กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--ปตท.
ราคาน้ำมันเฉลี่ย สัปดาห์ที่ 10 - 14 ต.ค. 54 น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 5.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 103.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 8.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 111.37 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ น้ำมันดิบเวสท์ เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 5.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 85.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 5.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 124.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 119.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ปัจจัยที่ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- 9 ต.ค. 54 นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นาง Angele Merkel และประธานาธิบดีฝรั่งเศส นาย Nicolas Sarkozy ร่วมประชุม และแถลงพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการขยายของวิกฤติหนี้ยุโรป โดยมุ่งแก้ปัญหากรีซ และเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ยุโรป โดยจะเปิดเผยแผนการดังกล่าวภายในปลายเดือน ต.ค.นี้ ก่อนการประชุมกลุ่ม G-20 ในวันที่ 3-4 พ.ย. 54 ที่เมืองคานส์ ฝรั่งเศส
- 10 ต.ค. 54 Shell Petroleum Development Company of Nigeria Ltd. (SPDC) ประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งออกน้ำมันดิบ Forcados ของไนจีเรีย ในเดือน ต.ค.- ธ.ค. 54 เนื่องจากระบบท่อขนส่ง Tran-Forcados รั่วไหล หลังถูกวางระเบิดในวันที่ 6 ต.ค. 54 ทั้งนี้ สหภาพแรงงานน้ำมันไนจีเรียจำนวน 2,000 คน ประกาศประท้วงหยุดงาน 3 วัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัยในการทำงานในแหล่งผลิตน้ำมันแถบ Niger Delta จากการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ของกลุ่มผู้ก่อการร้าย
- 10 ต.ค. 54 พนักงานสหภาพศุลกากรของคูเวต 3,000 คน หยุดงานประท้วงบริเวณท่าเรือ ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันอย่างน้อย 5 ลำ ต้องจอดรอคอย อย่างไรก็ตาม พนักงานกลับเข้าทำงานในวันที่ 12 ต.ค. 54 ทั้งนี้ คูเวตผลิตน้ำมันดิบ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย. 54 และมีกำลังการกลั่น 9.3 แสนบาร์เรลต่อวัน
- ซาอุดีอาระเบียลดกำลังผลิตน้ำมันดิบเดือน ก.ย. 54 อยู่ที่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. 54
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ต.ค. 54 ลดลง 1,000 ราย (W-O-W) อยู่ที่ 404,000 ราย
- 13 ต.ค. 54 ประธานกรรมาธิการสหภาพยุโรป นาย Jose Barroso ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ยุโรป จ่ายเงินช่วยเหลือกรีซงวดที่ 6 และขยายขอบเขตกิจกรรมของ กองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเงินของยุโรป (European Financial Stability Facility: EFSF)
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration: EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ต.ค. 54 เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล (W-O-W) หรือ 0.4% อยู่ที่ 337.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม Gasoline ลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล หรือ 1.9% อยู่ที่ 209.6 ล้านบาร์เรล และ Distillates ลดลง 4.1 ล้านบาร์เรล หรือ 1.9% อยู่ที่ 154.0 ล้านบาร์เรล
- ลิเบีย ภายใต้รัฐบาลใหม่ ส่งออกน้ำมันดิบเป็นเที่ยวเรือที่ 3 ปริมาณ 9.5 แสนบาร์เรล โดยเป็นเที่ยวเรือแรกที่มายังเอเชีย
- อุปสงค์น้ำมันของจีนมีแนวโน้มชะลอตัว โดยปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ก.ย. 54 ลดลง 12.2% (Y-O-Y) อยู่ที่ 4.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และโรงกลั่นขนาดใหญ่ 12 แห่งมีแผนกลั่นน้ำมันในเดือน ต.ค. 54 ลดลง 3.5 แสนบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ คาดว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนในครึ่งหลังของปี 54 นี้จะลดต่ำกว่าครึ่งแรกของปี เพราะมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประเทศ
- ทั้ง 3 สำนักวิเคราะห์หลัก (International Energy Agency (IEA), EIA และ OPEC) ต่างปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกปี 54
- 14 ต.ค. 54 Standard and Poor’s (S&P’s) ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของสเปนจาก AA สู่ AA-
- Thomson Reuters/University of Michigan ของสหรัฐฯ รายงานดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภค (Consumer Expectations) ในเดือน ต.ค. 54 ลดลง 2.4 จุด (M-O-M) อยู่ที่ 47.0 จุด
แนวโน้มราคาน้ำมัน ในสัปดาห์นี้ (17 - 21 ต.ค. 54)
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน หลังกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายปลีกในเดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้น 1.1% (M-O-M) อยู่ที่ระดับ 395,470 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อาจทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น อีกทั้งตลาดได้รับปัจจัยหนุน โดยนักลงทุนทั่วโลกเริ่มมั่นใจว่าวิกฤตหนี้ยุโรปจะไม่แพร่ขยายไปยังธนาคารพาณิชย์ จากข่าวการประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศกลุ่ม G-20 ในวันที่ 14 ต.ค. 54 เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน รวมถึงการพิจารณาขยายความสามารถของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อีกทั้ง OPEC อาจปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบหลังจากที่ลิเบียกลับมาดำเนินการผลิตได้ โดยอาจจัดประชุมฉุกเฉิน ก่อนกำหนดการเดิมวันที่ 14 ธ.ค. 54 อย่างไรก็ตาม หากจีนใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงินเพิ่มขึ้น หลังจากอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ย. 54 อยู่ที่ 6.1% สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 4% ในปี 2554 อาจส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคน้ำมันอันดับ 2 ของโลกถดถอย ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 108-116 USD/BBL และ 82-90 USD/BBL ตามลำดับ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent เดือน พ.ย. 54 ในตลาด ICE ที่ลอนดอน หมดอายุสัญญา และผู้ค้าเริ่มซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสำหรับเดือน ธ.ค. 54
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทร. 0 2537-1630
โทรสาร 0 2537-2171