กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--บมจ.อสมท
ศาสตราจารย์สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บมจ.อสมท ชี้แจงในวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 (เวลา 11.00 น.) ในกรณีที่มีรายงานข่าวว่า รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล บมจ.อสมท (นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์) ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวในสื่อบางฉบับว่า การเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (นายธนวัฒน์ วันสม) เมื่อ 13 ตุลาคม 2554 โดยมติคณะกรรมการ บมจ.อสมท อาจมีสาเหตุมาจากเรื่องผังรายการโทรทัศน์ของช่อง 9 ซึ่งมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องว่า เรื่องนี้ต้องขอตำหนิฝ่ายเลขานุการของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่เสนอจดหมายด่วนรายงานเรื่องการดำเนินการเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ที่ทาง บมจ.อสมท ได้รายงานไปยังรัฐมนตรีกฤษณาแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2554 ให้รัฐมนตรีได้ทราบ เพราะ บมจ.อสมท ได้ส่งรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ระบุความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รวม 19 กรณีของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ไปให้ทราบโดยละเอียดแล้ว และเชื่อว่าหากรัฐมนตรีได้มีโอกาสอ่านรายงานดังกล่าว ก็จะเข้าใจอย่างชัดเจนถึงความบกพร่องและการขาดประสิทธิภาพในการบริหารงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท อันเป็นเหตุให้คณะกรรมการ บมจ. อสมท มีมติให้เลิกสัญญาจ้าง ซึ่งตนขอยืนยันว่าความบกพร่องทั้ง 19 กรณีดังกล่าว ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการจัดผังรายการหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ อยู่ด้วยเลย
สำหรับกรณีที่มีการระบุว่าอาจมีผลประโยชน์มากถึง 20% ของการจัดผังรายการโทรทัศน์ที่มีการจ่ายให้ผู้ที่มีอำนาจดำเนินการนั้น ประธานกรรมการ บมจ.อสมท ชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีเศษของการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ของนายธนวัฒน์ วันสม นั้น คณะกรรมการ บมจ.อสมท ถือว่าเรื่องการจัดผังรายการเป็นความรับผิดชอบของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท และได้มอบให้ดำเนินการโดยเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว โดยคณะกรรมการ บมจ.อสมท ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และที่ผ่านมา บมจ. อสมท ได้ปรับผังรายการทั้งที่เป็นการปรับเล็กและปรับใหญ่ไปแล้ว 8 ครั้ง (โดยจะมีการปรับทุกๆ 3 เดือน) ดังนั้น เมื่อมีฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันว่ามีการเรียกรับประโยชน์ตอบแทนนอกระบบ คณะกรรมการ บมจ. อสมท ก็จะได้ไปดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อให้ได้ความกระจ่างในเรื่องนี้ต่อไป และขอยืนยันว่าในการปรับผังรายการครั้งต่อไปที่กำลังมีการพิจารณาดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ก็ได้มอบหมายให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท คือ นายสุระ เกนทะนะศิล และทีมผู้บริหารที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ โดยไม่มีกรรมการ บมจ.อสมท คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมอย่างใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการดำเนินธุรกิจปกติของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท
สำหรับประเด็นที่มีผู้ให้ความเห็นว่า การดำเนินการในเรื่องการเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นเรื่องที่มีประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วยนั้น ประธานกรรมการ บมจ.อสมท ยืนยันว่า การติดตามผลการปฏิบัติงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ที่ล่าช้า ไม่เป็นไปตามมติคณะกรรมการ และอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรนั้น ได้ดำเนินการมาหลายเดือนแล้ว แต่มิได้มีการประกาศให้สาธารณะทราบ เมื่อปัญหาที่สั่งสมมาเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการตั้งคณะทำงานจากคณะกรรมการ บมจ.อสมท ไปตรวจสอบอย่างเป็นทางการในปลายเดือนกันยายน และนำมาสู่การตัดสินใจเลิกสัญญาจ้างในกลางเดือนตุลาคม ซึ่งก็เป็นการยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจที่มาจากความไม่มีประสิทธิภาพของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท โดยแท้ ไม่มีประเด็นในเรื่องการเมืองใดๆ มาเกี่ยวข้องเลย
“การเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นเรื่องการบริหารงานแท้ๆ ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อเลิกจ้างแล้วก็มีคนไปวิ่งเต้นให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซง ซึ่งก็ช้าเกินไปเสียแล้ว เพราะการเลิกจ้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วเมื่อคณะกรรมการ บมจ.อสมท มีมติ” ประธานกรรมการ บมจ.อสมท ชี้แจง