กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--กทม.
นายสมชาย ก้องอาภา ผู้อำนวยการกองแผนสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม สำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า สำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร (สนผ.) โดยกองแผนสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม จะจัดการสัมมนาตามโครงการ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาด้านผังเมือง การใช้ที่ดิน และด้านการจราจร การขนส่ง และสาธารณูปโภคของกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 12-13 ม.ค.47 ณ ห้องปรินซ์บอลรูม 1 ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีผู้เข้าสัมมนาประกอบด้วยข้าราชการที่เกี่ยวข้องจากสำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักผังเมือง สำนักงานงบประมาณ และสำนักงานเขตต่าง ๆ รวม 180 คน ในการนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายมุดตาฝ้า หมันงะ) จะเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาและบรรยายพิเศษเรื่อง “การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมต่อการปฏิบัติงานด้านพัฒนาเมือง” ในวันที่ 12 ม.ค.47 เวลา 08.30 น.
ผู้อำนวยการกองแผนสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนนั้น หน้าที่สำคัญประการหนึ่ง คือการพัฒนาด้านกายภาพ ได้แก่ การมีผังเมืองรวมที่มีประสิทธิภาพใช้ชี้นำการพัฒนาเมืองได้อย่างเหมาะสม มีการแบ่งพื้นที่บริเวณหรือย่านต่าง ๆ และกำหนดบทบาทอย่างเด่นชัด มีการกำหนดการบริการ โครงสร้างพื้นที่และการจัดวางระบบการจราจร การขนส่งและสาธารณูปโภคอย่างมีประสิทธิภาพ โครงข่ายคมนาคมขนส่งเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์ สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง การก่อสร้างสาธารณูปโภคมีความมั่นคง ปลอดภัย ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่การพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของการพัฒนาด้านผังเมือง การใช้ที่ดิน และด้านการจราจร การขนส่งและสาธารรูปโภค ของกรุงเทพมหานคร จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป
ผู้อำนวยการกองแผนสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนายังได้เน้นความสำคัญในเรื่องผลการพัฒนาในช่วง 2 ปีแรกของแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549) และทิศทางของการพัฒนาในช่วงครึ่งหลังของแผนฯ เพื่อเป็นการประเมินผลการพัฒนาที่ผ่านมา ปัญหา อุปสรรค สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อปรับทิศทางของการพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและความต้องการของประชาชน นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนายังจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ การประเมินผลและการปรับแผนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานต่อไป--จบ--
-นห-