กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ตลท.
บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) พร้อมเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 ตุลาคม 2554 หลังการควบรวมธุรกิจของ PTTAR และ PTTCH ก้าวเป็นบริษัทปิโตรเคมีและการกลั่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ปตท. และในหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ PTTGC จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป จากการควบบริษัทระหว่าง บมจ. ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) และ บมจ. ปตท. เคมิคอล (PTTCH)
“การควบบริษัทนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเพิ่มมูลค่ากิจการ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและบริหารต้นทุนแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในสายตานักลงทุนต่างชาติ ด้วยหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ ที่น่าลงทุนเพิ่มขึ้น เชื่อว่า PTTGC จะสามารถใช้ประโยชน์จากการผสานความได้เปรียบทางธุรกิจ ที่เป็นบริษัทชั้นนำในระดับอาเซียน ทั้งด้านขนาดและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ โดย PTTGC มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดในหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์” นายชนิตร กล่าว
นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล กล่าวว่า “การควบบริษัทระหว่าง PTTCH กับ PTTAR นับเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ การควบบริษัททั้ง 2 ที่มีความแข็งแกร่งในครั้งนี้ ทำให้ PTTGC ก้าวขึ้นเป็นแกนนำด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของกลุ่ม ปตท. ด้วยกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวม 8.2 ล้านตันต่อปี และกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมรวม 228,000 บาร์เรลต่อวัน นับเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นครบวงจร (Integrated Petrochemical and Refining) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย ทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ อันเป็นการสร้างศักยภาพด้านการดำเนินงานและช่วยลดความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจปิโตรเคมีในปัจจุบัน”
PTTGC มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 45,059.85 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นสามัญ 4,505.98 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยธุรกิจหลักของ PTTGC ได้แก่ ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ธุรกิจการกลั่นน้ำมันและจัดหาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูป ธุรกิจการให้บริการและธุรกิจอื่นๆ สำหรับนโยบายจ่ายเงินปันผล PTTGC จะจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆตามกฎหมาย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PTTGC 3 ราย ได้แก่ บมจ. ปตท. ถือหุ้น 48.92% บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้น 4.59% และ HSBC (Singapore) Nominees Pte Ltd ถือหุ้น 3.27%
โดยการซื้อขายวันแรกจะไม่มีกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling and Floor) ของหลักทรัพย์บนกระดานหลัก เพื่อให้หลักทรัพย์สามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง
ผู้สนใจข้อมูลของ PTTGC สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.pttgcgroup.com