กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--เอสซีจี
เอสซีจี เผย 4 แนวทางบรรเทาทุกข์น้ำท่วมเน้นใช้ความเชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้างช่วยผู้ประสบภัย เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลดมั่นใจพร้อมให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ
เอสซีจีเผยแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 4 แนวทาง เน้นบรรเทาความเดือดร้อน จัดหาวัสดุป้องกันน้ำท่วม เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และเตรียมความพร้อมรับมือในอนาคต ชูจุดแข็งใช้ความเชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้างช่วยผู้ประสบภัยหลังน้ำลด เผยผลิตสุขากระดาษ แจกถุงยังชีพ มอบสุขาลอยน้ำ และให้ความช่วยเหลือชุมชนอย่างต่อเนื่อง คาดใช้งบช่วยเหลือรวมกว่า 200 ล้านบาท พร้อมสร้างความมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า “ปีนี้ประเทศไทยประสบปัญหา น้ำท่วมรุนแรงและต่อเนื่อง เอสซีจี ได้ดำเนินการพร้อมวางแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรม 4 แนวทาง คือ 1. บรรเทาความเดือดร้อน 2. จัดหาวัสดุป้องกันน้ำท่วม 3. เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และ 4. เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในอนาคต”
“เอสซีจีได้ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน มุ่งเน้นบรรเทาความเดือดร้อน โดยได้ผลิตสุขากระดาษเพื่อแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อนใช้งานในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันยังคงผลิตเพื่อแจกจ่ายอย่างต่อเนื่อง มอบถุงยังชีพไปแล้วกว่า 20,000 ชุด และยังคงทำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเรือ ถังเก็บน้ำ เสื้อชูชีพ อาหารกล่อง และสุขาลอยน้ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยโดยเฉพาะ ทั้งยังผลิต EM Ball และน้ำหมักชีวภาพ เพื่อนำไปช่วยบำบัดน้ำเสียจากภาวะน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ในฐานะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก่อสร้าง เราได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการช่วยจัดหาวัสดุป้องกันน้ำท่วม เพื่อมอบให้รัฐบาลและกรุงเทพมหานครนำไปจัดทำแนวป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง ทั้งกระสอบสำหรับบรรจุทราย1 ล้านกระสอบ และกระสอบหินฝุ่น 1 ล้านกระสอบ ซึ่งเป็นการประยุกต์เอาหินฝุ่น หรือหินปูนบดหยาบที่ได้จากการย่อยหินในโรงงานปูนซีเมนต์มาใช้ทดแทนทรายในภาวะขาดแคลน อีกทั้งยังได้ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินในบริเวณชุมชนใกล้โรงงาน โดยพนักงานได้ระดมกำลังไปช่วยกันดูแลบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมา เราได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครอบคลุมพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สิงห์บุรี ลพบุรี น่าน พิจิตร สุพรรณบุรี อยุธยา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี อ่างทอง ชัยนาท ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ จนถึงขณะนี้ เรายังคงให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง”
“สำหรับในระยะต่อไป เมื่อระดับน้ำเริ่มลดลง เอสซีจี ได้วางแนวทางที่จะเร่งฟื้นฟูบ้านเรือนของผู้ประสบ อุทกภัย โดยจะนำทีมบุคลากร ซึ่งมีทั้งวิศวกร สถาปนิก ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องบ้านและวัสดุก่อสร้าง เปิดคลีนิคให้คำแนะนำการซ่อมแซมบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ถนนหนทางต่างๆ ตลอดจนดูแลเรื่องส่วนลดราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างกับผู้ประสบอุทกภัยที่ต้องซ่อมแซมบ้าน รวมถึงโครงการนำพนักงานจิตอาสาช่วยฟื้นฟูศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนรวม 300 แห่ง ซึ่งความช่วยเหลือน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องของเอสซีจี คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นรวมกว่า 200 ล้านบาท”
“นอกจากนี้ เอสซีจียังมีแนวทางเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมุ่งคิดค้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยในภาวะอุทกภัยอย่างจริงจัง อาทิ การพัฒนานวัตกรรมบ้านลอยน้ำ และร่วมมือกับกรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย ให้ความรู้ประชาชนในการปฏิบัติตัว เพื่อเตรียมความพร้อมและรู้วิธีป้องกัน เมื่อต้องเผชิญกับอุทกภัย”
“อย่างไรก็ตาม เอสซีจีได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้ โดยเราได้ย้ายที่ทำงานสำหรับพนักงานที่ต้องติดต่อบริการลูกค้าและ Call Center ไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยก่อนหน้านี้แล้ว จึงมั่นใจได้ว่า
เอสซีจีจะสามารถให้บริการลูกค้าของเราได้ตามปกติเช่นเดิม เอสซีจี ขอแสดงความเสียใจกับผู้ประสบอุทกภัยทุกคน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องชาวไทยอย่างต่อเนื่อง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววัน” นายกานต์ กล่าวเพิ่มเติม