กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--Frost & Sullivan
จากผลการวิเคราะห์ของเว็บไซต์อินเตอร์เน็ตระดับทอปเทนพบว่า การเปิดเว็บเพจต่อวัน (Daily hit) เพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนก่อนสูงถึงร้อยละ 40 โดยส่วนใหญ่เป็นเว็บไซต์ข่าว อาทิ Nationchannel.com และ Bangkokpost.com ซึ่งมีการเติบโตมากกว่าเท่าตัวภายใน 1 เดือน ในขณะที่เว็บไซต์อย่าง เว็บไซต์มติชน และคมชัดลึกมีอัตราการเติบโตของการเปิดเว็บเพจมากกว่าร้อยละ 50
ดร. มนธิสินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกเปิดเผยว่า วิกฤตน้ำท่วมของประเทศไทยครั้งนี้ทำให้ปริมาณของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่ออ่านเว็บไซต์ข่าวในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถแบ่งวัตถุประสงค์ได้เป็นสองแบบคือ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้อื่นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในการอัพเดทข่าวน้ำท่วมผ่านทาง เฟซบุ้ค และทวิตเตอร์ นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ของประเทศ และรับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานต่างๆทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน
“เฟซบุ้คยังคงเป็นเครือข่ายหลักทางสังคมออนไลน์ซึ่งมีผู้ใช้ในประเทศไทยเกือบถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น ร้อยละ 17 ของประชากร โดยที่เดือนนี้มีอัตราการเติบโตมากกว่าเท่าตัว เทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราผู้ใช้เฟซบุ้คเติบโตเร็วเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก บราซิล และอินเดีย และในวิกฤตน้ำท่วม ณ ปัจจุบัน ส่งผลให้อัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 150 ใกล้เคียงกับประเทศอินเดีย ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 162”