อานิสงส์รัฐเข้มโรงงานกำจัดขยะอุตฯถูกวิธี BWG รับงานเดือน ต.ค.เพิ่มอีกกว่า 42 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 19, 2011 09:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--IR PLUS บิ๊ก BWG หน้าบาน เปิดม่านไตรมาสที่4 ได้ลูกค้าเข้ามือทันทีกว่า 42 ลบ. เพิ่มจากไตรมาสที่ 3 ที่รับเละกว่า 100 ลบ. "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" เผยเป็นผลจากรัฐเข้มโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างถูกวิธี และใช้มาตรการด้านภาษีจูงใจ ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจไปสู่การผลิตพลังงานทดแทนเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับงานประมูลในเดือนตุลาคม จากลูกค้าเพิ่มอีกคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 42 ล้านบาท โดยเป็นงานกำจัดกากอุตสาหกรรมในกลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มผลิตยางพารา กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มกระดาษ หลังจากที่ในไตรมาสที่ 3/2554 ที่ผ่านมาได้รับงานประมูลรวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลดีจากปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นตามการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม และภาครัฐโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เดินหน้านโยบายลดปัญหามลพิษอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีกากอุตสาหกรรมที่เข้าบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น และบริษัทฯได้รับผลดีอย่างชัดเจน เพราะปัจจุบันนี้ BWG ถือเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวของประเทศไทย ที่ให้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ เผาทำลายด้วยเตาอุณหภูมิสูง รีไซเคิล และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงาน จึงได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีดังกล่าว นอกจากนั้น หลังจากที่ภาครัฐได้นำมาตรการเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมของรัฐบาล มาใช้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่าน ด้วยการเสนอการลดหย่อนภาษี ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่นำกากอุตสาหกรรมเข้ามาบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้อง โดยทุกโรงงานต้องมีรายงานบันทึกการทำลายกากอุตสาหกรรม และวิธีกำจัดกากอุตสาหกรรม เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โรงงานหันมากำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องมากขึ้นตามเป้าหมายของภาครัฐ ซึ่งจะยิ่งส่งผลดีต่อธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ รวมทั้ง บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในต้นไตรมาสที่ 4/2554 ประเทศไทยจะประสบปัญหาอุทกภัย และมีโรงงานบางส่วนประสบปัญหาน้ำท่วม แต่มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากหลังจากน้ำลดโรงงานจะต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจเพราะจะมีกากอุตสาหกรรมที่เกิดจากน้ำท่วมเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งบริษัทฯ พร้อมรองรับงานที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี ทั้งภาชนะใส่กากอุตสาหกรรม และรถขนส่ง นอกจากนั้น ขณะนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะกำหนดค่าบริการกำจัดกากอุตสาหกรรมให้กับโรงงานผู้ประสบอุทกภัยในราคาพิเศษด้วย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงดังกล่าว “เรายังมั่นใจว่าถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีปัญหาน้ำท่วม แต่ธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมยังเติบโต ในอัตราที่ดี เพราะหลังน้ำท่วมต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ กระบวนการเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในบริการกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรของบริษัทฯ และเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาอย่างโดดเด่นตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะผลประกอบเพียงครึ่งปีแรกในปีนี้ก็ทำได้สูงกว่าปีที่แล้วทั้งปี โดยในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีกำไร 43.89 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วทั้งปีที่ทำได้ 41.03 ล้านบาท นอกจากนั้น ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาธุรกิจ เริ่มเข้าสู่ High Season ทำให้มีขยะเข้าสู่การบำบัดตามกระบวนการอย่างหนาแน่น สะท้อนให้รายได้เติบโตโดดเด่นอย่างชัดเจนด้วย บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ใหม่ จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 15% มาเป็น 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 717.39 ล้านบาท” นายสุวัฒน์กล่าว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้รายได้ในอนาคตเติบโตได้อย่างมั่นคง บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดธุรกิจจัดการกากอุตสาหกรรมจากการกำจัดไปสู่การรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในธุรกิจพลังงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการบริหารจัดการและสร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาวตามปณิธานของผู้บริหารที่ต้องการจะสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับบริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับทั้งผู้ถือหุ้นและพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน หากท่านต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : IR PLUS คุณศุภวรรณ วราภรณ์ (จ๋า) Tel. 02-541-4011 ต่อ 320 email : supawan@irplus.in.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ