนี้เอสเอสไอ ยังได้บริจาคเงินจำนวน 500,000 บาท ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการอื่นๆ เพื่อนพนักงาน ชาวสหวิริยา ยังจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้บริหาร พนักงาน รวมพลังน้ำใจระดมเงินและบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อส่งมอบต่อให้ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไปการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกทัยในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในหลายกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนซึ่งเอสเอสไอได้ถือมั่นมาตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยมีความเข้มแข็ง ขอให้สถานการณ์ฟื้นคืนมาสู่ภาวะปกติ ประเทศไทยและทุกคนกลับมาเข้มเข็ง และ ยืนหยัดอยู่ได้อย่างยั่งยืน ในที่สุด”
ด้าน นายสมบัติ จูงจิตรดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ WCE ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มเอสเอสไอ เปิดเผยว่า เรือเหล็กนวัตกรรม เป็นการสร้างสรรค์นวัตกรรมการสร้างเรือเหล็กอเนกประสงค์ ขนาดเล็ก ที่ผลิตจาก วัสดุเหล็กแผ่นรีดร้อน (Hot rolled coil) หนา 1.2 มม. ขนาด 830x2330x70 มิลลิเมตร (กว้างxยาวxขอบสูง) น้ำหนัก 65 กิโลกรัม ใช้เป็นพาหนะเคลื่อนย้ายบุคคล สิ่งของทางน้ำ ขนาดบรรทุก 1- 6 ที่นั่ง หรือน้ำหนักบรรทุกรวม 400 กิโลกรัม โครงสร้างและตัวถังมีความแข็งแรงสูง เคลือบสีป้องกันสนิม ตัวเรือสีขาวคาดแดงเพื่อสะท้อนแสงยามค่ำคืน มีพายคู่ ติดในตัวเรือ ขนาดกะทัดรัด มีความคล่องตัวสูง น้ำหนักบรรทุกมาก แข็งแรงน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายสะดวกจัดเก็บง่าย ความพิเศษของเรือเหล็กอเนกประสงค์หรือ Smart Steel Boat คือผลิตจากเหล็กแผ่นบาง แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้มากเชื่อถือได้ทนการกระแทก การขูดจากของมีคม รั่วยาก ทนทานต่อแสงแดดกว่าเรือพลาสติก มีอายุการใช้งานนาน น้ำหนักไม่มาก ค่าบำรุงรักษาต่ำ เมื่อเลิกใช้จากภารกิจเป็นเรือแล้ว ยังมีอรรถประโยชน์ใช้เป็นตู้เก็บของ หรือชั้นวางหนังสือ ไม่เป็นภาระในการจัดเก็บ โดยไร้ประโยชน์ เหมือนเรือทั่วไป ที่สำคัญคือ สามารถนำเรือนี้มาต่อกันหลายลำเป็นเรือ หรือแพขนาดใหญ่ เพื่อทำภาระกิจต่างๆได้ทันที หากสถานที่ราชการหรือบ้านเรือนใดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมจัดหาเรือเหล็กรุ่นนี้ไปทำเป็นชั้นเก็บเอกสารจำนวนหลายลำ ยามน้ำท่วมก็เอามาทำเป็นเรือช่วยเหลือได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถดัดแปลงไปทำเป็นประตูบ้านได้ โดยผลิตให้เท่ากับวงกบมาตรฐานยกไปใส่กับบานพับแบบสวม แข็งแรงทนทานยามน้ำมาก็อุดยาด้วยดินน้ำมันกันน้ำเข้า ไม่ไหวสามารถถอดเป็นเรือขนของได้
“จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ทราบว่ารุนแรงมาก จึงเกิดความคิดว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ที่ช่วยชาวบ้านได้ ทราบว่าเรือจำเป็นมากสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่จะใช้ใส่ของสำคัญหรือแวะกลับไปลำเลียงของสำคัญออกมาในภายหลัง และเรือเหล็กนี้ จะตอบโจทย์ ได้เป็นอย่างดี จึงคิดการผลิตเรือเหล็กขนาดเล็ก จากเหล็กรีดร้อนชนิดม้วนของเอสเอสไอ โดยต้องการผลิตได้รวดเร็ว และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดและเป็นไปตามนโยบายของคุณวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เอสเอสไอ ทีมงานวิศวกรรมจึงดำเนินการจัดทำแบบ โดยความร่วมมืออย่างดีจากทั้งผู้บริหารและพนักงาน จนสามารถผลิตเรือเหล็กต้นแบบ ทดลองพายกันจริงๆ ในฝายทดน้ำหลังโรงงาน ซึ่งใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงดำเนินการ การผลิตจำนวน 100 ลำเบื้องต้น โดยความร่วมมือร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของบริษัทในเครือคือ SSI ,WCE และ BSM รวมถึง วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ที่ส่งนักศึกษาช่างเชื่อมมาช่วยในการผลิตด้วย”
“เราปลูกฝังความเชื่อของพวกเราให้เกิดเป็นรูปธรรมในการช่วยเหลือสังคมคือเมื่อเราแข็งแรงและพร้อมกว่าเราต้องช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติได้เมื่อมีโอกาส ความคิดและความร่วมมือร่วมใจของทุกคนย่อมผลักดันให้งานต่างๆสำเร็จลุลวง และผมเชื่ออยู่เสมอว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ขอบคุณทุกๆ ท่านตั้งแต่หัวเรือใหญ่จนถึงเพื่อนพนักงานทุกคนที่ได้ร่วมกันสร้างความช่วยเหลือในครั้งนี้แม้จะเป็นส่วนเล็กน้อยแต่เราก็ได้แสดงออกถึงน้ำใจที่จะช่วยเหลือสังคมให้เห็นว่าพวกเราบริษัทเหล็ก ก็สามารถทำได้เช่นกัน วันนี้จึงเชื่อว่าทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัย มีความเข้มแข็ง แข็งแกร่งในเร็ววัน” นายสมบัติกล่าวในที่สุด