กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ. ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ (Q-CON) และบมจ.สหโคเจน (ชลบุรี) (SCG) เตรียมเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลท.วันที่ 6 และ 7 ม.ค. 47 ตามลำดับ Q-CON จะเข้าซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขณะที่ SCG จะซื้อขายในกลุ่มทรัพยากร ภายหลังระดมทุนรวมกันกว่าพันล้านประเดิมปี 47
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ระดมทุนและตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัทควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยหลักทรัพย์ของบมจ.ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จะเข้าซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (หมวดวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง) ในวันที่ 6 ม.ค. 47 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "Q-CON" ขณะที่ หลักทรัพย์ของบมจ.สหโคเจน (ชลบุรี) จะเข้าซื้อขายในกลุ่มทรัพยากร (หมวดพลังงาน) ในวันที่ 7 ม.ค. 47 โดยใช้ชื่อย่อว่า "SCG"
"เป็นที่น่ายินดีว่า จะมีกิจการคุณภาพเข้ามาจดทะเบียนตั้งแต่ต้นปี 2547 นี้ โดยทั้ง Q-CON และ SCG ต่างเป็นกิจการขนาดใหญ่ มีมูลค่าตลาดรวมแห่งละกว่าสามพันล้านบาท ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ถือเป็นพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การระดมทุนที่ทำให้ฐานทุนของบริษัทมั่นคงขึ้น ย่อมยังประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโดยรวม อีกทั้งผู้ลงทุนยังมีโอกาสร่วมเป็นเจ้าของกิจการชั้นนำด้วย" นางสาวโสภาวดีกล่าว
บมจ.ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ หรือ Q-CON มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วรวม 400 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 320 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบา แผ่นผนังและพื้นคอนกรีตมวลเบา และคานทับหลังมวลเบาเพื่อใช้ในการก่อสร้าง ภายใต้เครื่องหมายการค้า "Q-CON" ด้วยเทคโนโลยีการผลิตของ HEBEL ประเทศเยอรมันนี ที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล ซึ่ง Q-CON เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับลิขสิทธิ์การผลิตนี้
Q-CON มีรายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 เท่ากับ 540.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.23 ล้านบาทจากรายได้จากการขายของปี 2545 ทั้งปีจำนวน 520.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนปี 46 เท่ากับ 180.91 ล้านบาท เทียบกับเพียง 101.84 ล้านบาทในปี 2545 (ไม่รวมกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้) กลุ่มลูกค้าหลักซึ่งสั่งซื้อสินค้าของ Q-CON ประมาณกึ่งหนึ่งอย่างสม่ำเสมอคือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท คิว.เอช. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นใหญ่ใน Q-CON รวมกันประมาณ 75% ของทุนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ
สำหรับการระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8 บาท ระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค. 46 โดยมีบริษัท ยูไนเต็ด แอ็ดไวเซอรี่ เซอร์วิส จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน Q-CON จะนำเงินที่ได้ไปใช้ก่อสร้างโรงงาน และลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ของโรงงานแห่งที่สอง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตเพื่อจำหน่ายได้ในช่วงกลางปี 2547 สำหรับอีกส่วนหนึ่ง จะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืม สำหรับการจ่ายเงินปันผลนั้น Q-CON มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิในแต่ละปี ทั้งนี้ ตามสัญญาสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง บริษัทต้องรักษาอัตราส่วนความสามารถในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจ่ายไว้ในอัตราไม่ต่ำกว่า 1.2 ต่อ 1 จึงจะจ่ายเงินปันผลได้
สำหรับ บมจ.สหโคเจน (ชลบุรี) หรือ SCG มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วรวม 955 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 820 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 135 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท SCG ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ ดำเนินการภายใต้ประกาศของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer: SPP) ซึ่งได้รับสัมปทานประกอบกิจการไฟฟ้าจากกระทรวงมหาดไทย โรงไฟฟ้าของ SCG ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์-ศรีราชา จ.ชลบุรี ใช้เทคโนโลยีพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration Technology) ในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 131.8 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำ 61 ตันต่อชั่วโมง บริษัทได้ทำการระดมทุนโดยขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 135 ล้านหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป ในราคาหุ้นละ 3.20 บาท ระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค. 46 เพื่อลงทุนในโครงการไฟฟ้าส่วนขยาย ซึ่งมีกำลังการผลิต 44 เมกะวัตต์โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 SCG มีรายได้จากการขาย 1,549.40 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 289.87 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 18.70 โดยรายได้จากการขายร้อยละ 69.66 มาจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และร้อยละ 25.16 จากการขายไฟฟ้าให้กับบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SCG คือ กิจการในกลุ่มสหพัฒน์ รวมถึงผู้บริหารและพนักงาน ซึ่งถือหุ้นรวมกันใน สัดส่วนร้อยละ 85.86 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังไอพีโอ SCG มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนที่สามารถจ่ายได้ ภายหลังปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ในสัญญากู้ยืมเงินและภาระผูกพันต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วในแต่ละปี
สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของทั้งสองบริษัท สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของบมจ.ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ ที่ www.qcon.co.th เว็บไซต์ของตลท. www.set.or.th และเว็บไซต์บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอมที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์ก8ร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659 กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-รก-