“เชาว์ สตีลฯ” พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูประเทศ เร่งผลิตเหล็กต้นน้ำรองรับความต้องการพุ่งหลังน้ำลด

ข่าวอสังหา Wednesday October 26, 2011 14:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ “เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” หรือ CHOW ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาวรายใหญ่ของไทยเตรียมความพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูประเทศ ภายหลังเหตุอุทกภัยสร้างความเสียหายให้อาคารบ้านเรือน รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม และสาธารณูปโภคพื้นฐานจำนวนมาก ยันมีวัตถุดิบเพียงพอรองรับการผลิตเพิ่มเพื่อฟื้นฟูและทดแทนการนำเข้า ด้านที่ปรึกษาทางการเงินชี้ รัฐบาลจะต้องลงทุนเพิ่มเติมในด้านระบบป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการเหล็กสูงขึ้นด้วย นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาวรายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยว่า ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายรูปแบบ เช่น เหล็กเส้นกลม (Round Bar) เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) ซึ่งถือเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้าง บริษัทฯ จึงถือเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยเหลือประเทศในด้านการฟื้นฟู ซ่อมแซม หรือสร้างใหม่ ด้วยการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพป้อนสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดการนำเข้าเหล็กแท่งยาวจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เดินเครื่องจักรผลิตในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ (Off-Peak Period) โดยใช้กำลังการผลิตจริงประมาณร้อยละ 60 ของกำลังการผลิตเต็มที่ (450,000 ตันต่อปี) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 75 — 80 หรือประมาณ 360,000 ตันต่อปี ในปี 2555 เพื่อไปทดแทนความต้องการในส่วนที่มีการนำเข้าเหล็กแท่งยาวจากต่างประเทศ และจากแนวโน้มความต้องการเหล็กที่คาดว่าจะสูงขึ้นนั้น บริษัทฯ ได้สั่งจัดหาวัตถุดิบและเร่งเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการเหล็กไปซ่อมแซมและฟื้นฟูสาธารณูปโภค และอาคารบ้านเรือน ที่เสียหายจากภาวะวิกฤติน้ำท่วมในครั้งนี้ “จริงๆ แล้ว หากผลิตทั้งกลางวัน กลางคืน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเหล็กแท่งยาวรวมทั้งสิ้น 730,000 ตันต่อปี แต่ปัจจุบันเราผลิตเฉพาะช่วงกลางคืน ดังนั้นจึงไม่ห่วงเรื่องการผลิตเหล็กรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริษัทของเราจะพยายามผลิตทดแทนการนำเข้า เพื่อลดการสูญเสียเงินตราออกไปต่างประเทศด้วย” นายอนาวิล กล่าวและเสริมว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านไป ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กทุกชนิดเพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูประเทศจะมีมากขึ้น ซึ่งในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตเหล็กแท่งยาวที่เป็นอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ เราพร้อมผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อนำไปใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กชนิดต่างๆ รองรับกับความต้องการที่นำไปใช้ก่อสร้างฟื้นฟูประเทศ และป้องกันไม่ให้เหล็กซึ่งถือเป็นสินค้าหลักที่ใช้ในการฟื้นฟูประเทศขาดแคลนในยามที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ในขณะนี้ ด้านนางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กในไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงปี 2555จะมีสูงขึ้น เนื่องจากภาครัฐจะใช้เงินลงทุนเพื่อซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม รวมถึงการวางแผนลงทุนในระยะยาวเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การก่อสร้างเขื่อน -อ่างเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาเหล็กได้ผ่านช่วงต่ำสุดมาแล้ว จึงมองว่าจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล็กจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึง บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ด้วยเช่นกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนาม บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้) อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) โทร. 02-248-7967-8 ต่อ 117 Email : orn_tabo@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ