ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้มีประกัน “บ. ทรู คอร์ปอเรชั่น” ที่ “BBB” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันที่ “BBB-” แนวโน้ม “Stable” จาก “Negative”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 21, 2011 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกันของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” โดยแนวโน้มปรับเปลี่ยนเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Negative” หรือ “ลบ” อันดับเครดิตสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทจากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตลอดจนคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) โทรศัพท์เคลื่อนที่ และโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวมีข้อจำกัดจากการที่บริษัทมีภาระหนี้จำนวนมาก ตลอดจนผลกระทบจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลัก และความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคม ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากบริษัทได้ไถ่ถอนหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐและได้รับวงเงินสนับสนุนจากธนาคารสำหรับการลงทุนขยายโครงข่าย 3 จี ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทไม่น่าจะเกินระดับ 80% โดยที่อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงหากอัตราส่วนเงินกู้รวมดังกล่าวปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะเวลาที่ต่อเนื่อง ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัททรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้นำในการให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจ หลักของบริษัททั้ง 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโครงข่ายสายสัญญาณ (Wireline) ซึ่งดำเนินงานโดยทรูออนไลน์ กลุ่มธุรกิจไร้สาย (Wireless) หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ ซีดีเอ็มเอ และกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) โดยทรูวิชั่นส์ ในครึ่งแรกของปี 2554 ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 32% 55% และ 14% ตามลำดับ บริษัทมีสถานะทางธุรกิจที่เข้มแข็งในตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยส่วนแบ่งทางการ ตลาดตามรายได้ทั้งประเทศที่ 40% และส่วนแบ่งทางการตลาดตามจำนวนผู้ใช้บริการที่ 36% โดยความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งมาจากการมีเครือข่ายที่ครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทยังสะท้อนถึงการเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลำดับที่ 3 ทั้งนี้ ทั้งธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกที่ยังมีอัตราส่วนจำนวนผู้ใช้บริการต่อประชากรในระดับต่ำและบริการสื่อสารข้อมูลผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ถือเป็นธุรกิจสำคัญที่ยังคงสนับสนุนโครงสร้างธุรกิจและสถานะเครดิตให้แก่บริษัทในระยะปานกลาง นอกจากนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังสะท้อนถึงการให้ความสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากกลุ่มบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ในระยะ 3 ปีข้างหน้า บริษัทวางแผนจะขยายโครงข่ายให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีอย่างรวดเร็วภายใต้สัญญากับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) โดยโครงสร้างธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันถือว่าเอื้ออำนวยต่อการขยายบริการด้านข้อมูลภายใต้โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จีมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนเนื่องจาก กสทช (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาข้อกฎหมายบางประเด็นในสัญญาระหว่างบริษัทกับ กสท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทอาจไม่ได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้นำในการให้บริการได้อย่างเต็มที่หากการประมูลใบอนุญาต 3 จีบนคลื่นความถี่ 2100 MHz เกิดขึ้นเร็ว บริษัทมีฐานะทางการเงินที่อ่อนแอโดยงบดุลมีภาระหนี้สูง อย่างไรก็ตาม รายได้และอัตราส่วนกำไรที่ค่อนข้างคงที่ช่วยให้การคาดการณ์กระแสเงินสดของบริษัทในระยะปานกลางมีความแน่นอน รายได้ของบริษัทน่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2554 จากการควบรวมผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฮัทช์ แต่คาดว่ารายได้ในปี 2555 จะเติบโตในระดับที่ลดลงจากภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นในธุรกิจหลักของบริษัท อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะปรับลดลง 2%-3% ในปี 2554 จากผลประกอบการที่ขาดทุนของกลุ่มบริษัทฮัทช์ และอัตราส่วนแบ่งรายได้ของทรูมูฟที่ปรับสูงขึ้น อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทปรับตัวดีขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้เพิ่มทุนจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาทจากการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมของบริษัทอยู่ที่ 77.9% ในกรณีที่บริษัทสามารถลงทุนขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ตามประมาณการ ภาระหนี้ของบริษัทน่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีกในระดับหนึ่ง และจะอยู่ในระดับดังกล่าวต่อเนื่องไปในระยะปานกลาง สำหรับโครงการลงทุนในอนาคตนั้น ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะระดมทุนจากเงินกู้ในสัดส่วนที่สอดคล้องกับเงินเพิ่มทุนใหม่เพื่อรักษาโครงสร้างทางการเงินและสถานะสภาพคล่อง อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทมีสถานะต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กร 1 ขั้นเนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนของเงินกู้ที่มีหลักประกันต่อสินทรัพย์ในระดับสูง ทริสเรทติ้งกล่าว บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB อันดับเครดิตตราสารหนี้: TRUE13NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ BBB- TRUE144A: หุ้นกู้มีประกัน 6,183 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ BBB TRUE144B: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ BBB- TRUE151A: หุ้นกู้มีประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 คงเดิมที่ BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่) จาก Negative (ลบ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ