กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--ตลท.
ในวันนี้ หน่วยงานภาคตลาดทุน ได้ประชุมเพื่อร่วมจัดตั้งกองทุน “ตลาดทุนร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล โดยนายธีระชัย เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่จะมีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมา และมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบโดยภาคเอกชน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับการริเริ่มของเอกชนในครั้งนี้ ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะส่งเสริมให้มีการใช้กลไกตลาดทุนมาช่วย เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure fund) โดยเชื่อว่าเมื่อมีความร่วมมือกันอย่างจริงจังโดยภาครัฐและเอกชนแล้ว ประเทศไทยจะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตั้งกองทุน “ตลาดทุนร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” เป็นความร่วมมือของหน่วยงานในตลาดทุน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมีวงเงินกองทุนประมาณ 500 ล้านบาท
การฟื้นฟูประเทศในวันนี้มี 3 ด้าน ได้แก่ด้านสาธารณูปโภค ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนและภาคเกษตร โดยเดิมกองทุนดังกล่าวจะให้การช่วยเหลือภาคประชาชน แต่จากการได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในเช้าวันนี้ ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานในตลาดทุน เห็นว่า ต้องเร่งสร้างความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้ง การสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชน โดยการเร่งกอบกู้นิคมอุตสาหกรรมที่เสียหายโดยเร็ว จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการได้ และเนื่องจากเป็นเรื่องที่จะต้องทำให้เร็วที่สุด ในเบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาสนับสนุนเงินทุนจำนวน 250 ล้านบาทที่จะบริจาคเข้ากองทุนนี้ เพื่อสำรองจ่ายสำหรับการจัดหาเครื่องมือเครื่องจักร เพื่อให้การเร่งฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมมีความคล่องตัว และทันการณ์
ความร่วมมือครั้งนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความจริงจังและมุ่งมั่นที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะร่วมเร่งแก้ปัญหาและพร้อมทุ่มเททั้งงบประมาณและสรรพกำลัง เพื่อให้การกอบกู้นิคมอุตสาหกรรมกลับสู่สภาพปกติได้โดยเร็วที่สุด
สำหรับการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนในประเทศ จะมีการนำเงินส่วนหนึ่งของกองทุนไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อพิจารณารายละเอียดการดำเนินงานต่อไป
คุณชนินท์ ว่องกุศลกิจ นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งได้ให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ยังคงให้ความร่วมมือในการร่วมสมทบเงินเพื่อจัดตั้งกองทุนนี้ เพราะเชื่อว่าการร่วมกันทำงานแบบบูรณาการจะเป็นประโยชน์ต่อการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้รวดเร็ว และยังแสดงให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในการร่วมช่วยเหลือสังคมอีกด้วย
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะให้ความร่วมมือใน 3 ด้าน โดยได้ตกลงร่วมกับสมาชิก รวมถึงโบรกเกอร์ผู้ค้าทอง ที่จะนำรายได้จากการเป็นนายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันที่มูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดในสัปดาห์หน้า (25-28 ตุลาคม 2554) นำมาสมทบในกองทุนที่จะจัดขึ้นนี้ ขณะเดียวกัน จะทำหน้าที่สื่อสารไปยังผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจและรักษาเม็ดเงินในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง สนับสนุนให้บุคลากรในบริษัทหลักทรัพย์ให้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียน ในการเข้าฟื้นฟูพื้นที่ตามแนวทางที่จะเกิดขึ้น